กรุงเทพ--29 ต.ค.--โฮปเวลล์ โฮลดิ้ง
บริษัท โฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์ จำกัด ได้แถลงผลประกอบการประจำปีเป็นระยะเวลา 12 เดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2540 ดังนี้
บริษัทฯ ประสบภาวะขาดทุนเนื่องจากผู้ถือหุ้นคิดเป็นจำนวนเงิน 1,696 ล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่บริษัทฯ มีผลกำไรเป็นจำนวนเงิน 769.19 ล้านเหรียญฮ่องกง การขาดทุนดังกล่าวเป็นผลจากการสนับสนุนเงินมูลค่า 5,000 ล้านเหรียญฮ่องกง สำหรับโครงการทางรถไฟและถนนยกระดับในกรุงเทพมหานคร (เบิร์ท) ซึ่งมีผลกระทบต่อเงินค่าใช้จ่ายของบริษัทฯ ณ ขณะนี้ และได้ถูกยกเลิกอันเนื่องมาจากความไม่แน่นอนของโครงการเบิร์ท สภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำของไทย และค่าเงินบาทที่ลดลง
เซอร์ กอร์ดอน วู ประธานกรรมการ และกรรมการผู้จัดการบริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์กล่าวว่า "สภาพดังกล่าวได้มีผลกระทบต่อผลกำไรในปีปัจจุบัน หากไม่มีกรณีพิเศษดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะสามารถทำกำไรได้เป็นจำนวนเงิน 3,300 ล้านเหรียญฮ่องกง"
เขากล่าวว่า "หากโครงการดังกล่าวกลับมาอยู่ในสภาพปกติ กรรมการของบริษัทฯ หวังว่าจะมีการพิจารณาเงินสนับสนุนดังกล่าวอีกครั้ง อย่างไรก็ตามโฮปเวลล์ยังคงยืนยันความตั้งใจที่จะดำเนินการโครงการนี้ต่อไป และหวังที่จะมีการเจรจากับรัฐบาลไทย"
บริษัทโฮปเวลล์แถลงว่า บริษัทฯ จะไม่ลงทุนเพิ่มในโครงการเบิร์ทในประเทศไทยจนกว่าปัจจุบันพื้นฐานต่าง ๆ ทั้งหมดจะมีสภาพที่ดีขึ้น
ยอดขายทั้งหมดในช่วงระยะเวลาดังกล่าว คิดเป็นจำนวนเงิน 2,850 ล้านเหรียญฮ่องกง เมื่อเปรียบเทียบกับยอดขายจำนวน 2,365 ล้านเหรียญฮ่องกงในปีที่ผ่านมา อัตราขาดทุนต่อหุ้นคิดเป็น 39 เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับผลกำไรสุทธิต่อหุ้นจำนวน 18 เซ็นต์ในปี 2538/2539
บริษัทฯ มีรายได้พิเศษเป็นจำนวน 2,800 ล้านเหรียญฮ่องกง อันเป็นผลจากการขายหุ้นร้อยละ 40 ในบริษัท คอนโซลิเดดเด็ด อิเล็กทริก เพาเวอร์เอเชีย จำกัด (ซีป้า) ซึ่งเสร็จสิ้นเมื่อเดือนมกราคม 2540 แต่เงินจำนวนนี้ได้ถูกนำไปใช้ในการสนับสนุนโครงการเบิร์ท
คณะกรรมการของบริษัทโฮปเวลล์ได้แนะนำให้จ่ายเงินปันผลงวดสุดท้ายเป็นจำนวนเงินหุ้นละ 3 เซ็นต์เพื่อให้เงินปันผลทั้งปีมีมูลค่าหุ้นละ 9 เซ็นต์ เมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมาที่มีมูลค่าหุ้นละ 6 เซ็นต์
เซอร์ กอร์ดอน วู กล่าวว่า "การขายหุ้นในซีป้าทำให้ฐานเงินทุนของบริษัทฯ มีความแข็งแกร่งขึ้น และแสดงให้เห็นถึงข้อตกลงที่ดีสำหรับผู้ถือหุ้น ดังนั้น การแสดงเหตุผลที่จะไม่ขายหุ้นซีป้าเพื่อรับเงินได้พิเศษจำนวน 2,800 ล้านเหรียญฮ่องกงภายในระยะเวลา 3 ปีนับตั้งแต่หุ้นในซีป้าได้ออกจำหน่ายในตลาดเป็นเรื่องที่ยากเป็นอย่างยิ่ง"
รายได้จากการขายหุ้นดังกล่าว ส่วนใหญ่ได้นำไปใช้เพื่อลดระดับอัตราส่วนระหว่างเงินกู้และหุ้นทุนของบริษัทฯ ทั้งนี้ ระดับอัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของเจ้าของของบริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์ ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2540 คิดเป็นร้อยละ21.1 เมื่อเปรียบเทียบกับอัตราส่วนร้อยละ 23.9 ในปลายปีการเงินที่ผ่านมา
ในเดือนสิงหาคม 2540 บริษัทฯ ได้มีข้อตกลงขายหุ้นส่วนที่เหลือร้อยละ 19.99 ในบริษัทซีป้า เพื่อแลกกับรายได้มูลค่า 150 ล้านเหรียญสหรัฐ บวกดอกเบี้ยร้อยละ 80 จากโรงผลิตกระแสไฟฟ้าตันจุง จาดิ-บี ขนาด 1,320 เมกกะวัตต์ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในประเทศอินโดนีเซีย บริษัทฯ ได้รับอนุมัติเบื้องต้นจากรัฐบาลอินโดนีเซียเพื่อพัฒนาโรงไฟฟ้าตันจุง จาดิ-ซี และการเจรจาเพื่อจัดทำสัญญาซื้อขายกระแสไฟฟ้าได้เริ่มต้นในเดือนกันยายน 2540 ซึ่งจะส่งผลให้โฮปเวลล์มีสมรรถนะในการผลิตกระแสไฟฟ้าทั้งหมดเป็นจำนวน 2,640 เมกกะวัตต์ในอินโดนีเซีย
รายได้พิเศษจากการขายหุ้นในซีป้านี้จะปรากฏในผลประกอบการระหว่างกาลประจำครึ่งปีแรกของปีการเงิน 2540/2541 และได้ลดระดับอัตราส่วนระหว่างเงินกู้และหุ้นทุนของบริษัทฯ ต่อไป อัตราส่วนของหนี้สินต่อส่วนของเจ้าของของบริษัทฯณ วันที่ 31 สิงหาคม 2540 คิดเป็นร้อยละ 0
บริษัทฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นจากการดำเนินงานโครงการถนนในบริเวณสามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล (Pearl River Delta) ประเทศจีน
ปริมาณการจราจรในถนนซูปเปอร์ไฮเวย์จีเอสแซด ตะวันออก ระยะทาง 123 กิโลเมตรในมณฑลกวางตุ้ง ประเทศจีน เพิ่มขึ้นร้อยละ 20 ในระหว่างปีประกอบการดังกล่าว และ ณ เดือนสิงหาคม 2540 ปริมาณรถที่วิ่งในเส้นทางนี้เพิ่มขึ้นเป็น 71,000 คันต่อวัน โดยบริษัทฯ ได้รับอนุมัติให้ขึ้นค่าผ่านทางร้อยละ 20 ในเดือนกันยายน 2540 จากค่าผ่านทางที่เพิ่มขึ้นร้อยละ 25 ในเดือนกันยายน 2539
ปริมาณการจราจรในโครงข่ายถนนเมืองชุนเต รวมระยะทาง 102กิโลเมตรได้เพิ่มขึ้น โดยมีจำนวนรถที่ใช้เส้นทางนี้ถึงวันละ 94,000 คันต่อวัน ณ เดือนสิงหาคม 2540 ในเดือนพฤษภาคม 2540 ได้เปิดใช้สะพานโบกา ไทกริล ข้ามแม่น้ำเพิร์ล และในเดือนกันยายน 2540 มีการเปิดใช้ถนนวงแหวนกวางซู ใต้-ตะวันออก ขั้นแรก
ในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ บริษัทฯ มีรายได้จากค่าเช่าพื้นที่ในโฮปเวลล์ เซ็นเตอร์และอสังหาริมทรัพย์อื่น ๆ คิดเป็นจำนวนเงิน 300 ล้านเหรียญฮ่องกง โฮปเวลล์ยังมีที่ดินที่เก็บไว้เพื่อพัฒนาต่อไปในอนาคตเป็นจำนวนถึง 8,000 ตารางเมตรในเมืองหวันไฉ่ ฮ่องกง
บริษัทฯ ยังมีโรงแรมเกาลูน แพนด้าขนาด 1,026 ห้องซึ่งตั้งอยู่ที่เมืองสุ่น หวัน ใกล้กับท่าอากาศยานแห่งใหม่ของฮ่องกง โดยมีอัตราผู้เข้าพักร้อยละ 80 ในระหว่างปีประกอบการดังกล่าว แม้ว่าอัตราผู้เข้าพักได้ลดลงนับตั้งแต่การส่งมอบเกาะฮ่องกงคืนสู่จีน แต่เป็นไปตามสภาวะอันถดถอยของอุตสาหกรรมโรงแรม โรงแรมอีกแห่งหนึ่งของบริษัทฯ คือโรงแรมแกรนด์ โฮเต็ล เอ็กเซลซิเออร์ขนาด 438 ห้องในเมืองมัลด้าจะเปิดให้บริการในปี 2541 ธุรกิจโรงแรมทำรายได้ให้กับบริษัทฯ เป็นจำนวนเงินถึง 125 ล้านเหรียญฮ่องกง
บริษัทโฮปเวลล์ โฮลดิ้งส์เป็นผู้พัฒนาและดำเนินงานโครงการสาธารณูปโภคขนาดใหญ่หลายแห่งในเอเชีย อาทิ การพัฒนาโครงการถนนที่ต้องจ่ายค่าผ่านทาง ระยะทาง 379 กิโลเมตรในพื้นที่สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ลที่มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว และการพัฒนาโครงการทางรถไฟและถนนยกระดับในเขตกรุงเทพมหานครระยะทาง 60 กิโลเมตร ในขณะนี้ บริษัทกำลังก่อสร้างโรงผลิตกระแสไฟฟ้าในประเทศอินโดนีเซีย และพัฒนาโครงการขนส่งในประเทศฟิลิปปินส์ บริษัทฯ ยังมีผลประโยชน์อีกมากมายจากการพัฒนาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรม--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit