กรุงเทพ--1 ต.ค.--บ.โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง
บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง จำกัด แถลงเมื่อเร็ว ๆ นี้ว่า บริษัทฯ ยังไม่ได้รับแจ้งเกี่ยวกับการตัดสินโครงการทางรถไฟและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานครของคณะรัฐมนตรีไทยแต่อย่างใด
โฮปเวลล์ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ ได้จัดทำข้อเสนอตามที่ระบุภายใต้สัญญาสัมปทานโครงการเบิรทข้อ 35.1 เพื่อนำเสนอต่อหน่วยราชการไทยที่เกี่ยวข้อง โดยบริษัทฯ ได้พยายามแก้ไขอุปสรรคต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องจากปัญหาเศรษฐกิจของไทย
ตามที่มีข่าวเกี่ยวกับการยกเลิกสัญญาโครงการเบิร์ทนั้น มร. คอลิน เวียร์ ผู้อำนวยการ บริษัท โฮปเวลล์ (ประเทศไทย) จำกัด ได้กล่าวว่า ภายใต้ข้อกำหนดของสัญญาสัมปทานโครงการเบิร์ทนั้น กระทรวงคมนาคมและการรถไฟแห่งประเทศไทยต้องแจ้งเหตุผลในการขอยกเลิกสัญญาภายใต้สัญญาสัมปทานข้อ 27.1.1 แก่โฮปเวลล์เป็นลายลักษณ์อักษร
มร. เวียร์ กล่าวว่า ในสัญญาสัมปทานข้อ 27.1.1 ได้ระบุไว้ว่า "ในการขอยกเลิกสัญญาสัมปทานนั้น ต้องดำเนินการตามขั้นตอนที่ระบุไว้ในสัญญาสัมปทานนี้ตามลำดับ ดังความดังนี้คือ ข้อ 27.1.1 ประการแรก คู่สัญญาฝ่ายรัฐต้องทำหนังสือแจ้งบริษัทฯ เป็นลายลักษณ์อักษร โดยระบุเหตุผลภยใต้สัญญาสัมปทานข้อ 27.1 ที่ให้สิทธิแก่คู่สัญญาฝ่ายรัฐในการยกเลิกสัญญาสัมปทาน หากบริษัทฯ ยังไม่มีการดำเนินการแก้ไขใด ๆ และสภาวะการณ์ดังกล่าวนั้นมีมูลเหตุเพียงพอต่อการขอยกเลิกสัญญาในกรณีเช่นนี้ บริษัทฯ จะมีเวลาเก้าสิบ (90) วัน นับจากวันที่ได้รับหนังสือแจ้งดังกล่าว และอาจนานกว่านั้น ตามที่คู่สัญญาฝ่ายรัฐกำหนดเพื่อแก้ไขการละเมิดสัญญา"
มร. เวียร์ กล่าวว่า "หากข่าวที่ว่ารัฐบาลไทยได้ยกเลิกสัญญาโครงการนี้เป็นเรื่องจริง ก็นับเป็นเรื่องที่ไม่บังเกิดผลดีต่อนักลงทุนและธนาคารต่างชาติเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในขณะนี้ ซึ่งเศรษฐกิจของไทยกำลังเผชิญกับอุปสรรคนานัปการ แต่ถึงอย่างไรก็ตาม การลงทุนในโครงการเบิร์ทของบริษัทโฮปเวลล์ จะได้รับการคุ้มครองจากกระบวนการอนุญาโตตุลาการ และค่าชดเชยที่ตามมาเช่นกัน"
มร. เวียร์ กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า "ในขณะนี้ ไม่มีการหารือใด ๆ เกี่ยวกับข้อเสนอเพิ่มเติมของโฮปเวลล์ เพื่อให้การก่อสร้างโครงการนี้แล้วเสร็จในสภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน หรือข้อเสนอแนะของรัฐบาลไทยเอง ดังนั้น หากหน่วยราชการที่เกี่ยวข้องของไทยจะมีการเจรจาและทำให้โครงการมีความคืบหน้า อีกทั้งหาทางออกให้กับปัญหาการจราจรที่เรื้อรังมานานของไทย ย่อมจะส่งผลดีกว่าการใช้เวลานานนับหลายเดือน หรือบางทีอาจเป็นหลายปี ในการพิจารณาประเด็นต่าง ๆ โดยไม่ได้ผลอะไรเลย"
มร. เวียร์ ยืนยันว่า บริษัทโฮปเวลล์ยังคงเจรจาเรื่องเงินกู้สำหรับโครงการเบิร์ทกับกลุ่มธนาคารผู้ให้กู้ ซึ่งการพิจารณาอนุมัติเงินกู้เป็นเรื่องที่ยากยิ่งขึ้นในสภาวะเศรษฐกิจของไทยในขณะนี้
บริษัทโฮปเวลล์ได้ดำเนินการก่อสร้างโครงการเบิร์ทแล้วเสร็จประมาณร้อยละ 20 โครงการเบิร์ทประกอบด้วยระบบถนนและทางรถไฟยกระดับ มีระยะยาวทั้งสิ้น 60 กิโลเมตร และเป็นโครงการที่มีเอกชนเป็นผู้ลงทุนสร้าง ทั้งหมด และยกกรรมสิทธิ์ให้รัฐบาลภายหลัง เมื่อหมดอายุสัมปทานแล้ว (Built-operate-transfer project)
บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้ง เป็นผู้พัฒนาและดำเนินการโครงการสาธารณูปโภคพื้นฐานขนาดใหญ่หลายแห่งในเอเชีย ทั้งยังดำเนินการก่อสร้างระบบขนส่ง โรงผลิตกระแสไฟฟ้า และการพัฒนาที่ดิน นอกจากนี้ โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง ยังเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งฮ่องกง โครงการขนาดใหญ่ที่สุดที่ลงทุนโดยโฮปเวลล์ ได้แก่ โครงการทางด่วนเมืองกวางซู - เซ็นเซ็น - ซูไฮ่ และโครงการถนนที่เชื่อมระหว่างเมืองที่มีขนาดใหญ่ที่สุดต่าง ๆ ในมณฑล กวางตุ้ง ซึ่งเป็นมณฑลที่เจริญรุ่งเรืองมากที่สุดของประเทศจีน และโครงการทางรถไฟและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานคร บริษัทฯ ยังมีทรัพย์สินที่ดินทั้งในฮ่องกงและจีนอีกเป็นจำนวนมาก
รายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อสอบถามได้ที่
ฮ่องกง: บริษัท ฟอร์เรสท์ อินเตอร์เนชั่นแนล
พอล แมริเอจ โทร. (852) 2501-7905 หรือ
บ็อบ เฟียนเบิร์ก โทร. (852) 2501-7908
กรุงเทพ: บริษัท แพ็ตเตอร์สัน แอนด์ พาร์ดเนอร์ ประเทศไทย จำกัด
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ โทร. (662) 637-0270-9
เจมี ฮอดจ์สัน
โทร. (662) 622-2403
หรือ (662) 391-1454 --จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit