กรุงเทพ--24 ก.พ.--กระทรวงสาธารณสุข
สถาบันการแพทย์แผนไทยร่วมกับภาครัฐและเอกชนระดมสมองพัฒนายาสมุนไพรให้ได้มาตรฐานและคุณภาพเพื่อทดแทนและลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบัน
นายคำรณ ณ ลำพูนรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข กล่าวภายหลังเปิดสัมมนาวิชาการ"ลู่ทางการพัฒนายาสมุนไพร" ที่ห้องประชุมไพจิต ปวะบุตร กระทรวงสาธารณสุขซึ่งจัดโดยสถาบันการแพทย์แผนไทย กระทรวงสาธารณสุขผู้เข้าร่วมประชุมเป็นหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งภาครัฐและเอกชนจำนวน 600 คน อาทิองค์การเภสัชกรรม กรมส่งเสริมการเกษตร สมาคมผู้ผลิตและขายยาแผนโบราณ สภาทนายความเพื่อระดมความคิดหาแนวทางร่วมมือกันพัฒนาคุณภาพยาสมุนไพรไทยให้มีมาตรฐานเทียบเท่ายาแผนปัจจุบัน
นายคำรณ กล่าวว่า รัฐบาลมีนโยบาย ตั้งแต่แผนพัฒนาการสาธารณสุข ฉบับที่ 4ในการนำภูมิปัญญาไทยมาใช้ประโยชน์ทางการแพทย์และสาธารณสุข โดยเฉพาะยาสมุนไพรที่ผ่านมาการใช้ยาสมุนไพรยังจำกัดอยู่ในวงแคบอาจเป็นเพราะผู้ใช้ไม่มั่นใจในขั้นตอนการผลิตเรื่องความสะอาด และคุณภาพ นอกจากนี้การผลิตยาสมุนไพรยังมีปัญหาหลายอย่าง เช่นวัตถุดิบเริ่มหายาก ทำให้บางตำรับต้องยุติการผลิตหรือไม่ก็ต้องนำเข้าวัตถุดิบจากต่างประเทศจำนวนผู้ใช้ยาสมุนไพรน้อยลงไม่คุ้มทุนที่ผลิต และการขอขึ้นทะเบียนยามีขั้นตอนมากผู้ผลิตระดับครอบครัวไม่สามารถดำเนินการได้ตามกฎเกณฑ์การผลิตจากปัญหาดังกล่าวสถาบันการแพทย์แผนไทยในฐานะที่เป็นหน่วยงานของรัฐและรับผิดชอบในเรื่องสุขภาพของประชาชนในด้านแพทย์แผนไทยได้พยายามพัฒนาการแพทย์แผนไทยให้เป็นทางเลือกของประชาชนในการดูแลสุขภาพ จึงได้ระดมผู้เชี่ยวชาญและเกี่ยวข้องกับสมุนไพรมาช่วยพัฒนายาสมุนไพรให้มีมาตรฐานลดการใช้ยานำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ข้อมูลของกองควบคุมยา กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงพาณิชย์ ปี 2538 ประเทศไทยมีการนำเข้ายาจากต่างประเทศมูลค่า 10,763 ล้านบาท ในขณะที่มีการผลิตสมุนไพรเพื่อการส่งออก เพียง 654 ล้านบาทหากได้มีการพัฒนายาสมุนไพรให้เข้าสู่มาตรฐานสากล ก็จะทำให้ลดการนำเข้ายาแผนปัจจุบันซึ่งมีผลข้างเคียงต่อผู้ใช้ได้เป็นอย่างมาก และที่สำคัญช่วยลดดุลการค้าให้กับประเทศไทยด้วย
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ทั่วประเทศมีบริษัทที่ผลิตยาแผนโบราณถูกกฎหมายกว่า 600 แห่ง และมีผู้ผลิตยาสมุนไพรมาขอขึ้นทะเบียนตำรับยากว่า 4,500 ตำรับและเป็นที่น่ายินดีว่ามีบริษัทยาขนาดใหญ่กว่า 30 แห่ง พร้อมที่จะพัฒนายาสมุนไพรให้ได้มาตรฐานระดับสากล ดังนั้นการประชุมครั้งนี้คงได้ข้อสรุปโดยหน่วยงานรัฐจะสนับสนุน และอำนวยความสะดวกในขั้นตอนการผลิตต่างๆที่จะพัฒนายาสมุนไพรให้ได้มาตรฐานในระดับสากลต่อไป --จบ--