กรุงเทพ--30 มิ.ย.--บ.สยามสตริปมิลล์
กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น (MITI) สถาบันการเงินญี่ปุ่นและบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันสนับสนุนสินเชื่อเป็นเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐ เยน และบาท รวมทั้งสิ้น 17,930 ล้านบาท ให้แก่บริษัท สยามสตริปมิลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ SSM ซึ่งนับเป็นสินเชื่อที่มีวงเงินสูงที่สุดเท่าที่ MITI เคยอนุมัติให้แก่ภาคเอกชนไทย การสนับสนุนครั้งนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีต่อภาวะการลงทุนของประเทศ
นายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สยามสตริปมิลล์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า สยามสตริปมิลล์ เป็นบริษัทที่มีทุนจดทะเบียนที่ชำระแล้ว 5 พันล้านบาท ได้รับการสนับสนุนสินเชื่อจากธนาคารซิตี้แบงก์ (ญี่ปุ่น) อิโตเชียว คอร์เปอเรชั่น (ญี่ปุ่น) ธนาคาร ซูมิโตโม (ญี่ปุ่น) เป็นวงเงิน 380 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยมีกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมญี่ปุ่น MITI ให้การค้ำประกัน นอกจากนี้ ยังได้รับการสนับสนุนจากธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้า (ญี่ปุ่น) J-Exim อีกจำนวน 4 พันล้านเยน และจากบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยอีก 390 ล้านบาท โดยมีอัตราดอกเบี้ยระหว่าง 5% ถึง 8% เงินกู้ดังกล่าวบริษัทฯ จะนำไปใช้ในการดำเนินโครงการผลิตแผ่นเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน โครงการดังกล่าวมีมูลค่าโครงการรวมทั้งสิ้นประมาณ 22,000 ล้านบาท โดยจะสามารถดำเนินการผลิตได้ประมาณเดือนมีนาคมปีหน้า
"การเข้าค้ำประกันวงเงินสินเชื่อของ MITI เป็นการแสดงความเชื่อมั่นต่อภาวะการลงทุนในภาคอุตสาหกรรมของประเทศไทย ในขณะที่เศรษฐกิจของประเทศอยู่ในภาวะที่กำลังปรับตัวอยู่นี้ทางประเทศญี่ปุ่นก็ได้แสดงให้เห็นแล้วว่า มีความเชื่อมั่นต่อโอกาสและการเติบโตของเศรษฐกิจไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ที่จะมีส่วนช่วยดึงเม็ดเงินลงทุนเข้าประเทศได้เป็นจำนวนมาก และวงเงินสินเชื่อที่ได้รับการอนุมัติครั้งนี้ยังเป็นจำนวนสูงสุดเท่าที่ประเทศญี่ปุ่นเคยอนุมัติให้แก่ภาคเอกชนไทย"
และเมื่อบ่ายวันจันทร์ที่ 29 มิถุนายน ที่ผ่านมา มร.ฮิโรชิ โอตะ เอกอัครราชฑูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทย ได้เข้าเยี่ยมคารวะ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี ชวน หลีกภัย ที่ทำเนียบรัฐบาลพร้อมด้วยคณะผู้แทนจาก MITI คณะตัวแทนการค้าญี่ปุ่น JETRO คณะผู้บริหารจากสถาบันการเงินที่ให้ความสนับสนุน ตลอดจนคณะผู้บริหารระดับสูงของบริษัท SSM นำโดยนายพงศ์ สารสิน ประธานกรรมการบริหาร นายสมศักดิ์ ลีสวัสดิ์ตระกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ดร.วีระ สุสังกรกาญจน์ กรรมการบริหาร ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยืนยันถึงความช่วยเหลือและสนับสนุนระหว่างทั้งสองประเทศที่มีสัมพันธไมตรีที่ดีต่อกันมาโดยตลอด โดย ฯพณฯ ท่านนายกรัฐมนตรีได้แสดงความขอบคุณรัฐบาลญี่ปุ่นที่ให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนภาคเอกชนไทย อันแสดงถึงนิมิตหมายที่ดีต่อภาวะการลงุทนของไทย และขอให้มีการสนับสนุนอย่างต่อเนื่องเช่นเดียวกันนี้ในภาคอื่น ๆ อีก เช่น สาธารณูโภค พลังงาน ท่าเรือ ระบบบำบัดน้ำเสีย การขนส่ง และอื่น ๆ โดยในขณะเดียวกันรัฐบาลไทยพร้อมมุ่งการพัฒนาไปในทางเดียวกันโดยเฉพาะระบบสาธารณูปโภคต่าง ๆ และท้ายที่สุดท่านนายกยังให้ความเชื่อมั่นต่อภาวะเศรษฐกิจและการเมืองของไทย
บริษัท สยามสตริปมิลล์ จำกัด (มหาชน) เป็นหนึ่งในบริษัทในเครือของกลุ่มบริษัท SSP ก่อตั้งเมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 1995 และได้เป็นบริษัทมหาชน จำกัด เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 1995 โดยมีทุนจดทะเบียน 5 พันล้านบาท SSM ทำการผลิคแผ่นเหล็กรีดร้อนชนิดม้วน โดยมีกำลังการผลิต 1.5 ล้านตัน ในขั้นแรกและจะมีกำลังการผลิตเต็มที่ถึง 3 ล้านตัน โครงการนี้ได้รับการส่งเสริมจากสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน BOI เมื่อเดือนพฤศจิกายน 1995 โรงงานดังกล่าว พร้อมเปิดดำเนินการได้ในราวเดือนมีนาคมปีหน้า
สัดส่วนผู้ถือหุ้นของบริษัท SSM ประกอบด้วย บริษัท อิโตเชียว คอร์ปอเรชั่น จำนวน 10% บริษัท นิปปอน พลานท์ เมเนจเมนท์ จำกัด (สิงคโปร์) จำนวน 10% และส่วนที่เหลือถือโดยกลุ่มบริษัท SSP และลูกค้าของ SSM
บริษัท SSM มีความมุ่งมั่นในการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนที่มีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากลหลากหลายชนิด โดยมีโรงงานตั้งอยู่ที่อำเภอบ้านค่าย จังหวัดระยอง โดยลงนามในสัญญาระบบ turnkey ร่วมกันกับ บริษัท ซูมิโตโม บริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสตรี และบริษัทแมนเนสมานเดอแมก
บริษัทฯ จะทำการผลิตเหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนด้วยคุณภาพตามมาตรฐานสากลซึ่งมีขนาดความหนาตั้งแต่ 1.0 ถึง 12.0 มิลลิเมตร และความกว้างขนาด 900 ถึง 1,550 มิลลิเมตร โดยเฉพาะขนาดความหนาที่ 1.0 ถึง 1.8 มิลลิเมตร เป็นขนาดคุณภาพพิเศษเป็นที่ต้องการสูงในตลาดปัจจุบัน
"ผลิตภัณฑ์เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วนของบริษัทฯ จะสามารถตอบสนองต่อความต้องการวัตถุดิบภายในประเทศและช่วยลดการนำเข้า นอกจากนี้ บริษัทฯ จะทำการส่งออกมากกว่า 50% ไปยังประเทศต่าง ๆ อีกด้วย" นายสมศักดิ์ กล่าว
ด้วยเทคโนโลยีของเครื่องจักรและการผลิตที่ทันสมัยที่สุด ได้ช่วยส่งเสริมให้บริษัทฯ ตอบสนองความต้องการของอุตสาหกรรมการผลิตเหล็กแผ่นรีดเย็นให้เป็นวัสดุหลักและวัสดุทดแทน และเหมาะสำหรับการใช้งานหลายประเภท อาทิ อุตสาหกรรมท่อเหล็ก อุตสาหกรรมเหล็กโครงสร้างรูปพรรณ อุตสาหกรรมเหล็กแผ่นรีดเย็น ตู้คอนเทนเนอร์ ถังบรรจุก๊าซและอื่น ๆ อีกมากมาย
ระบบการผลิตที่ยืดหยุ่นคล่องตัว สามารถย่นระยะเวลาที่ใช้ในการผลิตสินค้า สามารถดำเนินการผลิตในปริมาณน้อยและให้บริการลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว โรงงานแห่งนี้ซึ่งมีระบบการผลิตด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มขีดความสมารถในการแข่งขันกับตลาดต่างประเทศ นับว่าเป็นแนวโน้มที่ดีต่ออุตสาหกรรมเหล็กในประเทศ อีกทั้งยังเป็นการยกระดับสินค้าของเราให้ทัดเทียมกับประเทศอื่น ๆ ได้
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ คุณศุภาดา ใจดี บริษัท สยามพีอาร์ คอนซัลแทนท์ จำกัด โทร.693-7835-8--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit