กรุงเทพ--11 ก.ค.--สำนักงานเขตกรุงเทพ
นายประเสริฐ สมะลาภา ปลัดกรุงเทพมหานคร เปิดเผยว่าตนได้เชิญบริษัท พรหมวิวัฒน์ก่อสร้าง และบริษัทฟิลิพพ์ฮอลล์ แมน มาขอรับการยืนยัน เนื่องจากที่ผ่านมามีข่าวว่า บริษัทมีปัญหาเรื่องการเงิน ซึ่งทั้งสองบริษัทยืนยันว่าไม่มีปัญหาและสามารถก่อสร้างต่อได้ แต่ที่ยังไม่เริ่มก่อสร้างซึ่งเดิมจะต้องลงมือก่อสร้างมาหลายเดือนแล้วในบริเวณธนาคารแห่งประเทศไทยนั้น เนื่องจากติดปัญหาในบริเวณดังกล่าวยังมีอุปสรรคเรื่องการรื้อย้ายสาธารณูปโภค อีกทั้งกทม.จะต้องจ่ายเงินให้บริษัท 10% ของมูลค่าการก่อสร้างคือ 300 ล้านบาท ซึ่งกทม.เกรงว่าเมื่อจ่ายเงินแล้วก็ยังเริ่มก่อสร้างไม่ได้ กทม.จึงให้ย้ายไปเริ่มก่อสร้างในฝั่งธนบุรีแทน ส่วนปัญหาในฝั่งธนบุรีเรื่องการเวนคืนพื้นที่ชุมชนบ้านปูนซึ่งชาวบ้านคัดค้านว่ากทม.เวนคืนพื้นที่มากไปเพื่อนำไปก่อสร้างทางขึ้นลงบริเวณเชิงสะพานผู้บริหารกทม.จึงมีมติที่จะยกเลิกการก่อสร้างทางขึ้นลงบริเวณดังกล่าวเพื่อบีบแนวเวนคืนให้น้อยลง
นายบำเพ็ญ จตุรพฤกษ์ รองปลัดกทม. กล่าวว่า กทม.จะต้องแก้ไขร่างพระราชกฤษฎีกาเวนคืน โดยเวนคืนเฉพาะแนวเส้นทางจากช่วงต่อกับสะพานคู่ขนานบรมราชชนนี จนถึงจุดที่จะก่อสร้างสะพานพระราม 8 มีแนวเวนคืนกว้างประมาณ 40 เมตรเท่านั้น ส่วนจุดที่เป็นปัญหายกเลิกการเวนคืนไว้ก่อนในจุดดังกล่าวจะมีพื้นที่ 74 ไร่ โดยเป็นที่ดินของโรงงานสุราบางยี่ขัน 32 ไร่ ที่ดินของสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ 2 ไร่ ที่ดินของวัด 1 ไร่ และเป็นที่ดินของประชาชนอีก 39 ไร่ เมื่อพระราชกฤษฎีกาเวนคืนออกบังคับใช้แล้ว กทม.จึงจะส่งเจ้าหน้าที่ออกไปสำรวจว่า มีบ้านเรือนประชาชนอยู่ในแนวเวนคืนเป็นจำนวนเท่าใด อย่างไรก็ตามการยกเลิกก่อสร้างสะพานขึ้นลงบริเวณเชิงสะพานพระราม 8 อาจจะทำให้มาตรฐานการระบายการจราจรลดลง โดยรถที่ข้ามจากฝั่งพระนครมาฝั่งธนบุรีจะต้องไปกลับรถเป็นระยะทางไกลถึงสี่แยกอรุณอัมรินทร์ ซึ่งผลการเริ่มก่อสร้างล่าช้าทำให้โครงการเสร็จไม่ทันการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ จากเดิมจะต้องเสร็จก่อน อย่างไรก็ตามกทม. จะเร่งก่อสร้างให้เสร็จโดยเร็ว คาดว่าการก่อสร้างสะพานคู่ขนานถนนบรมราชชนนีจะเสร็จในเดือน ธ.ค.ปีนี้ เพื่อจะช่วยระบายจราจรบริเวณสะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้า--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit