กรุงเทพฯ--8 มี.ค.--ทเว็นตี้ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ & วอเนอร์ บรอส.
เมื่อศึกษาแล้วว่า ซลอธ เป็นสัตว์ที่เกียจคร้าน งานสร้างภาพให้ ซิด ดูซับซ้อนและน่าตื่นเต้น จึงเป็นงานที่คณะวาดแอนนิเมชั่นของ Blue Sky สามารถละเลงฝีมือได้อย่างเต็มที่ "เราเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับ ซิด มากเชียวล่ะ" เว็ดจ์เล่า "มันบิดตัวเอี้ยวได้สุด ๆ, พูดคล่อง, และที่แตกต่างไปโดยสิ้นเชิงก็คือ มันเคลื่อนไหวได้อย่างรวดเร็วตามใจปรารถนาเลยล่ะ แต่เพื่อให้มันยังคงเหลือความเป็น ซลอธ อยู่บ้างเราจึงจำกัดการเคลื่อนไหวแขนขา, เพื่อให้ดูเป็นสัตว์เกียจคร้านอยู่ดีนั่นแหละ"
สมาชิกตัวที่สามของคณะผ่าเหล่าก็คือ ดีเอโก้ เสือเขี้ยวดาบที่มุ่งมั่นเอาชีวิตให้รอดมาโดยตลอด จนกระทั่งเกิดมิตรภาพกับ แมมมอธขนยาว และ ซลอธปากเปราะ นี่แหละ ดีเอโก้ ก็คล้ายกับ แมนนี่ ตรงที่ ปากร้ายแต่ใจดี "ดีเอโก้ไม่เคยรู้จักความหมายของครอบครัว หรือ เพื่อน มาก่อนเลย" เว็ดจ์เล่าว่า ดีเอโก้ และเพื่อนร่วมฝูงอยู่กันแบบกองกำลังผู้ล่าที่พยายามจะเอาชีวิตให้รอดในยุคน้ำแข็ง "เราทำให้พวกมันดูเป็นเหล่านักรบผู้ล่า"คณะผู้สร้างภาพยนตร์มั่นใจว่า มันเป็นผลงานที่ลงตัวทั้งน้ำเสียงและบุคลิก เมื่อเจาะจงให้ เดนิส เลียรี่ ( Denis Leary ) มาพากย์เสียงเป็น ดีเอโก้ ( Diego ) "เดนิสเป็นคนที่สวมบทบาทปากร้ายใจดีมานักต่อนักแล้ว ซึ่งเขาก็ตีบทแตกอยู่ร่ำไป" เว็ดจ์ เอ่ยถึงนักแสดงหนุ่มที่อุทิศชีวิตให้กับงานสาธารณกุศลอย่าง นักดับเพลิง และผู้รักษากฎหมายมาตลอด "เดนิส เสริมบุคลิกของ ดีเอโก้ ให้เป็นแบบ 'คนแกร่ง' แต่เต็มไปด้วยจิตใจอันดีงาม แม้จะไม่ค่อยตระหนักถึงคุณงามความดีที่ซ่อนอยู่ลึก ๆ ก็ตามที"
ก่อนหน้านี้ เดนิส เลียรี่ ( Denis Leary ) เคยพากย์เสียงเป็น ฟรานซิส ( Francis ) แมลงเต่าทองใน "A Bug's Life" งานพากย์การ์ตูนจึงไม่ยากสำหรับเขามากมายนัก แต่เขากลับมองว่า บทบาทของเขาใน ICE AGE เป็นสิ่งแปลกใหม่ "หลายปีแล้วครับ" เลียรี่ ลงความเห็น "เด็กรุ่นใหม่ รวมทั้งลูก ๆ ของผมเองด้วยที่รู้จักผมในนามของ แมลงเต่าทอง ผมจึงคิดว่า มันก็น่าจะดีไม่น้อยที่จะพากย์เป็นตัวละครที่ใกล้เคียงกับตัวตนที่แท้จริงของผม ก็เป็น สมิงสองหน้าไว้ลายทระนง ไงล่ะครับ""อันที่จริงแล้ว บุคลิกของ ดีเอโก้ นี่ลงตัวกับของผมพอดีนะ" เลียรี่ กล่าวกลั้วหัวเราะ "คุณก็รู้นี่นา สุดหล่องามสง่า เป็นที่เกรงขามของบุรุษ และเป็นที่โหยหาของสตรี ต่างกันก็เพียงเขี้ยวดาบนี่แหละ"
คาร์ลอส ซัลดานฮา ( Carlos Saldanha ) ผู้ช่วยผู้กำกับภาพยนตร์ สาธยายว่า ดีเอโก้ เป็นตัวละครที่ซับซ้อนที่สุดในเชิงการเคลื่อนไหว "ดีเอโก้คล่องแคล่วว่องไว และเราก็แสดงให้เห็นกันจะ ๆ ด้วย" ซัลดานฮา เล่า "ทั้งยังสร้างภาพให้มันวางท่าทางหลากหลายสารพัด แต่ในขณะเดียวกัน ดีเอโก้ ก็จะต้องวางตัวอย่างสุขุม และยังแสดงออกทางสีหน้าแทนคำพูดบ่อยครั้งด้วย"
เมเลแดนดรี้ ผู้บริหารงานอำนวยการสร้างภาพยนตร์ ยกย่อง ปีเตอร์ เดอเซฟ ( Peter deS?ve ) ผู้ออกแบบตัวละครว่าเป็นหัวเรือใหญ่ในการสร้างชีวิตชีวาให้กับตัวละครทั้งหมด "เราโชคดีมากที่ ปีเตอร์ อยู่ร่วมงานตลอดการสร้าง" เมเลแดนดรี้กล่าว "ช่วยให้เรารักษาความคงเส้นคงวาของงานออกแบบที่จะต้องผ่านขั้นตอน ทั้งการสร้างหุ่นจำลอง, เสริมแต่ง, และวาดภาพ"
นอกจาก ดีเอโก้, แมนนี่, ซิด, และ "สัมภาระ" - ทารกน้อย โรชาน ( human infant Roshan ) - รวมตัวกันเป็นครอบครัวผ่าเหล่าแรกของโลกในยุคน้ำแข็งแล้ว ยังมีตัวละครลิ่วล้อที่แม้ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวนี้ แต่ก็ เจ๋อสะเด็ดทุกองศา ติดสอยห้อยตามมาสร้างความเฮฮาตลอดการเดินทางเช่นกัน
คณะผู้สร้างภาพยนตร์สร้างสรรค์ สแคร็ท ( Scrat ) สัตว์พันธุ์ทางลูกผสมระหว่าง กระรอก กับ หนู ( เว็ดจ์ มักจะเรียกมันว่า "กระรอกเขี้ยวดาบ" ) และเป็นตัวละครเปิดฉากยุคน้ำแข็งอย่างแท้จริง "ผมรู้สึกว่าเรากำลังสร้างหนังว่าด้วยยุคน้ำแข็ง" เว็ดจ์ สาธยาย "ดังนั้น ยุคน้ำแข็ง เองก็น่าจะเป็นตัวละครหนึ่งด้วย เราจึงตัดสินใจที่จะสร้างสัตว์ที่มีเฉพาะในยุคนั้นโดยแท้ ก็ลงเอยที่ สแคร็ท ผู้อาภัพนี่แหละ"
อาภัพเลยแหละ ก็มันมุ่งมั่นจะฝังกลบผลลูกโอ๊คให้ได้ เฉกเช่นเดียวกับที่กระรอกทั่วไปพึงเก็บสะสมอาหารก่อนเข้าหน้าหนาว ( อ้าว ก็ยุคน้ำแข็งนี่ถือเป็นหน้าหนาวที่สุดในโลกไม่ใช่หรือ ? ) แต่เมื่อ เจ้าสแคร็ท พยายามขุดเจาะน้ำแข็งเพื่อฝังกลบ มันกลับสร้างความหายนะถึงกับภูเขาน้ำแข็งสูงชันถล่มลงมาทีเดียว เจ้าสแคร็ท ต้องหนีหัวซุกหัวซุนเอาชีวิตให้รอดจากคมแหลมของน้ำแข็งยอดเขาที่หล่นไล่หลังไปตามดินแดนก่อนประวัติศาสตร์เวิ้งว้าง แล้วยังต้องยึดผลลูกโอ๊คติดตัวไว้ตลอดอีกด้วย
ฉากเปิดเรื่องของภาพยนตร์เรื่อง ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" ฉากนี้ไม่เพียงเปิดเผยให้เห็นภูมิทัศน์ของโลกที่ตัวละครเหล่านี้ใช้ชีวิตอยู่เท่านั้น หากยังเป็นตัวกำหนดองค์ประกอบของภาพยนตร์ทั้งเรื่องด้วย เมื่องานสร้างดำเนินไป เจ้าสแคร็ทก็จะเริ่มสร้างความประทับใจให้กับผู้ชมผ่านหนังตัวอย่าง และก็ประทับใจผู้สร้างภาพยนตร์เองด้วย "นาน ๆ เราจะให้ สแคร็ท โผล่ออกมาทีหนึ่ง" เว็ดจ์ เล่า "ช่วงที่สถานการณ์กำลังเข้าตาจน หรือไม่ก็ช่วงผ่อนคลาย ซึ่งมันก็จะออกมาทำท่าทางฝังกลบผลลูกโอ๊คอย่างเอาจริงเอาจังอยู่ทุกครั้งไปแหละ"เว็ดจ์ ยังให้เสียงพากย์ สแคร็ท เองด้วย แม้มันจะไม่พูดเลยสักคำ แต่ก็จะส่งเสียงลอดไรฟันบ้าง, ขบเขี้ยวเคี้ยวกรามบ้าง ซึ่งก็ต้องขอบคุณที่ เว็ดจ์ ช่วยสร้างสีสันให้ สแคร็ท สนุกสนานและน่าประทับใจ
การได้ สแคร็ท มาเป็นตัวป่วนยุคน้ำแข็งนั้น เป็นเพียง จุดเริ่มต้น หรือ ยอดน้ำแข็ง ในงานสร้างสภาพแวดล้อมของภาพยนตร์เรื่องนี้ ช่วงต้น ๆ ของประวัติศาสตร์โลกใบนี้ มียุคน้ำแข็งเกิดขึ้นหลายครั้งด้วยกัน ชนิดที่ทุกหัวระแหงปกคลุมด้วยน้ำแข็ง และกัดกร่อนผิวโลกชนิดผิดรูปเกินจดจำได้ ธารน้ำแข็งที่มีเนื้อที่มากกว่าครึ่งหนึ่งก็ปรับสภาพไปเป็นป่าดิบชื้น แล้วเสื่อมสลายผ่านกาลเวลา แล้วปรับสภาพอีก
ยุคน้ำแข็งในภาพยนตร์เรื่อง ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" นี้ย้อนหลังกลับไปในโลกที่หายสาบสูญไปกว่าสองหมื่นปีแล้ว "ผมรู้สึกว่า ยุคน้ำแข็ง นี่เหมาะจะสร้างเป็นหนังมาก เพราะมันเป็นโลกที่แปลกหูแปลกตาสำหรับเราทุกคน และเราสามารถปลดปล่อยจินตนาการไปไกลแค่ไหนก็ได้ตามใจปรารถนา" เว็ดจ์เล่า
แม้จินตนาการเป็นใหญ่ แต่คณะผู้สร้างภาพยนตร์ก็พยายามให้ ยุคน้ำแข็ง ของพวกเขาน่าเชื่อถือตามหลักฐานทางประวัติศาสตร์บ้าง ทำให้ต้องค้นคว้า ข้อเท็จจริงว่าด้วยยุคน้ำแข็ง จาก American Museum of Natural History ในนิวยอร์ค ( New York ) พวกเขาใช้เวลามหาศาลนั่งพินิจพิจารณากระดูกแมมมอธขนยาว, ค้นคว้าตำราหลายร้อยหลายพันเล่ม, และปรึกษาผู้เชี่ยวชาญความเป็นมาของยุคหิน และนักโบราณคดีหลายต่อหลายคน
แม้ว่านักวิทยาศาสตร์เหล่านี้จะเข้าใจว่า จินตนาการเป็นใหญ่ในงานนี้ แต่ก็มีข้อเท็จจริงบางประการที่ภาพยนตร์เรื่องนี้พึงรักษาไว้ เช่นสัตว์บางพันธุ์ที่เคยปรากฎตัวในหนังดังทำเงินถล่มทลายบางเรื่องไม่อาจจะโผล่เข้ามาใน ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" ได้ "พวกเขาเตือนว่า 'จะจินตนาการกันหลุดโลกแค่ไหนก็ตามใจ'" เว็ดจ์เล่า "'ขอเพียงอย่าให้ ไดโนเสาร์ โผล่เข้ามาเป็นใช้ได้' อ้าว ก็ ยุคจูราสสิค นี่มันหายสาบสูญไปก่อนหน้านั้นตั้ง 350 ล้านปีแล้วไง เราจึงให้คำมั่นกับพวกเขาว่า มันจะไม่โผล่มาอาละวาดเป็นอันขาด"
คณะผู้สร้างภาพยนตร์เจาะจงให้ ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" เกิดขึ้นในอเมริกาเหนือ ( North America ) เพื่อกำหนดวัฒนธรรม และเพลงประกอบ รวมทั้งงานกำกับศิลป์, สีสันที่เลือกใช้, และแสงเงาของภาพด้วย ซอฟท์แวร์จัดแสงเงาชื่อ Ray Tracing ถูกนำมาใช้เพื่อถ่ายทอดความละเอียดอ่อนของแสงในแต่ละภาพ, ความสมบูรณ์ของสีสัน, และอารมณ์ของตัวละคร กับสภาพแวดล้อมใน ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" อย่างเข้ากันลงตัว เว็ดจ์ และ คณะยังใช้ Ray Tracing ในการจัดแสงเงาของบางฉากเป็นกรณีพิเศษด้วย อย่างฉากขนสลวยที่จะตกกระทบแสงเงาแต่ละเส้นต่างกันไป
เว็ดจ์กล่าวเสริมว่า "Ray Tracing จะเสริมความซับซ้อนของแสงเสมือนจริง, ไล่สีและเงา เทียบได้กับสิ่งที่เราเห็นด้วยตาในโลกแห่งความเป็นจริงได้เลย มันคล้ายกับการถ่ายภาพดิจิตอลที่เราสามารถใช้คอมพิวเตอร์ได้ราวกับช่างภาพใช้กล้อง ช่วยสร้างภาพให้ตื่นตาตื่นใจ, สมจริง, และสัมผัสได้"
นอกจาก Ray Tracing แล้ว ผลงานวิจัยและพัฒนาของ Blue Sky ชิ้นอื่น ๆ ก็ถูกนำมาใช้ใน ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" ด้วย อาทิ ระบบ Particle type systems ( ช่วยสร้างขน, สร้างภาพภูมิทัศน์กว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ), ผลงาน volumetrics ( สร้างภาพไอน้ำที่ลอยตัวขึ้นมาเหนือแอ่งน้ำ ), และ fluid dynamics ที่ช่วยสร้างเอกลักษณ์ให้กับภาพยนตร์เรื่องนี้โดดเด่น "ผลงานของ Blue Sky นี่ช่วยประสานงานศิลปะให้เข้ากับเทคโนโลยีได้อย่างไม่มีที่ติ" เมเลแดนดรี้กล่าว
แม้จะได้เทคโนโลยีล้ำสมัยมาใช้งาน แต่คณะผู้สร้างภาพยนตร์ก็ไม่อาจละเลยการวาดภาพด้วยดินสอบนกระดาษธรรมดาไปได้ "มันช่วยให้เห็นชิ้นงานได้รวดเร็วขึ้น" เว็ดจ์เล่า "ทันใจ และช่วยให้แทรกเสริมอารมณ์ได้อย่างทันท่วงที"
นอกจากนั้น คณะผู้สร้างยังปั้นแบบจำลองจากดินเหนียว เพื่อให้ได้ผลงาน 3-D ที่สมบูรณ์แบบแล้วจึงสแกนเข้าไปในระบบคอมพิวเตอร์ของ Blue Sky ก่อนจะสร้างเป็นภาพสามมิติดิจิตอลของหุ่นในที่สุด จากนั้นนักวาดแอนนิเมชั่นจึงจัดวางท่าทางของตัวละครให้สอดคล้องกับเวลาและมุมภาพ เพื่อสร้างอากัปกิริยาเฉพาะจุด อาทิ พุงกระเพื่อม จนกลายมาเป็น บุคลิก ของตัวละครโดยรวม
เมื่อกระบวนการทำงานที่พิถีพิถัน, ยาวนาน, และแสนจะท้าทายความสามารถเสร็จสิ้นลง คริส เว็ดจ์ ( Chris Wedge ) ก็ได้เพียงหวังให้ภาพยนตร์เรื่อง ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" เป็น "หนังที่มีบางสิ่งบางอย่างสำหรับผู้ชมทุกเพศทุกวัย - ทั้งแอ็คชั่น, เฮฮา, ผจญภัย, และซาบซึ้งใจ - ล้วนเกิดขึ้นในโลกมหัศจรรย์ที่ไม่เคยมีใครเห็นกันมาก่อน ผู้ชมจะสมหวังกับมุขเฮฮา, สีสัน, ความสนุกสนาน, และแอ็คชั่นที่แน่นล้นเท่าที่แอนนิเมชั่นเรื่องหนึ่งพึงจะให้ได้ แต่ผมมั่นใจว่า อารมณ์ และความซาบซึ้งใจของ ICE AGE หรือ "ไอซ์ เอจ เจาะยุคน้ำแข็งมหัศจรรย์" จะทำให้พวกเขาประหลาดใจ เหนือสิ่งอื่นใดเลยก็คือ ผมหวังว่ามันจะทำให้ผู้ชมรู้สึกดีกลับออกไป"--จบ--
-อน-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit