มูลนิธิหมู่บ้าน-ธ.ก.ส.-ปตท.-สวทช. ร่วมจัดตั้งสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน

15 Aug 2002

กรุงเทพฯ--15 ส.ค.--ปตท..

4 หน่วยงานภาครัฐและเอกชนร่วมสร้างฐานรากเศรษฐกิจไทยให้เข้มแข็งด้วยการส่งเสริมชุมชนให้สามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจจนถึงขั้นพึ่งตนเองได้ ผ่านกระบวนการทำงานของสถาบันฯ โดย ปตท. จะสนับสนุนเงินจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อให้สถาบันฯเริ่มดำเนินงานตามเป้าหมายได้ในทันที และ ร่วมกับ ธ.ก.ส. ใช้เครือข่ายทางธุรกิจมาสนับสนุนและส่งเสริมการทำงานดังกล่าว ในขณะที่ สวทช. และ มูลนิธิหมู่บ้าน จะใช้เครือข่ายทางวิชาการและองค์กรชุมชน ผนึกกำลังแก้ไขปัญหาชนบทให้เกิดความเข้มแข็ง โดยมีการส่งเสริมและพัฒนาแบบยั่งยืน

วันนี้ (14 ส.ค. 2545) ที่อาคารสำนักงานใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ศาสตราจารย์นายแพทย์ ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส เป็นประธานในพิธีลงนามในบันทึกความร่วมมือการก่อตั้งสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน (สสวช.) ระหว่าง ผู้แทนของ 4 หน่วยงาน ประกอบด้วย มูลนิธิหมู่บ้าน ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.)

ศ.น.พ. ประเวศ วะสี กล่าวว่า การร่วมมือกันเป็นสิ่งที่ดีและจำเป็นสำหรับการทำงานเพื่อแก้ไขปัญหาสังคมทุกวันนี้ ซึ่งภาครัฐหรือภาคเอกชนเพียงฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ แต่ถ้าองค์กรต่างๆจากภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐให้การสนับสนุนก็จะเกิดพลัง ทั้งนี้ องค์กรประสานพลังเช่นนี้ยังมีอยู่ไม่มากนัก ส่วนใหญ่แล้วจะมีแต่องค์กรที่ต่างฝ่ายต่างทำ ความร่วมมือกันยังมีน้อย แต่หากมีการร่วมมือกันอย่างจริงจัง โดยมีองค์กรที่ทำหน้าที่ประสานงานที่ดี โดยเฉพาะการร่วมมือกันจัดตั้งสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนในลักษณะองค์กรร่วม ก็จะทำให้พลังกลายเป็นทวีคูณ

ศ.น.พ. ประเวศ กล่าวเพิ่มเติมว่า ตามแผนงานของ 4 ภาคีที่ก่อตั้งสถาบันฯ ซึ่งจะร่วมกับองค์กรอื่นๆ อีกหลายองค์กรนั้น มีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการเรียนรู้ให้ชุมชนทำแผนแม่บทให้ครบทุกตำบลภายใน 3-4 ปี การส่งเสริมการเรียนรู้นับเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เพราะสังคมที่มีฐานอยู่บนความรู้และจัดการความรู้เป็นจะแก้ปัญหาความยากจนได้ ความยากจนต้องแก้ด้วยปัญญา การส่งเสริมการเรียนรู้ให้เกิดปัญญาจึงมีความสำคัญ และหากทำให้ทั้ง 7,000 ตำบลเกิดความรู้และปัญญาก็จะมีทางหายจนได้ ประเทศไทยก็จะมีรากฐานการพัฒนาที่เข้มแข็งและยั่งยืน

ดร. เสรี พงศ์พิศ ประธานมูลนิธิหมู่บ้าน ในฐานะผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนกล่าวว่า มูลนิธิหมู่บ้านมีฐานข้อมูลและประสบการณ์เกี่ยวกับชุมชนมานาน สามารถประสานเครือข่ายองค์กรชุมชนทั่วประเทศ โดยจะทำหน้าที่เป็นแกนนำในงานด้านข้อมูล สื่อ และการพัฒนาบุคลากร โดยการจัดการฝึกอบรมบุคลากรให้ภาคีต่างๆ เพื่อทำหน้าที่ประสานการเรียนรู้การทำแผนแม่บทชุมชนให้ครบทุกตำบล เพราะแผนแม่บทชุมชนจะนำไปสู่การพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ซึ่งมูลนิธิหมู่บ้านได้ทำมาก่อนหน้านี้ประมาณ 500 ตำบลและจะร่วมมือกับภาคีในสถาบันฯ โดยเฉพาะ ธ.ก.ส. และกับภาคีอื่นๆ นอกสถาบันฯ เช่น กระทรวงกลาโหม ในการทำแผนแม่บทตำบลชายแดน สถาบันอุดมศึกษาต่างๆ และครู อาจารย์ ในโรงเรียนประถมและมัธยมศึกษา เพื่อร่วมกันสร้างกระบวนการเรียนรู้ ทำแผนแม่บทและพัฒนาวิสาหกิจชุมชน ทั้งนี้โดยมีเครือข่ายองค์กรชุมชนในพื้นที่ต่างๆให้ความร่วมมือเป็นพี่เลี้ยง วิทยากร และผู้ประสานงานในพื้นที่

นายพิทยาพล นาถธราดล ผู้จัดการ ธ.ก.ส. กล่าวว่า ภารกิจของ ธ.ก.ส. ในการสนับสนุนสถาบันวิสาหกิจชุมชนประกอบด้วย การพัฒนาแผนแม่บทและแผนพัฒนาวิสาหกิจชุมชนทุกตำบล การส่งเสริมวิสาหกิจชุมชนสัมพันธ์และกลุ่มผู้สนับสนุนวิสาหกิจชุมชนให้เกิดขึ้น และให้เข้มแข็งพอ จนสามารถให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนได้ บทบาทของธ.ก.ส.ยังรวมไปถึงการพัฒนาระบบการจัดการทุนเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน การส่งเสริมให้เกิดเครือข่ายวิสาหกิจชุมชนในทุกระดับ การวิเคราะห์ศักยภาพและการจัดทำแผนที่สถานประกอบการวิสาหกิจชุมชน แผนที่จุดพำนักของผู้รู้และผู้นำวิสาหกิจชุมชนทั่วประเทศ การจัดทำทะเบียนชุมชนเพื่อเป็นฐานการส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน การสนับสนุนการเรียนรู้ต่อเนื่องและการฝึกอบรมที่เกี่ยวข้องกับวิสาหกิจชุมชนให้แก่เกษตรกรหลังการทำแผนแม่บทชุมชน นอกจากนั้นยังเป็นแหล่งเงินทุนให้แก่วิสาหกิจชุมชนที่เข้มแข็ง เพื่อนำไปลงทุนพัฒนาผลิตภัณฑ์และขยายกิจการ โดยในปี 2545 ธ.ก.ส. พร้อมที่จะสนับสนุน “สินเชื่อวิสาหกิจชุมชน” ได้ทันทีในวงเงินไม่ต่ำกว่า 10,000 ล้านบาท

นายวิเศษ จูภิบาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวว่า ปตท. พร้อมที่จะให้การสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนอย่างเต็มที่ เนื่องจากวัตถุประสงค์และเป้าหมายของ สสวช. สอดคล้องกับนโยบายการทำประโยชน์ทางด้านสังคมของ ปตท. ที่เน้นเรื่องกระบวนการเรียนรู้ทั้งในและนอกระบบเพื่อสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ชุมชน ทั้งนี้ ปตท.จะสนับสนุนเงินทุนจำนวน 10 ล้านบาท เพื่อให้ สสวช. สามารถเริ่มงานได้ทันทีตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดไว้ นอกจากนี้ ปตท.จะดำเนินการด้านการส่งเสริมการตลาดให้กับวิสาหกิจชุมชน โดยนำผลผลิตของชุมชนจำหน่ายผ่านเครือข่ายสถานีบริการน้ำมัน ปตท.ทั่วประเทศ และปตท.ยังจะดำเนินการด้านการพัฒนาบุคลากร ทั้งในส่วนของ ปตท. แกนนำองค์กรรัฐวิสาหกิจ และภาคธุรกิจต่างๆให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับชุมชนมากยิ่งขึ้น เพื่อที่จะช่วยให้การส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจชุมชนเติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ

ในส่วนของ สวทช. นั้น ศ.ดร.ไพรัช ธัชยพงษ์ กล่าวว่า สวทช. จะรับผิดชอบในส่วนสำคัญ 3 ส่วน ได้แก่ การส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ เป็นการส่งเสริมความรู้ความเข้าใจทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รวมทั้งการสร้างความสามารถในด้านนี้ให้กับชุมชนโดยเฉพาะครูและนักเรียน ตลอดจนการวิเคราะห์โจทย์และปัญหาในชุมชนโดยการใช้กระบวนการเชิงวิทยาศาสตร์ การพัฒนาแผนแม่บทชุมชน โดยการรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลและการนำปัญหาของชุมชน มาเปลี่ยนให้เป็นโจทย์ทางวิชาการเพื่อให้เกิดแผนงานวิจัย และการดำเนินงานวิจัยแบบมีส่วนร่วมระหว่างชุมชนกับสถาบันการศึกษาที่เป็นเครือข่ายทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค และ การให้บริการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการประกอบกิจกรรมการผลิต เพื่อการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การควบคุมคุณภาพและการสร้างให้เกิดเครือข่ายผู้ให้บริการทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีกับกลุ่มชุมชน ต่อไป--จบ--

-สส-