เซนเนก้าวางแผนรุกตลาดเคมีภัณฑ์การเกษตร ตั้งเป้ายอดขายสิ้นปี 2,000 ล้านบาท พร้อมดัน "ทัชดาวน์" ขยายตัวเพิ่มขึ้น 20%

26 Aug 1997

กรุงเทพ--26 ส.ค.--เซนเนก้า

มร.สตีฟ เรนชอว์ กรรมการเกษตร เอเชียติ๊ก จำกัด ผู้นำทางการตลาดด้านเคมีเกษตร เปิดเผยถึงแผนการขยายตลาดเคมีภัณฑ์ด้านการเกษตรในปีนี้ว่า บริษัทได้ตั้งเป้าการขยายตัวของสินค้าในบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 2,000 ล้านบาท โดยปัจจุบันบริษัทได้แบ่งประเภทสินค้าออกเป็นสารจำกัดวัชพืช ได้แก่ ผลิตภัณฑ์กรัมม๊อกโซนและทัชดาวน์ สารฆ่าแมลง ได้แก่ ผิตภัณฑ์คาราเต้ นอกจากนี้ยังมีสารป้องกันและกำจัดโรคพืช และสารควบคุมการเจริญเติบโตของพืช

มร.สตีฟ กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีรายได้จากการจำหน่ายสารกำจัดวัชพืชสูงสุด โดยเฉพาะกรัมม๊อกโซน ซึ่งมีส่วนแบ่งตลาดสูงที่สุดของตลาดรวมทั่วประเทศที่มีจำหน่ายมากกว่า 100 ยี่ห้อ ซึ่งมีมูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาท

มร.สตีฟ กล่าวถึงแผนการตลาดผลิตภัณฑ์ทัชดาวน์ในปีนี้ว่า บริษัทได้ใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ในการทำโฆษณาประชาสัมพันธ์ด้วยรูปแบบของการผลิตภาพยนตร์โฆษณาชุด "วีรบุรุษ" (HERO) ความยาว 30 และ 15 วินาที และได้เลือก "สมรักษ์ คำสิงห์" วีรบุรุษเหรียญทองโอลิมปิกคนแรกของไทยมาเป็นพรีเซ็นเตอร์ โดยแพร่ภาพผ่านสื่อโทรทัศน์ นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดทำสื่อโฆษณาอื่นๆ ทั้งทางวิทยุ นิตยสาร หนังสือพิมพ์และอื่นๆ อีกมาก เพื่อสร้างภาพลักษณ์ทัชดาวน์ให้เป็นวีรบุรุษของเกษตรกรไทย ซึ่งบริษัทคาดว่าในการรณรงค์แคมเปญดังกล่าวจะสามารถผลักดันยอดขายให้เป็นไปตามเป้าหมายได้ในสิ้นปีนี้

นอกจากนี้แผนโฆษณาประชาสัมพันธ์ผลิตภัณฑ์ทัชดาวน์แล้ว บริษัทยังได้จัดรายการส่งเสริมการขาย "เซนเนก้า โบนัส" ซึ่งเป็นรายการสมนาคุณแนวใหม่ที่มีทั้งการสะสมคะแนนสำหรับแลกของรางวัล รวมไปถึงรายการชิงโชค ตั้งแต่บัดนี้ไปจนถึงสิ้นเดือนกันยายน 2540 โดยมีรางวัลใหญ่คือ รถยนต์โตโยต้า ไฮลักซ์ และของรางวัลอื่นๆ อีกมาก รวมมูลค่ากว่า 10 ล้านบาท

กรรมการผู้จัดการเซนเนก้าฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทมีนโยบายในการมุ่งเน้นคุณภาพผลิตภัณฑ์และความปลอดภัยต่อผู้ใช้ ผู้บริโภคผลิตผลเกษตรและโดยเฉพาะในเรื่องสิ่งแวดล้อม สินค้าทุกประเภทก่อนนำออกจำหน่ายจะต้องผ่านการศึกษาวิจัยจากเซนเนก้าที่ประเทศอังกฤษ ซึ่งได้ใช้งบประมาณ ศึกษาวิจัยด้านความปลอดภัยสูงถึง 9,000 ล้านบาท ในปี 2539 และเมื่อนำเข้ามาในประเทศไทยจะต้องผ่านการทดลองให้เข้าสภาพภูมิประเทศอีกครั้ง ตลอดจนผ่านการรับรองและขึ้นทะเบียนจากกรมวิชาการเกษตรและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และเมื่อเร็วๆ นี้ บริษัทได้มีการพัฒนาและปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์สินค้าทุกประเภทของบริษัท ให้สะดวกต่อการใช้และการทำลาย โดยไม่มีผลกระทบต่อสภาพแวดล้อม นอกจากนี้ บริษัทยังได้ร่วมกับสมาคมอารักขาพืชไทยจัดหน่วยอบรมเคลื่อนที่ในการเข้าถึงระดับท้องถิ่นในการให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และกลุ่มเป้าหมาย เช่น กลุ่มเกษตรกร ร้านเคมีเกษตร แพทย์และพยาบาล

"บริษัทคาดว่านโยบายด้านการพัฒนาคุณาพผลิตภัณฑ์ และรักษาสภาพแวดล้อมอย่างต่อเนื่อง จะทำให้ผลิตภัณฑ์เซนเนก้าเป็นที่ยอมรับในกลุ่มเกษตรกรตลอดไป และสำหรับผลการดำเนินงานในสิ้นปีนี้คาดว่าจะมียอดขายรวมทั้งสิ้นประมาณ 2,000 ล้านบาท คิดเป็นอัตราขยายตัวจากปีที่ผ่านมา 20%" มร.สตีฟ กล่าวในที่สุด--จบ--

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit