กรุงเทพฯ--27 ต.ค.--สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์
รอยเนท ISP ผู้ให้บริการอินเทอร์เนต ของคนไทย ประกาศแผนธุรกิจพร้อมเข้าจดทะเบียนเป็นรายแรกในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ เผยระดมทุนเพื่อขยายเครือข่ายอินเตอร์เน็ตทั่วประเทศ ยืนยันขอเป็นบริษัทไอทีคนไทยที่สามารถยืนหยัดแถวหน้าทัดเทียมบริษัทต่างชาติ
นายกิตติพัฒน์ เยาวพฤกษ์ กรรมการผู้จัดการบริษัท รอยเนท จำกัด เปิดเผยว่า ขณะนี้บริษัทฯ กำลังเตรียมตัวเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) เพื่อระดมทุนในการขยายเครือข่ายบริการอินเทอร์เนตให้ครอบคลุมทั่วประเทศ โดยจุดประสงค์หลักของการเข้าจดทะเบียนในตลาด ทรัพย์ใหม่ครั้งนี้ เพื่อต้องการคงความเป็นธุรกิจไอทีของคนไทยอย่างแท้จริง และเปิดโอกาสให้คนไทยได้เป็นเจ้าของธุรกิจไอทีที่กำลังมีการเติบโตและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เพราะหากบริษัทฯ ระดมทุนจากนอกตลาด โดยวิธีหาพันธมิตรร่วมทุนนั้น โอกาสที่บริษัทต่างชาติจะเข้ามาครอบครองกิจการนั้นก็อาจเป็นไปโดยง่าย
นายกิตติพัฒน์ กล่าวต่อว่า "เม็ดเงินที่บริษัทฯ จะระดมทุนในช่วงแรกนั้นเป็นจำนวนประมาณ 100 ล้านบาท โดยจะนำเงินทุนดังกล่าวไปสร้างและวางระบบเพื่อขยายเครือข่ายการบริการอินเทอร์เนตให้ครอบคลุมทั่วประเทศ จากปัจจุบันที่บริษัทฯ มีกิจการอินเตอร์เน็ตอยู่ในกรุงเทพมหานคร อยุธยา ชลบุรี และนครราชสีมา ซึ่งคาดว่าหลังจากระดมทุนได้แล้วจะสามารถขยายบริการให้ครอบคลุม ทั่วประเทศได้ภายในปี 2544 นอกเหนือจากการขยายบริการใหม่ๆ แล้ว เงินลงทุนจำนวนนี้ยังจะทำให้บริษัทฯ สามารถพัฒนาประสิทธิภาพของการบริการแก่ลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นไปอีก นอกจากนี้ บริษัทฯ จะลงทุนใน Data Center ซึ่งเป็นการบริการฝากเช่าพื้นที่ให้บริการสำหรับ ISP รายย่อยในอนาคต หลังจากเปิดเสรี
บริษัท รอยเนท จำกัด เป็นบริษัทร่วมทุนกับการสื่อสารแห่งประเทศไทย ซึ่งเปิดให้บริการอินเทอร์เนตภายใต้ชื่อ บริษัท รอยเนท อินเทอร์เนต จำกัด มีสัดส่วนการถือหุ้น 65% และ 35% ตามลำดับ ทีมงานของบริษัทฯ ล้วนเป็นทีมงานวิศวกรที่มีประสบการณ์และความรู้เป็นที่ยอมรับ และยังได้รับประกาศนียบัตรจากบริษัท ไมโครซอฟท์ (MCSE: Microsoft certificated systems engineer) ให้สามารถดำเนินศูนย์ฝึกอบรมทางด้านเทคนิคและการวางระบบคอมพิวเตอร์ในองค์กร พร้อมทดสอบและออกวุฒิบัตรรับรองแก่ผู้ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบได้ ซึ่งจากพื้นฐานและประสบการณ์ของ ทีมงานทำให้บริษัทฯ สามารถให้คำแนะนำและปรึกษาแก่ผู้ใช้บริการอินเทอร์เนตและดำเนินการติดตั้งระบบอย่างถูกวิธี และจะเป็นจุดแข็งในการขยายธุรกิจด้านไอทีของบริษัทฯ ต่อไปในอนาคตด้วย
นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังใช้ความแข็งแกร่งของผู้ร่วมทุนที่เป็นเจ้าของเครือข่ายการสื่อสารสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน โดยสามารถจัดสรรช่องสัญญาณความถี่อินเทอร์เนต (Bandwidth) และคู่สายที่สามารถรองรับความต้องการของลูกค้าได้อย่างพอเพียง และสามารถกำหนดราคาให้มีความเหมาะสมสามารถแข่งขันได้
ปัจจุบัน บริษัท รอยเนท จำกัด เปิดให้บริการอินเทอร์เนตแพ็คเกจซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันดับ 3 ในบรรดาผู้ให้บริการอินเทอร์เนตในประเทศไทย, บริการเชื่อมต่ออินเทอร์เนตสำหรับสมาชิกส่วนบุคคลและองค์กร, บริการเชื่อมต่อระบบ ISDN, บริการสร้างพื้นที่เว็บไซต์ส่วนตัว และมีศูนย์ฝึก อบรมและรับรองด้านเทคนิคและคอมพิวเตอร์ โดยบริษัทฯ ได้รับการแต่งตั้งจากบริษัท Sylvan Prometric Testing Center ประเทศออสเตรเลียให้เป็นศูนย์สอบระดับสากล Authorized Prometic Test Center (APTC) โดยเปิดสอบเทียบความรู้ความสามารถในการใช้โปรแกรมไมโครซอฟท์ในแต่ละแขนง ตลอดจนความสามารถในการวางแผน ติดตั้ง ดูแล และพัฒนาระบบเครือข่ายขององค์กรให้มีประสิทธิภาพ ซึ่งนอกจากเครือข่ายของไมโครซอฟท์แล้ว ยังมีหลักสูตรทดสอบอุปกรณ์เครือข่ายของยี่ห้ออื่นด้วย เช่น CISCO, IBM และ Sun Microsystem
นายกิตติพัฒน์ กล่าวอย่างมั่นใจว่า บริษัทฯ มีศักยภาพที่จะเติบโตและสร้างผลกำไรให้แก่ นักลงทุนชาวไทย และตนเชื่อว่าธุรกิจไอทีของคนไทยสามารถพัฒนาได้เท่าเทียมกับธุรกิจไอทีระดับนานาชาติ เพราะคนไทยเองก็มีความรู้ความสามารถทัดเทียมกับต่างชาติ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีบางอย่างต้องอาศัยต่างชาติ แต่ก็ยังอยู่ภายใต้การบริหารงานโดยคนไทย ซึ่งจะเป็นโอกาสดีที่คนไทยจะได้พัฒนาบุคลากรด้านไอที ขณะนี้ บริษัทฯ มีความพร้อมเต็มที่สำหรับการเติบโตและการแข่งขันทางธุรกิจที่จะยิ่งเข้มข้นขึ้นในอนาคตเมื่อมีการเปิดเสรีทางธุรกิจไอทีเต็มที่ภายในปี 2549 ซึ่งนอกจากการเติบโตและขยายงานภายในประเทศแล้ว บริษัทฯ ยังมีแผนที่จะขยายธุรกิจไอทีของคนไทยไปยังต่างประเทศอีกด้วย
"ปัจจุบัน รายได้หลักของบริษัทฯ มาจากศูนย์ฝึกอบรมไมโครซอฟท์ แต่ภายหลังจากการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ และสามารถขยายเครือข่ายอินเทอร์เนตครอบคลุมทั่วประเทศแล้ว บริษัทฯ คาดว่าจะสามารถทำรายได้จากกิจการอินเทอร์เนตในปีแรกประมาณ 60 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีแผนที่จะเปิดศูนย์ฝึกอบรมไมโครซอฟท์ในจังหวัดสำคัญๆ เพื่อใช้เป็นศูนย์กลางกิจการอินเทอร์เนตในเวลาเดียวกันด้วย ซึ่งจะทำให้ในอนาคตบริษัทฯ สามารถให้บริการได้อย่างครบวงจรเป็นแห่งเดียวในประเทศไทย" นายกิตติพัฒน์ กล่าว
ด้านนายยุทธ วรฉัตรธาร ผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์ใหม่ (MAI) กล่าวว่า ตลาดหลักทรัพย์ใหม่เป็นแหล่งระดมเงินทุนระยะยาวที่จะเปิดโอกาสให้ธุรกิจขนาดเล็กถึงขนาดกลางได้เติบโตและมีความสามารถในการแข่งขัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจไอทีเป็นธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตสูงตามสภาวะการณ์ของโลกสมัยใหม่ที่เทคโนโลยีสารสนเทศเป็นความจำเป็นในชีวิตประจำวัน ซึ่งปัจจุบัน ธุรกิจไอทีส่วนใหญ่ที่มีเทคโนโลยีทันสมัยและสามารถสร้างผลกำไรยังดำเนินการโดยต่างชาติ ซึ่งหากธุรกิจไอทีที่ดำเนินการโดยคนไทยได้รับการสนับสนุนให้มีโอกาสเติบโตทัดเทียมกับต่างชาติ ก็นับเป็นผลประโยชน์ของประเทศและคนไทยเอง ทางตลาดหลักทรัพย์ใหม่จึงมีนโยบายให้การสนับสนุนธุรกิจไอทีโดยเปิดรับหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นอีก 1 หมวด ซึ่งมีการปรับเกณฑ์รับหลักทรัพย์เพื่อเปิดโอกาสให้ธุรกิจไอที ซึ่งโดยทั่วไปมีโอกาสเติบโตสูงสามารถเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ ที่ปรึกษาทางการเงิน หน่วยงานที่ส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจไอทีและวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม ตลอดจนจัดสัมมนาให้ความรู้กับบริษัทกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการเข้าจดทะเบียนในตลาดฯ เพื่อเตรียมความพร้อมและเสริมความแข็งแกร่งให้ธุรกิจยิ่งขึ้นด้วย
"การเสนอขายหุ้นของบริษัทไอทีแก่ประชาชนทั่วไปจะเป็นประโยชน์ทั้งเจ้าของธุรกิจในแง่ของการได้แหล่งเงินทุนระยะยาวเพื่อขยายธุรกิจ ในส่วนของประชาชนผู้ทำการซื้อหุ้นก็จะได้มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจเทคโนโลยีที่เป็นของคนไทย ปัจจุบัน มีบริษัทที่มีความพร้อมจะยื่นขอเข้าจดทะเบียนใน MAI ในช่วงปี 2543-2544 ประมาณ 15 บริษัทด้วยกัน บริษัทเหล่านี้ส่วนใหญ่เป็นผู้ผลิตอาหาร, ผลิตชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์, ผลิตชิ้นส่วนยานยนต์, ผลิตอุปกรณ์พลาสติกและหีบห่อ ตลอดจนธุรกิจบริการ ซึ่งในกลุ่มอุตสาหกรรมไอทีนั้น คาดว่าบริษัท รอยเนท จำกัด จะเป็นบริษัทแรกที่ยื่นขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ใหม่" นายยุทธ กล่าวสรุป
ข้อมูลเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
ศุภาดา ใจดี, วิสาข์ รอดคำดี
บริษัท สยาม พีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด
โทร. 693-7835-8, 01-671-2499, 01-810-9314
โทรสาร 693-6919--จบ--
-อน-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit