กรุงเทพฯ--7 ส.ค.--คณะกรรมการจัดสร้าง
การดำเนินการจัดสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ หรือพระพุทธมหาวชิรอุตตโมภาสศาสดา ในส่วนของการนำนิลติดที่พระเนตรองค์พระพุทธรูป ซึ่งได้จัดทำเพิ่มเติมภายหลังเมื่อปี 2543 นี้เอง สาเหตุของการจัดทำเพิ่มเติมนั้น พลเรือโท ประสิทธิ์ ลัทธิธรรม เลขานุการ ในคณะอนุกรรมการจัดสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์ เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากมีผู้บริจาคเม็ดนิลถวายสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆ-ปริณายก เป็นจำนวนมาก คณะกรรมการจัดสร้างจึงได้ออกแบบเพิ่มเติม โดยนำนิลไปเจียรไนให้มีลักษณะเป็นโมเสทขนาดประมาณ 2 คูณ 2 นิ้ว และได้กราบบังคมทูลให้สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร องค์ประธานกรรมการอำนวยการ ทรงทราบ ซึ่งพระองค์ทรงเห็นชอบ
และคณะกรรมการจัดสร้างฯ ได้กราบบังคมทูลสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงทราบ พระองค์จึงทรงพระกรุณาหาฤกษ์ให้คณะกรรมการฯ ดำเนินการติดตั้งนิลที่พระเนตร ในวันที่ 20 กุมภาพันธ์ 2543 ช่วงระหว่างเวลา 15.15-16.39 น. โดยมีการนิมนต์พระสงฆ์จำนวน 9 รูป เจริญพระพุทธมนต์ด้วยซึ่งก็ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นสมบูรณ์ในทุกเรื่องแล้ว เหลือแต่เพียงการเตรียมการที่จะน้อมเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสราธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ได้โปรดเกล้าฯ ขอให้สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ซึ่งทรงดำริโครงการนี้มาตั้งแต่ ดำเนินการน้อมเกล้าฯ ถวายพระพุทธรูปแกะสลักหน้าผาเขาชีจรรย์แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อทรงประกอบพิธีเบิกพระเนตรและบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งขณะนี้ก็อยู่ในช่วงที่สมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก กำลังดำเนินการทูลเชิญพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เสด็จฯ ไปทรงรับการน้อมเกล้าถวายโครงการ และขอให้ทรงบรรจุพระบรมสารีริกธาตุที่พระอุระพระพุทธมหาวชิรอุตต โมภาสศาสดา และการประการสุดท้ายก็คือพิธีเบิกพระเนตรด้วย ซึ่งสมเด็จพระญาณสังวร สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ได้กราบทูลสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นข้อพิจารณาและข้อเสนอแนะว่า ในปีนี้มีวาระโอกาสสำคัญอยู่หลายประการ อาทิ พระราชพิธีอภิเษกสมรสราชาภิเษก ครบ 50 ปี และวันประสูติของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ครบ 4 รอบ จึงเป็นวาระที่น่าจะน้อมเกล้าฯ ถวาย ซึ่งสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราช ทรงมีรับสั่งว่า จะดำเนินการถวายในปีนี้ และจะหาเวลาที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงว่างจากพระราชกรณียกิจ
นับเป็นความภาคภูมิใจของทุกฝ่ายที่ได้ร่วมแสดงความจงรักภักดี แด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวโดยการร่วมกันจัดสร้างพระพุทธรูปแกะสลักหินที่ใหญ่ที่สุดในโลก เพื่อน้อมเกล้าฯ ถวายเป็นพระราชกุศลแด่พระองค์ ที่ทรงทุ่มเทพระวรกายให้กับปวงชนชาวไทยอย่างหาที่สุดมิได้--จบ--
-สส-
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit