กรุงเทพฯ--1 ธ.ค.--กทม.
เมื่อวานนี้ (30 พ.ย.43) เวลา 09.00 น. บริเวณห้าแยก ณ ระนอง หน้าโรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ นายสมัคร สุนทรเวช ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นประธานเปิดสะพานลอยคนเดินข้าม “เฉลิมฉลอง 72 พรรษา องค์ราชัน” โดยมี นายบพิธ แสงแก้ว ผู้อำนวยการเขตคลองเตย พร้อมด้วย คณะผู้ร่วมบริจาคทรัพย์ก่อสร้างสะพานฯ ประกอบด้วย ผู้แทนจากบริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัทคอลเกต – ปาล์มโอลีฟ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามเหล็กรีดเย็นครบวงจร จำกัด (มหาชน) บริษัทสยามสตริปมิลล์ จำกัด (มหาชน) ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ และสมาคมผู้ปกครอง – ครู เข้าร่วมพิธีฯ
บริเวณห้าแยก ณ ระนอง จัดว่าเป็นย่านธุรกิจที่ใหญ่แห่งหนึ่งในพื้นที่เขตคลองเตย มีธุรกิจขนาดใหญ่หลายบริษัท เช่น บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด บริษัทเชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด บริษัทคอลเกตปาล์มโอลีฟ จำกัด ฯลฯ ทั้งยังมีโรงเรียนขนาดใหญ่ที่มีนักเรียนเด็กเล็กและเด็กโตจำนวนมาก ทำให้การจราจรคับคั่งหนาแน่น การข้ามถนนแต่ละถนนในบริเวณนั้นจึงยากลำบากมาก มักเกิดอุบัติเหตุบ่อยครั้ง และบางครั้งถึงกับเสียชีวิตและทรัพย์สิน ดังนั้นทางกทม.จึงได้ร่วมมือกับกลุ่มธุรกิจดังกล่าวร่วมกันจัดสร้างสะพานลอยคนเดินข้ามขึ้น เพื่อถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในวโรกาสที่ทรงครองสิริราชย์สมบัติครบ 50 ปี และเพื่อป้องกันชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนที่สัญจรไป – มา ตลอดจนเป็นสวัสดิการของพนักงานกลุ่มธุรกิจต่าง ๆ ด้วย
ผู้อำนวยการเขตคลองเตย กล่าวว่า การจัดสร้างสะพานลอยคนข้าม บริเวณห้าแยก ณ ระนอง แห่งนี้ ได้จัดสร้างด้วยงบประมาณทั้งสิ้น 18,000,000 บาท กล่าวคือ กลุ่มบริษัทธุรกิจร่วมกันบริจาค รวมเป็นเงิน 11,694,379 บาท และกทม.จัดสรรงบประมาณสมทบอีก 6,305,651 บาท โดยทางกทม.ได้ให้สำนักการโยธาเป็นผู้ออกแบบและประมาณราคา พร้อมดำเนินการจัดจ้าง บริษัทล็อกซเล่ย์ จำกัด มหาชน เป็นผู้ก่อสร้าง ซึ่งดำเนินการก่อสร้างแล้วเสร็จเมื่อวันที่ 27 พ.ย.41 ระยะเวลาก่อสร้างรวมทั้งสิ้น 351 วัน
โอกาสนี้ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้กล่าวขอบคุณกลุ่มธุรกิจเอกชนในพื้นที่และผู้ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันทำให้เกิดสะพานลอยคนเดินข้ามแห่งนี้ขึ้น ตลอดระยะเวลาที่ตนเข้ามาบริหารงาน ตนได้พยายามที่จะให้บริการทุกอย่างในเบื้องต้นแก่ประชาชน แต่หากมีปัญหาบางประการที่กทม.ไม่สามารถให้บริการได้ และมีหน่วยงานเอกชนหน่วยงานใดเสนอความต้องการเข้ามาเพื่อช่วยแก้ปัญหาดังกล่าว ทางกทม.ก็มีความยินดีอย่างยิ่งที่จะสนองตอบต่อความช่วยเหลือ โดยเฉพาะสะพานคนเดินข้ามแห่งนี้ สำเร็จได้เนื่องจากการผนึกกำลัง ตลอดจนความร่วมมือจากทุกส่วนในสังคมที่จะเข้ามามีบทบาทในการพัฒนาและแก้ไขปัญหาร่วมกัน และขอให้ช่วยกันดูแลทำนุบำรุงรักษาสะพานฯ ให้คงสภาพที่ดีและเกิดประโยชน์ต่อไป--จบ--
-นศ-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit