สมิติเวช เตรียมรับใบประกาศจากยูนิเซฟ ยกเป็นรพ.สายสัมพันธ์แม่ และลูก

13 Jul 1999

กรุงเทพ--13 ก.ค.--สมิติเวช

สมิติเวช ยกระดับเป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่และลูก องค์การยูนิเซฟ เตรียมมอบใบประกาศเกียรติคุณให้ เนื่องจากเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่ส่งเสริม และสนับสนุนให้มารดาเลี้ยงดูลูกด้วยตนเองนานกว่า 18 ปี ติดตามและประเมินผลความสำเร็จอย่างใกล้ชิด

นายแพทย์ธนิต หัพนานนท์ หัวหน้าแผนกศูนย์สุขภาพสตรี โรงพยาบาลสมิติเวช สุขุมวิท เปิดเผยว่า ขณะนี้โรงพยาบาลสมิติเวช ได้รับการพิจารณาจากองค์กรทุนเพื่อเด็กแห่งสหประชาชาติ (ยูนิเซฟ) และกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ให้เป็นโรงพยาบาลสายสัมพันธ์แม่และลูก (Mother & Baby Friendly Hospital) ซึ่งอยู่ระหว่างการเตรียมรับใบประกาศเป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งที่ 2 ของประเทศไทยที่ได้รับการยกย่องจากองค์การยูนิเซฟ

ทั้งนี้โครงการดังกล่าวเป็นโครงการส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่ ซึ่งประเทศไทยได้เข้าร่วมในปฏิญญาสากล กับองค์การอนามัยโลก (WHO) และมาปฏิบัติร่วมกับโรงพยาบาลของภาครัฐจำนวน 772 แห่ง โดยมีโรงพยาบาลเซ็นหลุยส์เป็นโรงพยาบาลเอกชนแห่งแรก ที่ได้รับใบประกาศเกียรติคุณดังกล่าว ส่วนแนวทางการดำเนินงานของโรงพยาบาลสมิติเวช ได้มีการรณรงค์ ส่งเสริม และสนับสนุนการเลี้ยงดูลูกด้วยนมมานานกว่า 18 ปี

สำหรับขั้นตอนในการปฏิบัติของโรงพยาบาลสมิติเวช และโรงพยาบาลในประเทศไทย และทั่วโลกที่เข้าร่วมโครงการเรียกว่า "บันไดสิบขั้นสู่ความสำเร็จในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ "(Ten steps of successful breast feeding) ซึ่งทางโรงพยาบาลได้นำมากำหนดเป็นนโยบายในการดำเนินงาน ซึ่งประกอบด้วย 1 มีนโยบายชัดเจนเป็นลายลักษณ์อักษร และทบทวนสม่ำเสมอทุก ๆ 6 เดือน 2 ฝึกอบรมบุคคลากรให้มีความรู้ความสามารถเกี่ยวกับการเลี้ยงดูลูกด้วยนมมารดา 3. ทางโรงพยาบาลชี้แจงให้หญิงตั้งครรภ์ทราบถึงประโยชน์ และวิธีการเลี้ยงลูกด้วยนม 4. ส่งเสริม และช่วยเหลือให้แม่เริ่มให้นมลูกดูดภายในครึ่งชั่วโมงแรกหลังคลอด หรือเร็วที่สุด 5. ช่วยเหลือแม่ในการให้นมลูกอย่างถูกต้อง และแนะนำวิธีทำให้น้ำนมแม่ยังคงมีปริมาณเพียงพอ 6. แนะนำไม่ให้น้ำหรือนมผสม หรืออาหารอื่นแก่เด็กทารกแรกเกิด 7. ให้แม่และลูกอยู่ในห้องเดียวกันตลอด 24 ชั่วโมง 8. สนับสนุนให้ลูกได้ดูดนมแม่ตามต้องการ 9. ไม่ให้ลูกดูดหัวนมยางและหัวนมปลอมหรือหลอก ถ้าจำเป็นให้ใช้ช้อนหรือแก้วป้อน และ 10. ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งกลุ่มสนับสนุนการเลี้ยงดูลูกด้วยนมแม่

นายแพทย์ธนิต กล่าวต่อว่า จำนวนมารดาที่มาคลอดบุตรที่โรงพยาบาลสมิติเวช มากกว่า 85 เปอร์เซ็นต์ ที่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ หลังจากที่ออกจากโรงพยาบาล ทางแพทย์ และพยาบาล จะติดตามและดูแลให้มารดาให้นมลูกอย่างต่อเนื่อง เพราะผลดีจากการเลี้ยงดูด้วยนมลดลงเหลือประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ เนื่องจากมีปัจจัยอื่น ๆ มาประกอบ อาทิ มารดาต้องไปทำงาน และขาดการสนับสนุนจากบุคคลรอบข้าง เป็นต้น

ข้อมูลจากกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข พบว่า จากสถิติการสำรวจในปี 2539 ของประเทศไทยพบว่า จำนวนมารดาที่เลี้ยงลูกด้วยนมมีอัตราส่วน 3.6 เปอร์เซ็นต์ และจะเพิ่มขึ้นตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจ และสังคมแห่งชาติฉบับที่ 8 เป็น 30 เปอร์เซ็นต์ (พ.ศ. 2540-2544)

ทั้งนี้ เพื่อให้เด็กไทยได้เริ่มต้นชีวิตด้วยสิ่งที่ดีที่สุด ทุกฝ่ายเกี่ยวข้องต้องร่วมกันส่งเสริม และสนับสนุนให้มารดาเลี้ยงดูด้วยนมของตนเอง ทางโรงพยาบาลสมิติเวชได้จัดตั้งศูนย์ฮอตไลน์ (Hot-Line) เพื่อให้มารดาที่มีปัญหา หรือมีข้อสงสัยได้สามารถติดต่อเข้ามาปรึกษาได้ท้นที โทร. 391-1290--จบ--