กรุงเทพฯ--18 เม.ย.--ทเวนตี้ธ เซ็นจูรี่ ฟ็อกซ์ (ประเทศไทย)
การเดินทางของอนาคิน สกายวอล์กเกอร์
บทบาทของ อนาคิน สกายวอล์กเกอร์ คือจุดศูนย์กลางของ Attack of the Clones และของมหากาพย์โดยแท้จริง จอร์จ ลูคัส กล่าวว่า "สิ่งที่เป็นแรงผลักดันให้ผมสร้างเรื่องราวไตรภาคนี้ขึ้นมา ก็คือการสร้างเรื่องของคนซึ่งเริ่มจากการเป็นคนดี แต่ถูกครอบงำโดยด้านมืดจนกลายเป็นคนชั่ว ที่เลวร้ายจนกู่ไม่กลับ "นั่นคือเหตุผลที่ผมเริ่มเรื่องในตอน The Phantom Menace กับวัยเด็กของอนาคิน เมื่ออายุ 9 ขวบ เขาก็เหมือนเด็กธรรมดาทั่วไปที่น่าเอ็นดู" ลูคัสกล่าวต่อ "ผมอยากค้นคว้าว่าทำไมคนอย่างเขาถึงกลายเป็นคนร้ายไปได้" ริค แมคคอลลัมเสริมว่า "เรารู้ชะตาของอนาคินดีอยู่แล้ว ในหนังเรื่องนี้เราจะหาคำตอบให้คำถามว่า "อย่างไร" และ "ทำไม" ในตอนเริ่มเรื่องของ Attack of the Clones อนาคินได้ใช้เวลา 10 ปี ในฐานะผู้ศึกษาของพาดาวัน ภายใต้การสอนของโอบี-วัน เคโนบี อนาคินได้กลายเป็นเด็กหนุ่มหัวแข็งอายุ 19 ผู้เปี่ยมความมั่นใจและมีสัญชาติญานอันกระหายการผจญภัย สิ่งสำคัญที่เปลี่ยนแปลงในตัวเด็กหนุ่มเห็นได้อย่างชัดเจน "ในตอน Attack of the Clones นี้ เราจะได้เห็นช่วงเวลาแห่งความโกรธของอนาคิน" ลูคัสกล่าว "และพื้นฐานอารมณ์ของเขาที่เริ่มถูกดึงเข้าสู่ด้านมืด ความบกพร่องเดียวกันกับที่มนุษย์ทุกคนพานพบเหมือนถูกสาปไว้" โจนาธาน เฮลส์บอกว่า "มีเรื่องราวมากมายเกิดขึ้นในตอนนี้ : อนาคินยังเป็นคนเก่ง มีพรสวรรค์ เป็นที่รักใคร่ เป็นคนดีที่มีความตั้งใจทำทุกอย่างให้ดีที่สุด และเพื่อเป็นเจไดที่ทรงอานุภาพ เขาไม่ได้ตั้งใจจะเป็นคนเลว แต่ในหนังเรื่องนี้เราจะได้เห็นความกดดันต่างๆ ที่เขาได้รับ และได้รู้ถึงสิ่งยั่วยุใหม่ๆที่ผ่านเข้ามาในชีวิตเขาในการนำเสนอความซับซ้อนของอนาคินนั้น ต้องการนักแสดงที่ความสามารถอันประทับใจ โรบิน เกอร์แลนด์ ผู้คัดเลือกตัวแสดงใช้เวลาทำงานหนักถึงหกเดือนกว่าจะได้พบข้อสรุปที่พึงพอใจในการเลือกดาราชาวแคนาดา เฮย์เดน คริสเต็นเซ็น มาเป็นอนาคิน สกายวอล์กเกอร์ คนใหม่ให้กับ EPISODES II และ III ของมหากาพย์ Star Wars "ผมหมดหวังแล้วตอนนั้น - จนเฮย์เดนเดินเข้ามา" เกอร์แลนด์กล่าว "เขามีความสามารถพิเศษหลายอย่างที่เราต้องการในตัวนักแสดง เขาเด่นมากในจอ และมีสองบุคลิกซึ่งเราต้องการในบทนี้ - ความเปราะบางไม่มั่นคงและอดกลั้นน้อย เราต้องหาคนที่มีทั้งสองอย่างและมันยากมากที่จะหานักแสดงที่สามารถพลิกอารมณ์ไปมาได้ดี ผมว่าเขามีรูปลักษณ์และอารมณ์ที่จะสวมบทอนาคินในช่วงชีวิตที่สับสนที่สุด
ผู้อำนวยการสร้าง ริค แมคคอลลัมเห็นด้วยว่าคริสเต็นเซ็นมีความสามารถพิเศษซึ่งเหมาะสมที่จะนำเสนออารมณ์สองรูปแบบของอนาคิน "เฮย์เดนมีความไร้เดียงสาและซื่อสัตย์ ซึ่งหากคุณมองตาของเขา จะเห็นสิ่งต่างๆมากมายที่อยู่ในนั้น"คริสเต็นเซ็น ต้องเป็นผู้เติมช่องระหว่างบทบาทของสองนักแสดง ตั้งแต่ที่เจค ลอยด์ อายุ 8 ขวบได้แสดงไว้ใน The Phantom Menace และ ผลงานของ เซบาสเตียน ชอว์ ซึ่งอายุ 78 ปี ใน Return of the Jedi
และคริสเต็นเซ็น ในฐานะแฟนตัวยงของ Star Wars รู้ดีว่าเขาเป็นตัวเชื่อมและต้องเผชิญความท้าทายในการสานต่อระหว่างเด็กชายผู้เป็นทาสกระทั่งกลายมาเป็น ดาร์ก ลอร์ดแห่งซิธ ผู้เคยเป็นเจไดที่ดี "สิ่งที่ยากที่สุดในการแสดงเป็นอนาคินคือการหาสื่อกลางที่เจคปูพื้นไว้และสิ่งที่เซบาสเตียน ชอว์ แสดงออกในบทดาร์ธ เวเดอร์ ระหว่างความดีกับความชั่ว และทำให้สิ่งนั้นเป็นเรื่องที่น่าเชื่อถือ"คริสเต็นเซ็น ให้ความสำคัญทั้งด้านบวกและลบของบทบาทที่ได้รับ เขามักใช้เวลาหลายชั่วโมงปรึกษาหารือกับลูคัสเกี่ยวกับบทอนาคิน อีกทั้งยังศึกษาด้วยตนเอง เขาเน้นเป็นพิเศษกับแวบแรกที่เราจะได้เห็นความเป็นไปได้สู่ด้านมืด รวมทั้งความมุทะลุและการยั้งอารมณ์ไม่อยู่ของอนาคิน "อนาคินเป็นคนที่ยึดมั่นกับหน้าที่ในความรับผิดชอบในฐานะเจได เขามุ่งมั่นที่จะมีอิสระและทุกอย่างที่เขาทำต้องดีที่สุด และไม่เคยย่อท้อกับความท้าทาย"
รักต้องห้ามอารมณ์รุนแรงของอนาคินที่นำไปสู่ความพิสวาสต่อ แพดเม่ แม้ว่าจะเป็นสิ่งต้องห้ามของเจไดที่จะมีความผูกพันกับสิ่งเหล่านี้ อนาคินและแพดเม่ได้กลับมาพบกันอีกครั้งหลังจากสิบปีผ่านไป เมื่อชีวิตของเธอตกอยู่ในอันตรายและได้รับเสนอการอารักขาจากโอบี-วัน เคโนบี และลูกศิษย์อ่อนวัยของเขา อนาคินและแพดเม่มีความสัมพันธ์ลึกซึ้งร่วมกัน โจนาธาน เฮลส์กล่าวว่า "เป็นเรื่องความรักที่นุ่มนวลของผู้ใหญ่ที่ไม่ใช่รักแรกพบ เมื่อพบกันครั้งแรกเธอยังมองเขาเป็นเด็ก แต่ขณะเดียวกันก็เป็นความพึงใจภายใต้ความกดดัน ทั้งต้องเผชิญความจริงของรักต้องห้าม เป็นสิ่งที่น่าสนใจและความเป็นผู้ใหญ่"เช่นเดียวกับอนาคิน ผู้รับบทแพดเม่ คือ นาตาลี พอร์ทแมน ผู้เคยรับบทเดียวกันใน The Phantom Menace ผู้ได้ประสบความเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในช่วงสิบปีที่ผ่านมาหลังจากนั้น ภารกิจในฐานะราชินีแห่งดาวนาบูได้เสร็จสิ้นลง แพดเม่ได้กลายมาเป็นวุฒิสมาชิกหญิงสืบเนื่องจากใจรักงานด้านการเมือง ในขณะที่กาแล็กซีเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลงที่วุ่นวาย หน้าที่รับผิดชอบและความเป็นคนกล้าพูดของเธอได้ก่อให้เกิดความสั่นคลอนในวุฒิสภา ความเชื่อมั่นของแพดเม่ทำให้กลายเป็นเป้าสังหารของขบวนการแบ่งแยกนอกระบบ ซึ่งนำไปสู่การกลับมาพบกันระหว่างเธอกับอนาคิน และโอบี-วัน ความรับผิดชอบของแพดเม่ใหนหน้าที่การงานนั้นเป็นสิ่งที่ปิดกั้นความรักของเธอ และ อนาคินตั้งแต่แรก (เช่นเดียวกับกฎของเจไดในข้อห้ามมีความรักและผูกพัน) "แพดเม่เติบโตขึ้นเป็นหญิงสาว" พอร์ทแมนเล่า "เธอเป็นคนที่มีอุดมการณ์ ซื่อสัตย์และเป็นคนดี และนั่นทำให้เธอไร้เล่ห์มารยา แพดเม่ไม่ต้องการมีความรักเพราะเธอเห็นสิ่งอื่นสำคัญกว่า เธอมองอนาคตตนเองเป็นผู้นำ และไม่มีที่ว่างให้กับความอ่อนแอซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของความรัก"ผู้เชื่อมโยงบุคคลสำคัญอีกคนหนึ่งของอนาคินในเรื่อง Attack of the Clones ก็คือ โอบี-วัน เคโนบี ผู้พร่ำสอนอนาคินบนเส้นทางสู่การเป็นอัศวินเจได สิ่งที่ภาพยนต์ค้นหาพบในความสัมพันธ์ของพวกเขาชี้ให้เห็นถึงจุดศูนย์กลางของมหากาพย์และความเกี่ยวเนื่องต่อกัน พลังระหว่างพ่อกับ ลูก อาจารย์และผู้ฝึกหัด ครูและศิษย์ ความสัมพันธ์ของอนาคินและโอบี-วัน ยังเตือนให้ระลึกถึงความทรงจำอันแสนเศร้าของโอบี-วันเกี่ยวกับบิดาของลุค สกายวอล์กเกอร์ - อนาคิน - ภาพยนต์เรื่องแรกแห่งมหากาพย์ ในปี 1977 Star Wars: Episode IV A New Hope อนาคินเห็นว่าโอบี-วัน นั้นคือตัวแทนของบิดาซึ่งเขาไม่มี "โอบี-วัน และอนาคินอยู่ด้วยกันมานาน และฝึกฝนร่วมกันทุกวันนับแต่ไควกอนจากไป (อาจารย์เจไดซึ่งแสดงโดย เลียม นีสัน ใน The Phantom Menace]" อีวาน แมคเกรเกอร์ เล่าเตือนความจำ เขารับบทบาทเดียวกันใน The Phantom Menace - ซึ่งอเลค กินเนส เป็นผู้สร้างสรรค์ขึ้นในไตรภาคเดิม แมคเกรเกอร์ชื่นชมความสัมพันธ์ที่แนบแน่นของตัวละครทั้งสอง โอบี-วันมีความเชื่อที่ไม่ถูกต้องว่าเขาจะสามารถฝึกหัดให้อนาคินขึ้นสู่ระดับอาจารย์โยดา ซึ่งความผิดนี้ได้นำไปสู่จุดจบแห่งชีวิตของอนาคินและกาแล็กซีในที่สุด Attack of the Clones บรรยายเหตุการณ์แรกเริ่มของโศกนาฏกรรมทั้งมวล แม้ว่าพวกเขาจะมีความสัมพันธ์อันแน่นแฟ้นต่อกัน แต่พาดาวันหนุ่มเริ่มรู้สึกว่าถูกบีบคั้นและกดดันโดยกฎเกณฑ์จากผู้ฝึกสอนของเขา และได้ประสบกับความไม่สงบของพลังเป็นครั้งแรก เขาเริ่มรำคาญ และต่อต้านโอบี-วัน แมคเกรเกอร์ชี้ให้เห็นความสัมพันธ์นี้ รวมทั้งเรื่องราวที่ครอบคลุมทั้งหมดและการผจญภัยที่เกิดขึ้น เมื่อเปรียบเทียบกับผลตอบรับของสองตอนแรกของไตรภาคเดิม ว่า "Attack of the Clones เป็นการปูพื้นสู่ A New Hope และ The Empire Strikes Back" เขาอธิบายต่อว่า "รู้สึกได้ถึงแรงกดดันที่ก่อตัวขึ้น และในขณะเดียวกันก็มีบางครั้งที่เต็มไปด้วยช่วงเวลาสนุกสนาน ผมชื่นชอบความลึกลับของหนัง - 'การเดินทาง' เพื่อสืบความลับของโอบี-วัน ซึ่งพาเขาไปสู่ใต้พิภพ ตรอกซอกซอย และบาร์ แม้กระทั่งดาวแปลกๆ"
แซมมวล แอล แจ็คสัน ซึ่งกลับมารับบท อาจารย์เจได เมซ วินดู เห็นด้วยว่า Attack of the Clones เป็นการกระตุ้นความทรงจำแห่งการผจญภัยและความมหัศจรรย์แห่งไตรภาคแรก "ผู้คนหลายล้านที่รักหนังทุกเรื่องจะได้พบกับแอ็คชั่นระทึกใจ ความผิดบาป และความรักใน Attack of the Clones เช่นเดียวกัน" เขายังกล่าวอีกว่า "เรื่องนี้จะสร้างความสนใจให้กับผู้คนอีกมากมาย"
ตัวละคร เมซ นั้นมีความสำคัญมากทีเดียวในหนังเรื่องนี้ เจไดผู้เป็นที่นับถือในระดับเดียวกับอาจารย์โยดา เป็นสมาชิกอาวุโสของสภาสูงแห่งเจได เมื่อกาแล็กซีเต็มไปด้วยความสั่นคลอนจากการเคลื่อนไหวของผู้แบ่งแยกซึ่งมีกองกำลังยิ่งใหญ่โดยมีอดีตเจไดเป็นผู้นำ
เมซรู้ดีว่าเวลาแห่งการต่อรองได้ผ่านพ้นไปแล้ว - และนี่คือเวลาแห่งการต่อสู้
ใน Attack of the Clones เมซ ซึ่งเต็มไปด้วยความสามารถ เป็นผู้ที่อยู่ในกระบวนการต่อสู้อันดุเดือด และนี่คือสิ่งที่แซมมวล แอล แจ็คสันรอคอยมานาน "เมซรู้ว่าสงคราวกำลังจะเกิด และเขาอยู่ในสภาวะเตรียมพร้อม" เจ้าตัวบอก "ผมดูและชื่นชอบหนังของเออโรล ฟลินน์มาตลอดชีวิต และตอนนี้ผมได้อยู่ร่วมในฉากการต่อสู้อันเหลือเชื่อเหล่านั้น"
หนึ่งในจำนวนศัตรูแห่งสาธารณรัฐซึ่งเมซและโอบี-วัน ต้องเผชิญได้แก่ นักล่าเงินรางวัลมือหนึ่งที่ร้ายกาจที่สุดในกาแล็กซี ชื่อของเขาคือ จังโก้ เฟตต์ ซึ่งเข้ากันได้ดีกับชุดเสื้อเกราะและยานของเขา Slave I อันคุ้นตาของบรรดาแฟนานุแฟนในด้านความสัมพันธ์ไม่ธรรมดาของเขาและลูกชาย โบบ้า
โบบ้า เฟตต์ นักรบซึ่งเปิดตัวตั้งแต่เรื่อง The Empire Strikes Back ในการขายต่อนักล่าเงินรางวัลแจ๊บบ้ากับฮาน โซโล ได้ออกจากเงามืดในที่สุดใน Attack of the Clones (ตัวละครนี้ถูกแนะนำอีกครั้งในฟุตเตจใหม่ของภาคพิเศษใน A New Hope) และใน Attack of the Clones นี้ได้เปิดเผยปูมหลังของตัวละคร หลักฐาน และโชคชะตา และแสดงให้เห็นว่าโบบ้ามีบทบาทสำคัญที่สุดในความขัดแย้งแห่งกาแล็กซี เราจะได้รู้ความเป็นมาของเขา ว่าทำไมจึงกลายมาเป็นนักฆ่าที่ไม่เป็นที่ชื่นชอบอย่างที่เราเห็น ผู้รับบทเฟตต์ได้แก่ ดาราหน้าใหม่ แดเนียล โลแกน อายุ 14 แสดงเป็นโบบ้า เฟตต์ ตอนเด็ก และดาราชาวนิวซีแลนด์ผู้โด่งดัง เตมูเอรา มอร์ริสัน (Once Were Warriors) เป็น จังโก้ เฟตต์
โบบ้าเดินตามรอยบิดาของเขา ผู้ฝึกฝนให้และเชื่อมโยงในฐานะพ่อ-ลูกนั้นคือตัวละครใหม่ในนาม เคานท์ ดูกู ซึ่งเคยเป็นอาจารย์เจไดผู้เปี่ยมเมตตา แต่แปรเปลี่ยนไปเพราะปัญหาวุ่นวายแห่งสาธารณรัฐ และรับหน้าที่ผู้นำขบวนการแบ่งแยก อาจารย์โยดาคือผู้ที่ฝึกสอนให้ดูกูเป็นเจได และต่อมาดูกูได้ฝึกสอนให้ไควกอนจินซึ่งโอบี-วันเคยเป็นเจไดฝึกหัดด้วย และอนาคิน ในฐานะเจไดฝึกหัดของโอบี-วัน นับได้ว่าเป็นรุ่นที่สี่ของอาจารย์-เจไดฝึกหัด ตามระบบของเจได คริสโตเฟอร์ ลี ดาราซึ่งเป็นเสมือนตัวแทนแห่งเรื่องราวน่ากลัวในใจของแฟนหนังสยองขวัญในบทบาทของแดรกคิวล่า ในภาพยนต์ซีรี่ส์ของแฮมเมอร์ ฟิล์ม มาเป็นผู้รับบทดูกู บทบาทที่โดดเด่นนี้มีส่วนคล้ายคลึงกับตัวละครหลักใน A New Hope: เจ้าหน้าที่ของจักรวรรดิ (และจอมบงการแห่ง Death Star) Grand Moff Tarkin, ซึ่งรับบทโดยเพื่อนของลี - ปีเตอร์ คุชชิง ผู้ล่วงลับ ความเหมือนกันไม่ได้เกิดขึ้นโดยบังเอิญ จากคำบอกเล่าของโรบิน เกอร์แลนด์ ลูคัสวางตัวดูกู ให้เป็น ปีเตอร์ คุชชิง ของเรื่องนี้ และเมื่อเขาพูดอย่างนั้นเขาก็เกิดความคิดที่จะให้คริสโตเฟอรื ลีเป็นผู้สวมบทนี้" ดูกู นั้นห่างไกลจากสัญลักษณ์ของความเป็นตัวร้ายอื่นๆ ของ Star Wars เช่น ดาร์ธ มัว และดาร์ธ เวเดอร์ อย่างไรก็ดีความสามารถของเขานั้นไม่ได้ด้อยไปกว่าผู้ดำเนินรอยตามรุ่นหลัง ดูกูเป็นผู้เชี่ยวชาญการใช้อาวุธของสถาบัน และตามที่ลีกล่าวไว้ "เป็นคนที่มีอานุภาพทั้งทางร่างกายและจิตใจ เป็นคนเย็นชา ใจแคบ และไร้ซึ่งความกลัว มีพลังอำนาจในตัวเอง" การแตกแยกของดูกูออกจากสาธารณรัฐนั้นยังผูกพันกับการเรืองอำนาจของแพลพาทีนในเรื่อง The Phantom Menace การห้ามค้าขายระหว่างดวงดาวของนาบูทำให้แพลพาทีนได้เป็นสมุหนายก หลังจากที่เขาปฏิญาณว่าจะเป็นผู้นำความสามัคคีกลับคืนมาสู่สาธารณรัฐ และจะก่อให้เกิดความยุติธรรมและระเบียบในรัฐบาล แต่ตรงข้ามกับคำมั่นของเขา สาธารณรัฐยังคงตกต่ำสู่ความวุ่นวายยุ่งเหยิง การขู่เข็ญที่เกิดขึ้นในกาแล็กซีทำให้วุฒิสภาแห่งกาแล็กซีต้องต่ออายุการทำงานของแพลพาทีนออกไป และให้อำนาจฉุกเฉินในฐานะสมุหนายกสูงสุดแก่เขา เพื่อจัดตั้งกองทัพอันเกรียงไกรแห่งสาธารณรัฐเพื่อปกป้องเหล่าประชากร กองทัพนี้เป็นส่วนหนึ่งของการเชื่อมโยงสู่ไตรภาคแรก ซึ่งได้รับการกล่าวถึงในเรื่อง A New Hope เกี่ยวกับสงครามโคลน อันเป็นแกนหลักในองค์ประกอบของ Attack of the Clones
เอียน แมคดิอาร์มิด รับบทเดิมเป็น แพลพาทีน ซึ่งเป็นบทเดียวกันใน Return of the Jedi และ The Phantom Menace ผู้แสดงต้องสื่อความต่อเนื่องในการนำเสนอความก่อกวนและความเป็นผู้ชั่วร้ายแห่งกาแล็กซี Star Wars - ในจำนวนหนังทั้งหมด "แพลพาทีนเป็นสุดยอดนักการเมือง" แมคดิอาร์มิดอธิบาย "ภายนอกเขาดูเป็น 'คนดีที่หนึ่ง' แต่ในความเป็นจริงเขาเป็นสิ่งที่ตรงข้ามโดยสิ้นเชิง เป็นบทบาทที่น่าสนใจมาก เพราะเขาเป็นนักแสดงตัวฉกาจ และเป็นคนที่ตระบัดสัตย์ได้แม้แต่กับคนที่วางใจในตัวเขามากที่สุด"
ผู้ที่ร่วมแสดงใน Star Wars นั้นยังรวมถึงดรอยด์ที่น่ารักอย่าง R2-D2 และ C-3PO Attack of the Clones นำเสนอความเกี่ยวเนื่องโดยเฉพาะอย่างยิ่งตัวหลัง ใน EPISODE I นั้น ทรีพีโอ ซึ่งเกิดจากการสร้างของอนาคิน ยังไม่มีเปลือกนอกและเป็นงานที่ยังไม่เสร็จสมบูรณ์ ระหว่างการรอคอยสิบปีของเขา หุ่นดรอยด์ก็ได้รับสิ่งห่อหุ้ม แต่ก็ยังไม่ได้เป็นหุ่นสีทองอย่างที่เราได้เห็นในไตรภาคแรก อันที่จริงทรีพีโอก็คือการรวบรวมวัสดุที่หามาได้จึงดูเหมือนเป็นการปะเข้าด้วยกันมากกว่า
ในเรื่องนี้ผู้ที่อยู่ในเครื่องแต่งกายใหม่นั้น คือ แอนโทนี ดาเนียลส์ ผู้ผ่านงานเดียวกันมาทั้งห้าเรื่อง เขาสวมชุดดรอยด์เป็นครั้งแรกในรอบยี่สิบปี และให้เสียงแก่ทรีพีโอ
เคนนี่ เบเกอร์ ผู้อยู่ในร่าง R2-D2 ใน Star Wars ทั้ง 4 ตอน ร่วมงานกับดาเนียลส์ในฐานะผู้แสดงเพียงคนเดียวที่ปรากฎในไตรภาคแรกทุกตอนและอีกสองเรื่องที่ตามมา แม้ว่าเทคโนโลยีของหุ่นยนต์จะก้าวไกลไปเสียจนหุ่นดีทูนั้นจะสามารถทำงานด้วยตนเองเกือบทั้งหมด แต่การที่มีเบเกอร์อยู่ภายในโดมในบางฉากนั้นก็ยังเป็นส่วนสำคัญอันเป็นองค์ประกอบของมนุษย์ ผู้ดูแลและบังคับดรอยด์ คือ ดอน บีส์ และเป็นผู้ดูแลพัฒนาและปรับปรุงดรอยด์ทุกตัวไม่เพียงแต่ R2-D2 เท่านั้น
ผู้เป็นศูนย์กลางแห่งเรื่องราวใน Attack of the Clones นั้นยังประกอบไปด้วย โอเวน ลาร์ส (แสดงโดยดาราชายชาวออสเตรเลีย โจเอล เอดเกอร์ตัน) และ เบรู ไวท์ซัน แสดงโดยดาราหญิงจากออสเตรเลีย บอนนี่ พีซ โอเวน อยู่ในเรื่อง A New Hope ในฐานะลุงผู้ดุดันของลุค สกายวอล์กเกอร์ และเบรู ผู้เป็นป้าที่น่าสงสารของเขา ทั้งโอเวนและเบรูยังไม่ได้แต่งงานกัน แต่ใกล้ชิดกันมาก ใน EPISODE II เราจะได้รู้ถึงความเกี่ยวพันของทั้งคู่กับอนาคิน และเข้าใจถึงสาเหตุที่พวกเขาพยายามปกป้องลูกชายของเจไดหนุ่ม - ลุค ในตอน A New Hope บิดาของโอเวน คลิค ลารส์ (รับบทโดยนักแสดงชื่อดังชาวออสเตรเลียน แจ็ค ทอมสัน)ซึ่งปรากฎตัวในการเดินทางของอนาคิน และมารดาของเจได ฉมี สกายวอล์กเกอร์ รับบทโดยเพอร์นิลลา ออกัสต์ ซึ่งเคยรับบทไว้ใน EPISODE I
(ยังมีต่อ)
-สส-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit