กรุงเทพ--16 มิ.ย.--กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
นายไตรรงค์ สุวรรณคีรี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม พร้อมคณะผู้แทนไตรภาคี ฝ่ายรัฐบาล ฝ่ายนายจ้างและฝ่ายลูกจ้าง ปฏิบัติภารกิจเป็นตัวแทนรัฐบาลในฐานะสมาชิกไอ แอล โอ ประชุมองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (International Labour Organisation) สมัยที่ 86 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เสร็จสิ้นแล้ว และเมื่อวันที่ 13 มิถุนายน 2541 ได้เดินทางไปส่งเสริมโอกาสสำหรับแรงงานไทยที่จะมีงานทำยังประเทศอิสราเอลอีกด้วย
นายไตรรงค์เปิดเผยว่า การเจรจาเพื่อเปิดโอกาสการมีงานทำสำหรับแรงงานไทยในประเทศอิสราเอลครั้งนี้นั้น ตนได้พบปะกับบุคคลสำคัญในภาครัฐของอิสราเอล อาทิ นายราฟาเอล อิตัน (Refael Itan) รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสิ่งแวดล้อม นายอีลิยาฮู ยิไช (Ellyahu Yishai) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม ส่วนภาคเอกชนได้แก่ สมาคมก่อสร้างฯ และ โมซาฟ มูฟเมนท์ (Moshav Movement) ซึ่งทำให้มีความมั่นใจว่า อิสราเอลยังเป็นตลาดแรงงานที่สำคัญของประเทศไทยอยู่ ทั้งนี้เพราะนายจ้างยังมีความพึงพอใจในความขยัน อดทน ซื่อสัตย์ของแรงงานไทย ถึงแม้ว่าทางการอิสราเอลจะมีนโยบายลดแรงงานต่างชาติก็ตาม แต่ทั้งนี้ในภาคเกษตรกรรมแล้วจะยังไม่มีการลดจำนวนคนงานไทย ส่วนในภาคการก่อสร้างและอื่น ๆ ก็มีแนวโน้มว่าจะจ้างแรงงานไทยเพิ่มขึ้น โดยจะมีการหารือในรายละเอียดเกี่ยวกับการจ้างเหมาช่วง งานจากผู้รับเหมาก่อสร้างอิสราเอล และการนำคนไทยเข้าไปทำงาน ตลอดจนการสร้างความเชื่อมั่นในฝีมือและประสบการณ์ของคนงานไทยให้กับนายจ้างอิสราเอล โดยการประสานความร่วมมือในส่วนนี้ระหว่างทางการไทยกับทางการอิสราเอลอีกประการหนึ่ง
สำหรับการเยี่ยมเยียนคนงานไทยในภาคเกษตรกรรมที่ทำงานอยู่ตามโมซาฟนั้น นายไตรรงค์ รมว.แรงงานฯ กล่าวว่า ได้รับทราบถึงสภาพความเป็นอยู่ของคนงานไทยว่า อยู่ในเกณฑ์ที่ดีพอสมควร พร้อมทั้งได้รับทราบปัญหาด้านค่าใช้จ่ายที่สูงของคนงานที่ต้องจ่ายเพื่อมาทำงานยังอิสราเอล โดยในเรื่องนี้ทางการอิสราเอลได้แสดงความเห็นใจและจะให้ความร่วมมือแก้ไขให้อย่างเต็มที่ ด้วยการกำหนดมาตรการจากทั้งสองฝ่าย เพื่อให้เกิดผลในเชิงปฏิบัติอย่างจริงจังภายในระยะเวลาอันรวดเร็ว และนับว่าเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ด้านแรงงานระหว่างสองประเทศให้มีความเข้าใจต่อกันมากขึ้นทั้งในภาครัฐและเอกชน--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit