อย.เตือนอันตราย...อย่าใช้ยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศพร่ำเพรื่อ

27 Jul 2000

กรุงเทพฯ--27 ก.ค.--อย.

อย.เตือนการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดหลังร่วมเพศ ควรใช้ในยามจำเป็นเท่านั้น เช่น ในสตรีที่ถูกข่มขืน เพราะอาจมีผลข้างเคียงมากมาย อาทิ เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอ คลื่นไส้ อาเจียน และไม่ควรกินมากกว่า 4 เม็ดต่อเดือน พร้อมแนะวิธีดีที่สุด คือใช้ถุงยางอนามัยเพราะนอกจากสามารถคุมกำเนิดได้แล้ว ยังป้องกันโรคเอดส์ได้ด้วยภญ.อังกาบ เวสโกสิทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา เปิดเผยว่า ปัจจุบันมีการใช้ยาเม็ดคุมกำเนิดหลังร่วมเพศกันอย่างพร่ำเพรื่อ และไม่ถูกต้อง โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่น ซึ่งนิยมกินยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ แทนการใช้ถุงยางอนามัย หรือกินยาคุมกำเนิดทั่วไป เพราะเข้าใจว่าสะดวก ไม่ยุ่งยาก และเชื่อว่าสามารถป้องกันการตั้งครรภ์ที่ไม่พึงประสงค์ได้ ซึ่งถือว่าเป็นการใช้ยาที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากยาเม็ดคุมกำเนิดหลังร่วมเพศ จัดเป็นยาอันตราย ควรใช้ในกรณีฉุกเฉินที่มีความจำเป็นเท่านั้น เช่น ในสตรีที่ถูกข่มขืน ไม่ใช่ใช้หลังจากมีเพศสัมพันธ์เพื่อเป็นการคุมกำเนิด เพราะถึงแม้จะใช้เป็นประจำและใช้อย่างถูกต้อง ก็อาจผิดพลาดมีโอกาสตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยจึงควรปรึกษาแพทย์ หรือเภสัชกรก่อนใช้ยานี้ เพราะผลจากการใช้ยาในปริมาณมากโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ อาจเกิดอาการข้างเคียงเป็นอันตรายต่อร่างกาย เช่น ประจำเดือนมาผิดปกติ หรือไม่มีประจำเดือน มีเลือดออกจากช่องคลอด คลื่นไส้อาเจียน บวมน้ำ น้ำหนักเพิ่ม ปวดศีรษะ (ไมเกรน) หลอดเลือดอุดตัน เป็นมะเร็งที่เต้านม หรืออวัยวะสืบพันธุ์ เป็นต้น นอกจากนี้ยาคุมกำเนิดหลังร่วมเพศยังห้ามใช้กับผู้ป่วยโรคหลอดเลือดอุดตัน และมีข้อควรระวังที่สำคัญคือ ไม่ควรรับประทานมากกว่า 4 เม็ดต่อเดือน รองเลขาธิการฯ กล่าวต่อไปว่า ไม่ควรนำยาดังกล่าวนี้มาใช้คุมกำเนิดแบบพร่ำเพรื่อ หรือใช้เป็นประจำทุกครั้งหลังการร่วมเพศ เพราะไม่ใช่ทางเลือกที่ดีและอาจทำให้เกิดผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายได้ การใช้ยาคุมแบบธรรมดาจะได้ผลดีและปลอดภัยกว่า หรือการใช้ถุงยางอนามัยก็เป็นวิธีป้องกันที่ดีวิธีหนึ่ง ซึ่งนอกจากจะสามารถคุมกำเนิดได้แล้ว ยังป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเอดส์ ได้อีกด้วย--จบ--

-สส-