กรุงเทพ--26 ก.พ.--ธ.กรุงไทย
ธนาคารกรุงไทยบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างระมัดระวัง คำนึงถึงความเสี่ยงของการลงทุนเป็นหลัก ปีที่ผ่านมาสามารถบริหารกองทุนให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยรวมทุกกองทุนในอัตราร้อยละ 14.51 ต่อปี สำหรับปีนี้ เน้นการลงทุนในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอน
นายสุวรรณ ดำเนินทอง ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ บมจ.ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ในปีที่ผ่านมา ธนาคารกรุงไทยเป็นผู้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพของหน่วยงานรัฐวิสาหกิจและบริษัทเอกชน ทั้งในรูปของกองทุนเดี่ยวและกองทุนแบบรวมทุน จำนวน 15 กองทุน ยอดเงินลงทุน ณ วันที่ 31 ธันวาคม 2540 เท่ากับ 3,835 ล้านบาทสามารถบริหารให้ได้ผลตอบแทนเฉลี่ยรวมทุกกองทุนในอัตราร้อยละ 14.51 ต่อปี ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยของอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 12 เดือน ของธนาคารพาณิชย์ขนาดใหญ่ (เท่ากับร้อยละ 10.15 ต่อปี) ถึงร้อยละ 4.36 ต่อปี
กองทุนที่ธนาคารบริหารแบ่งเป็น 2 กลุ่มใหญ่ คือกลุ่มที่ลงทุนเฉพาะในตราสารที่ให้ผลตอบแทนที่แน่นอนเท่านั้น (Fixed-Income Fund) และกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นด้วย (Balance Fund) โดยอัตราผลตอบแทนของกลุ่มที่ลงทุนในหุ้นจะสูงกว่า ถึงแม้ภาวะตลาดโดยรวมจะไม่ดีนัก ดัชนีกลุ่มอุตสาหกรรม หลักต่างๆ มีค่าลดลงก็ตาม แต่มีกลุ่มอุตสาหกรรมบางกลุ่มเป็นตัวนำตลาด ได้แก่อุตสาหกรรมการแปรรูป สินค้าเกษตร กลุ่มอาหาร และกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิคส์ ซึ่งสามารถทำกำไรได้ดี เพราะเป็นบริษัทที่มีรายได้จากการส่งออกเป็นสกุลดอลลาร์สหรัฐอเมริกา และมีหนี้เงินกู้สกุลต่างประเทศต่ำ
"ปีที่ผ่านมา ธนาคารบริหารกองทุนสำรองเลี้ยงชีพอย่างระมัดระวัง คำนึงถึงความเสี่ยงของการลงทุนเป็นหลัก กำหนดสัดส่วนการลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 3 ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยการลงทุนในหุ้น ธนาคารจะวิเคราะห์และเลือกสรรหุ้นเป็นรายบริษัทอย่างรอบคอบ ทำให้ได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนร้อยละ 13.52-20.17 ต่อปี ซึ่งนอกจากผลตอบแทนของกองทุนที่ธนาคารบริหารจะสูงแล้ว สินทรัพย์ที่ลงทุนยังมีความเสี่ยงต่ำ ทำให้ลูกค้าพอใจผลการบริหารมาก" นายสุวรรณกล่าว
สำหรับในปี 2541 ธนาคารจะยังยึดนโยบายการลงทุนเช่นเดียวกับปีที่ผ่านมา โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นค่อนข้างต่ำ เน้นการลงทุนใน Fixed-Income Securities เป็นส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตามผลตอบแทนจากการลงทุนในหุ้นสำหรับเดือนแรกของปีนี้ค่อนข้างสูง ทำให้อัตราผลตอบแทนของทั้งกองทุนที่ธนาคารบริหารอยู่ที่ร้อยละ 16.80-23.00 ต่อปี--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit