แฟรงเฟิร์ต--19 พ.ค.--นิวส์ อัคทูแอลล์/เอเชียเน็ท
ในการแถลงข่าวประจำปีของบริษัทไดสตาร์ที่กรุงแฟรงเฟิร์ตในวันนี้ ทางบริษัท ซึ่งเป็นบริษัทผลิตสารสีย้อมผ้าในเครือไบเออร์ และเฮิร์กส์ ได้รายงานถึงยอดขายที่เพิ่มขึ้น 11 % จากระดับ 0.91 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปี 1996 สู่ระดับ 1.01 พันล้านดอลล่าร์สหรัฐในปีที่แล้ว แม้ว่าจะมีแรงกดดันอย่างต่อเนื่องต่อราคาก็ตาม โดยผลกำไรได้เพิ่มขึ้นมากกว่า 3 เท่าเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้านั้น
ประเภทธุรกิจทั้ง 3 ประเภท อันได้แก่ สีย้อมแบบทำปฏิกริยา, สีย้อมแบบกระจายตัว และสีย้อมพิเศษ มีผลอย่างมากต่อการขยายตัวของยอดขาย ซึ่งเมื่อพิจารณาแยกเป็นรายประเทศจะพบว่า สหรัฐ, ตุรกี, บราซิล, เม็กซิโก, จีน และอินโดนีเซีย มียอดขายเพิ่มขึ้นสูงกว่าระดับเฉลี่ย
ฝ่ายบริหารทั่วไปได้เปิดเผยว่า ทางบริษัทมีกำไรก่อนหักภาษีและดอกเบี้ยอยู่ที่ระดับ 45.58 ล้านดอลล่าร์เมื่อปีที่แล้ว ซึ่ง"สูงกว่าความคาดหมายสำหรับปีงบการเงินที่ 2 ทั้งปีของเรา" โดยทางบริษัทได้ระบุว่า ยอดขายที่สูงขึ้น, การปรับตัวของค่าเงินที่เป็นประโยชน์ต่อทางบริษัท และการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ เป็นเหตุผลหลักของการปรับตัวที่ดีดังกล่าว ซึ่งการลงทุนยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 45.02 ล้านดอลล่าร์สหรัฐ ซึ่งเป็นระดับเดียวกับในปี 1996 ในขณะที่มีแนวโน้มที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนในเยอรมนี, จีน และอินโดนีเซีย นอกจากนี้ ทางบริษัทยังได้ลงทุนคิดเป็น 3-4 % ของยอดขายต่อปีในการวิจัยและการพัฒนา
หลังจากที่มีการเริ่มต้นที่น่าพอใจในปีนี้ และยอดขายที่ปรับตัวขึ้นเมื่อเทียบเป็นรายปีในไตรมาสแรก ทางบริษัทก็คาดว่าจะยังคงรักษายอดขายในระดับเดียวกับเมื่อปีที่แล้วไว้ แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางเศรษฐกิจในเอเชียก็ตาม
ทางบริษัทเล็งเห็นแนวโน้มการขยายตัวในอเมริกา, หลายประเทศในแถบยุโรป และในระยะกลางถึงระยะยาวในเอเชีย โดยเอเชียนั้นคิดเป็นเกือบ 50 % ของตลาดสารย้อมสีสิ่งทอทั่วโลก ซึ่งทางบริษัทมีโรงงานการผลิตของตนเองในภูมิภาคนี้ ซึ่งก็ทำให้ทางบริษัทมีความได้เปรียบในการแข่งขันที่ทางบริษัทตั้งใจที่จะใช้ให้เกิดประโยชน์อย่างเป็นระบบ นอกจากนี้ บริษัทไดสตาร์ยังได้ผลิตผลิตภัณฑ์เป็นจำนวน 95 % ในโรงงานเอง ซึ่งก็สามารถทำให้มั่นใจว่า ผลิตภัณฑ์จะมีมาตรฐานสูงในด้านคุณภาพ, ความปลอดภัย และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทั่วโลก --จบ--
--บิสนิวส์แปลและเรียบเรียง-สจ/กก--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit