เปิดแผนซีเคดีเดมเลอร์ ไครสเลอร์

06 Oct 2000

กรุงเทพฯ--6 ต.ค.--เดมเลอร์ ไครสเลอร์ (ประเทศไทย)

นายคาร์ล ไฮน์ซ เฮกเฮาเซ่น ประธานบริหาร บริษัท เดมเลอร์ ไครสเลอร์ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทยืนยันในสัมพันธภาพที่ดีกับบริษัท ธนบุรีประกอบรถยนต์ จำกัด อดีตผู้แทนจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ ทั้งในด้านการเป็นตัวแทนจำหน่ายรายใหญ่ในปัจจุบัน และเคยทำธุรกิจร่วมกันเป็นเวลานาน ซึ่งที่ผ่านมาธนบุรีฯ มีการลงทุนจำนวนมาก ในการก่อตั้ง และพัฒนาโรงงานประกอบรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในอาเซียน

ดังนั้น เมื่อเดมเลอร์ ไครสเลอร์ มีแผนจะประกอบรถในประเทศไทย จึงมีความเห็นว่า โรงงานของธนบุรีฯ มีความเหมาะสมที่สุด แต่ที่ผ่านมายังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้ ไม่ได้เป็นเพราะเดมเลอร์ ไครสเลอร์ และธนบุรีฯ มีปัญหาการตกลงกันแต่อย่างใดทั้งสิ้น แต่เนื่องจากมีความจำเป็นต้องใช้เวลาในการเจรจาที่ยาวนาน

อย่างไรก็ดี ล่าสุดบริษัทได้ข้อสรุปกับธนบุรีประกอบรถยนต์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว และจะมีการเซ็นสัญญาว่าจ้างกันอย่างเป็นทางการ ภายใน ธ.ค.นี้ เนื่องจากเดมเลอร์ ไครสเลอร์ มีแผนจะทำตลาดรถยนต์ประกอบในประเทศ (ซีเคดี) ในไทยทุกรุ่น ไม่ว่าจะเป็น ซี-คลาส อี-คลาส หรือ เอส-คลาส

โดยในส่วนของ เอส-คลาส ที่เปิดตัวในไทยช่วง เม.ย.ที่ผ่านมา เป็นรถที่มีเทคโนโลยีสูง ดังนั้น ต้องมีการเตรียมการอย่างมาก โดยขณะนี้ ได้เริ่มถ่ายทอดเทคโนโลยีการผลิต ให้โรงงานของธนบุรีฯ และการส่งพนักงานจำนวน 120 คน ไปฝึกอบรมที่ศูนย์เทคโนโลยีในเยอรมนี รวมทั้งส่งคนจากเยอรมนีมาร่วมพัฒนาในประเทศไทย และคาดว่าจะเริ่มประกอบเอส-คลาสใน ต.ค.2543

"ในเดือน ต.ค.ปีหน้า เมอร์เซเดส-เบนซ์ จะมีรถยนต์นั่งซีเคดีครบทุกรุ่น และในปี 2544 เดมเลอร์ ไครสเลอร์จะยุติการทำตลาดรถนำเข้าสำเร็จรูป (ซีบียู) ยกเว้นรุ่นพิเศษ ที่มียอดจำหน่ายเฉพาะกลุ่ม เช่นรถสปอร์ต เป็นต้น" นายเฮกเฮาเซ่นกล่าวและว่า สำหรับแผนการผลิตเมอร์เซเดส-เบนซ์ เนื่องจากเดมเลอร์ ไครสเลอร์ ต้องการลดราคาจำหน่ายให้ต่ำลงจนสามารถแข่งขันตลาดระดับเดียวกันได้

ล่าสุดได้เข้าเจรจากับสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) และ รมต.อุตสาหกรรม เพื่อร่วมกันหาแนวทางพัฒนาชิ้นส่วนยานยนต์ไทยได้มาตรฐาน และมีคุณภาพเพียงพอ สำหรับการประกอบเมอร์เซเดส-เบนซ์ในไทย หลังจากนั้นจะหาแนวทางส่งออกชิ้นส่วนไปยังบริษัทแม่ ซึ่งภายหลังรวมตัวเป็นเดมเลอร์ ไครสเลอร์แล้ว มียอดผลิตแต่ละปีมากกว่า 1 ล้านคัน และยังเตรียมประกอบรถมินิบัส ทั้งรุ่นเครื่องยนต์เบนซิน และดีเซลเพิ่มในปีหน้าด้วย

ส่วนการแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่ม ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะเกรงจะกระทบผู้ที่ไม่ได้รับคัดเลือก พร้อมปฏิเสธว่า ที่ผ่านมาไม่มีปัญหาดังที่เคยเป็นข่าว แต่ล่าช้าเพราะขั้นตอนการตัดสินใจ ต้องเจรจากับธนบุรีฯ ก่อน

เดมเลอร์ ไครสเลอร์ ได้เปิดตัวรถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ ซีแอล 500 สปอร์ตคูเป้ เครื่องยนต์ 4966 ซีซี.วี 83 วาล์ว/สูบ ในราคา 14.6 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าราคาที่ผู้นำเข้าอิสระรายย่อย นำเข้ามาจำหน่ายก่อนหน้านี้ โดยตั้งเป้ายอดจำหน่ายไว้ 20 คันต่อปี และในปี 2543 คาดว่าจะทำยอดจำหน่ายเมอร์เซเดส-เบนซ์ได้ 3,600 คัน ซึ่งเป็นการโตขึ้นเท่าตัวจากปีนี้

"เป็นเรื่องยาก ที่จะทำยอดจำหน่ายให้เป็นไปตามเป้าหมาย แต่เราต้องทำให้ได้ เพื่อการก้าวขึ้นสู่ผู้นำอันดับ 1 ในตลาดรถหรูหราอีกครั้ง นอกจากนี้ที่ผ่านมา เดมเลอร์ ไครสเลอร์ ได้เปิดตัวรถยนต์ในส่วนของไครสเลอร์ คือ จิ๊ป แกรนด์เชโรกี และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี จึงเชื่อว่าตลาดรถยนต์เริ่มกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง และเห็นว่าลูกค้ายอมรับในเดมเลอร์ ไครสเลอร์มากขึ้น จึงมั่นใจว่าเป้าหมาย 3,600 คัน จะต้องทำได้อย่างแน่นอน" นายเฮกเฮาเซ่นกล่าว--จบ--

-สส-