กรุงเทพ--15 พ.ย.--กระทรวงอุตสาหกรรม
กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม ปลื้มผลสำเร็จการจัดอบรมหลักสูตร "เสริมสร้างนักลงทุนใหม่" ทั้งภาคการค้า บริการ และการผลิต ภายใต้โครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจ SMEs สามารถสร้างผู้ประกอบการ SMEs คุณภาพเข้าสู่ระบบกว่า 200 ราย ในหลากหลายธุรกิจ หลังจบโครงการฯ เตรียมจัดสัมมนาใหญ่แนะการทำธุรกิจ SMEs ในปี 2000 ปลาย ธ.ค. นี้
นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กระทรวงอุตสาหกรรม (กสอ.) ในฐานะประธานโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อม ภายใต้แผนปรับโครงสร้างอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้การดำเนินโครงการพัฒนาผู้ประกอบการธุรกิจอุตสาหกรรมขนาดกลางและย่อมเพื่อเสริมสร้างนักลงทุนรุ่นใหม่ ซึ่งดำเนินการตั้งแต่เดือนสิงหาคมถึงเดือนตุลาคม 2542 ได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว โดยสามารถสร้างนักลงทุนใหม่เข้าสู่ระบบเศรษฐกิจกว่า 200 รายซึ่งอาชีพสุดท้ายก่อนการว่างงานของผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการค้า รองลงมาได้แก่ธุรกิจก่อสร้างอสังหาริมทรัพย์ และธุรกิจบริการสำหรับวัตถุประสงค์ของโครงการฯ เป็นการสร้างโอกาสให้ผู้มีการศึกษาในทุกสาขาวิชา และถูกเลิกจ้างให้สามารถจัดตั้งธุรกิจอุตสาหกรรมของตนเอง และเกิดโครงการธุรกิจใหม่ (New Business Venture) วิธีการดำเนินงาน คือ จัดฝึกอบรมให้ความรู้และสร้างแนวคิดในการเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณภาพ รุ่นละ 30 คน รวม 7 รุ่น โดยแบ่งเป็น การอบรมโดยภาควิชาพาณิชยศาสตร์ คณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในภาคการค้าและบริการ 4 รุ่น และคณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ ในภาคการผลิต 3 รุ่น รวมทั้งสิ้น 209 คน ซึ่งเนื้อหาในการอบรมประกอบด้วย การสร้างโอกาสทางธุรกิจ การดำเนินงาน และระบบโลจิสติก รูปแบบการประกอบการ การจัดการ การศึกษาความเป็นไปได้ของโครงการ การวางแผนธุรกิจ และสาระสำคัญในการจัดตั้งธุรกิจ โดยการฝึกอบรมจะเน้นแบบเข้มลักษณะ Hands-on Training methods คือ มีระบบให้คำปรึกษา และพี่เลี้ยง เพื่อสามารถพัฒนาโครงการที่จะเลือกธุรกิจที่มีศักยภาพ และมีความเป็นไปได้ ทั้งนี้ ก่อนจบหลักสูตรผู้เข้าอบรมต้องจัดทำแผนการดำเนินธุรกิจของตัวเองนำเสนอต่อคณะกรรมการ เพื่อให้คณะกรรมการพิจารณาและเสนอแนะในบางจุดที่ยังไม่สมบูรณ์ และนำไปปรับปรุงแก้ไขเพื่อปฏิบัติจริง
รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม กล่าวว่า จากการติดตามและประเมินผลความสำเร็จของโครงการในภาพรวม สรุปได้ว่าผู้เข้าอบรมมีความตั้งใจที่จะประกอบอาชีพอิสระ และเป็นเจ้าของธุรกิจ จึงมีวิสัยทัศน์และมีแนวคิดในการจัดทำแผนธุรกิจเพิ่มมากขึ้น และสามารถดำเนินธุรกิจเป็นของตัวเองได้จริง โดยรู้จักการวางแผนธุรกิจอย่างเป็นระบบ ทั้งด้านการตลาด การเงิน การผลิต และพัฒนาตนเองให้มีทักษะของการเป็นผู้ประกอบการ และที่สำคัญเกิดการรวมตัวกันเป็นกลุ่มในแต่ละรุ่น เพื่อทำธุรกิจร่วมกัน โดยอาศัยความชำนาญในแต่ละด้านของแต่ละคนเป็นจุดแข็งในการดำเนินธุรกิจ ซึ่งผลของการอบรมทาง กสอ.พอใจมาก เพราะผู้เข้าอบรมส่วนใหญ่ มีความตั้งใจที่จะเรียนรู้ และต้องการเป็นผู้ประกอบการที่มีประสิทธิภาพจริง ๆ โดยดูได้จากแผนงานการทำธุรกิจที่นำเสนอของแต่ละคน มีข้อมูลพร้อมและสามารถดำเนินการได้จริง
สำหรับธุรกิจที่นักลงทุนได้นำเสนอ และได้ดำเนินการไปแล้วในรุ่นก่อน มีหลายประเภทด้วยกัน อาทิ ธุรกิจผลิตภัณฑ์จากวัสดุธรรมชาติ ธุรกิจอาหาร-น้ำดื่ม และอาหารแปรรูปจากเกษตร ธุรกิจร้านต้นไม้-ดอกไม้ และตกแต่งสวน ธุรกิจเสื้อผ้าสำเร็จรูป ธุรกิจเทคโนโลยีสารสนเทศ ธุรกิจ ภาคบริการด้านโรงแรม-การท่องเที่ยว และธุรกิจภาคอุตสาหกรรมการผลิตประเภทต่าง ๆ ฯลฯ
นางสุมลมาลย์ กัลยาศิริ กล่าวในตอนท้ายว่า การประกอบธุรกิจในโลกปัจจุบันจำเป็นต้องอาศัยความรู้ ความเข้าใจทั้งในด้านการบริหารการจัดการ การปรับปรุงการผลิต การตลาด และการเงิน เพื่อให้สามารถอยู่ได้ในภาวะการแข่งขันของตลาดการค้าทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ซึ่งกสอ. ตระหนักในจุดนี้ดีและจะยังคงนโยบายส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการ SMEs รวมถึงการพัฒนาหลักสูตรต่างๆ เพื่อสร้างธุรกิจ SMEs ให้เข้มแข็งและยืนหยัดได้อย่างมั่นคงต่อไป
ทั้งนี้ ทางกสอ.ได้เตรียมจัดงานสัมมนาใหญ่ เรื่อง "สร้าง SMEs สู่ปี 2000" ในวันที่ 22 ธ.ค. 42 ซึ่งจะเปิดโอกาสให้ผู้เข้าอบรมทุกรุ่นได้ออกบูธแสดงสินค้า และแลกเปลี่ยนทัศนะในการดำเนินธุรกิจ นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SMEs และผู้ที่สนใจเข้าร่วมงานได้เช่นกัน
สอบถามรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ ส่วนส่งเสริมธุรกิจอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทร. 202-4572-75 โทรสาร. 202-4571 หรือ ฝ่ายประสานงาน โทร. 663-3226-9 โทรสาร. 259-8943--จบ--