นักเรียนนายเรืออากาศสร้างชื่อกระฉ่อนโลก

23 Jan 2002

กรุงเทพฯ--23 ม.ค.--กองทัพอากาศ

ลูกทัพฟ้าไทยสร้างดาวเทียมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประจุไฟฟ้าในอวกาศได้สำเร็จเป็นดวงแรกของโลกให้นาซา หลังคว้าทุนเรียนต่อในโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐ ฯ เป็น 1 ใน 10 นักเรียนต่างชาติที่ได้รับคัดเลือกให้เข้าเรียนก่อนจบด้วยคะแนนเกียรตินิยิมสูงสุด แนะเด็กไทยอยากไปเรียนต่อต่างประเทศต้องมุ่งมั่น และมีวินัย เผยเส้นทางอนาคตหลังกลับมาเป็นอาจารย์สอนนักเรียนนายเรืออากาศ พยายามไต่ฝันบิน เอฟ - 16

เรื่องราวของ ลูกทัพฟ้าไทยสมองอัจฉริยะที่ไปสร้างชื่อเสียงกระฉ่อนโลกด้วยวัยเพียง 24 ปี กับการสร้างดาวเทียมเก็บข้อมูลเกี่ยวกับประจุไฟฟ้าในอวกาศได้สำเร็จเป็นดวงแรกของโลกรายนี้ คือ เรืออากาศตรี เพชรเดช เพชรช่วย ปัจจุบันรับราชการในตำแหน่ง อาจารย์ภาควิชาวิศวกรรมไฟฟ้า โรงเรียนนายเรืออากาศ ถูกเปิดเผยถึงเรื่องราวอันน่าภาคภูมิใจ หลังจากเดินทางไปศึกษาต่อที่สหรัฐอเมริกามาตั้งแต่ปี 2540 ซึ่งการไปเรียนครั้งนั้น ไม่เพียงแต่สร้างชื่อมาให้กองทัพอากาศไทยเป็นอย่างมาก ยังไปสร้างเกียรติประวัติยอดเยี่ยมให้ประเทศ เพราะเป็นคนไทยคนที่ 2 ในประวัติศาสตร์ที่ได้รับเกียรตินิยิมจากโรงเรียนนายเรืออากาศสหรัฐ ฯ อีกด้วย

เรืออากาศตรี เพชรเดช ฯ เปิดเผยว่า รู้สึกดีใจที่มีโอกาสสร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศไทย เพราะตนเป็นเพียงเด็กบ้านนอกธรรมดา ๆ แต่ที่มีโอกาสเพราะครอบครับและกองทัพอากาศ ให้การสนับสนุนมาโดยตลอด ถือว่าเป็นหนี้แผ่นดิน และจะทำงานรับใช้ชาติด้วยความซื่อสัตย์นำความรู้ที่ได้มาพัฒนากองทัพอากาศต่อไป

ร.ต.เพชรเดช ฯ กล่าวอีกว่า ตนเป็นชาว จ.นครศรีธรรมราช มาจากครอบครัวฐานะปานกลาง พ่อเป็นครูที่โรงเรียนประสิทธิศึกษา อ.ท่าศาลา แม่เป็นแม่บ้าน มีพี่น้อง 3 คน ตนเป็นคนโต จบการศึกษาระดับมัธยมปลายที่โรงเรียนหาดใหญ่วิทยาลัย จ.สงขลา และสอบเข้าเป็นนักเรียนเตรียมทหาร รุ่น 37 และนักเรียนนายเรืออากาศ รุ่น 44 ต่อมาสอบชิงทุนกองทัพอากาศไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรีที่ทรีนิตี้ พาวลิ่ง ประเทศสหรัฐ ฯ และผลการเรียนก็ไม่ได้ทำให้ต้นสังกัดผิดหวัง เมื่อได้เป็นนักเรียนดีเด่นของโรงเรียนทุกภาคการศึกษามีระดับคะแนนสูงสุด 95.2% ก่อนจะได้รับการคัดเลือกให้เป็น 1 ใน 10 ของนักเรียนต่างชาติ จากผู้สมัครทั่วโลก ในปี 2540 ซึ่งจะรับนักเรียนปีละ 1,000 คน และส่วนใหญ่จะรับคนสหรัฐเท่านั้น ส่วนคนต่างชาติรับเพียง 1% โดยเลือกเรียนในสาขาวิศวกรรมอวกาศ ซึ่งนักเรียนส่วนใหญ่ที่เข้าไปเรียนมีความใฝ่ฝันจะเรียนสาขานี้ แต่ในที่สุดมีเพียง 20 คนเท่านั้น รวมทั้งตนที่สอบผ่าน

อาจารย เพชรเดชฯ กล่าวต่อไปว่า ต่อมาได้รับเลือกให้เป็นหัวหน้าวิศวกรในโครงการที่มีความสำคัญที่สุด คือการออกแบบ ผลิตและส่งดาวเทียมขึ้นสู่วงโคจรในอวกาศ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงกลาโหมสหรัฐ ฯ และจากนาซาที่ต้องการจะใช้เก็บข้อมูลเกี่ยวกับประจุไฟฟ้าในอวกาศ ดาวเทียมนี้ชื่อ FALCON SAT 2 เป็นดาวเทียมขนาด 45 กิโลกรัม ไม่มีผู้โดยสารสร้างขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ดังกล่าวเป็นดวงแรกของโลกโดยได้ออกแบบเริ่มสร้างดาวเทียม และผ่านการทดสอบคือปล่อยขึ้นสู่อวกาศ ในเวลา 7 เดือน ระหว่างเดือน พ.ย.2453 ถึง พ.ค.2544 ขณะนี้รอที่จะปล่อยเข้าสู่งวงโคจร โดยกระสวยอวกาศขององค์การนาซาในปลายปี 2545 "โครงการเริ่มจากกระดาษเปล่า มีนักเรียนได้รับการคัดเลือกเข้าร่วมในโครงการเพียง 16 คน โดยเป็นคนสหรัฐ ฯ 15 คน ยกเว้นตนที่หัวหน้าโครงการ ซึ่งทุกคนให้เกียรติในความรู้ความสามารถ ไม่มีการเหยียดผิว หรือดูถูกว่าเป็นคนเอเซีย ส่วนรูปร่างของดาวเทียม เป็นทรงลูกบาศก์ กว้าง x ยาว x สูง 25 นิ้ว สร้างขึ้นเพื่อแก้ปัญหาประจุไฟฟ้ารบกวนที่ทำให้ GPS หรือดาวเทียมที่ใช้สำหรับตำแหน่งบุคคลสำคัญ ๆ ทั่วโลก ซึ่งมี 10 กว่าดวง สามารถหาตำแหน่งบุคคลทั่วโลกได้สะดวก ไม่มีประจุไฟฟ้ามาขวาง ดาวเทียมที่ผมสร้างเป็นดวงแรกของโลก" ร.ต.เพชรเดช ฯ กล่าวและว่าหลังจากนั้น ก็ได้รับการคัดเลือกให้เป็นนักเรียนดีเด่นมีลักษณะทหารที่ดี จึงได้รับเกียรตินิยมสูงสุด ก่อนจะกลับมารับราชการเป็นอาจารย์ที่โรงเรียนนายเรืออากาศ โดยนายเรืออากาศผู้นี้ยังให้กำลังใจแก่เด็กไทยที่อยากไปเรียนต่างประเทศด้วยว่า ต้องดูแลวิยันตัวเองให้ดี และมีความมุ่งมั่น เพราะที่ต่างชาติยอมรับคือสมองและความสามารถ

ส่วนอนาคตหลังจากนี้ เรืออากาศตรีหนุ่มบอกว่าใฝ่ฝันมาตั้งแต่เด็กแล้วว่า อยากเป็นนักบินเครื่องบินไอพ่นขับไล่เอฟ-16 ขณะนี้จึงอยู่ระหว่างทำเรื่องขอเข้าเป็นศิษย์การบิน โรงเรียนการบิน กองบัญชาการยุทธทางอากาศ อ.กำแพงแสน จ.นครปฐม--จบ--

-สส-