กรุงเทพ--30 พ.ค.--เอบีเอ็น แอมโร
เมื่อวานนี้ ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร จัดงานโรดโว์ในหัวข้อ "The Euro, a Window of Opportunity" บรรยายโดย มร.เกอร์เบล คูเปอร์ รองประธานบริหารระดับอาวุโส ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร และนางธัญญา ศิริเวทิน ผู้ช่วยผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย โดยมี ฯพณฯ เลธิเชีย แวน แอสซั่ม เอกอัครราชฑูตแห่งประเทศเนเธอร์แลนด์ประจำประเทศไทย และประธานสหภาพยุโรปร่วมงาน พร้อมด้วยกลุ่มผู้ฟังจากธนาคารต่างๆ และลูกค้าจำนวนกว่า 200 คน
งานโรดโชว์ครั้งนี้มีจุดประสงค์เพื่ออธิบายเป้าหมายทางเศรษฐกิจในการแนะนำสหภาพเศรษฐกิจและการเงินยุโรป (Economic and Monetary Union-EMU) และประโยชน์ที่ลูกค้าและองค์กรในประเทศไทยจะได้รับ ตลอดจนบทบาทของบริการของธนาคารเอีเอ็น แอมโร ที่สามารถเอื้อ อำนวยความสะดวกให้แก่องค์กรเหล่านั้น
มร.บรูโน ชริค ผู้จัดการประจำประเทศไทย ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร กล่าวว่า "เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งในการจัดโรดโชว์ในหัวเรื่องเงินสกุลยูโร่ และเรามีความภาคภมิใจอย่างมากที่ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร จะมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่ง โดยเฉพาะในขั้นตอนการดำเนินการ ซึ่งหมายความว่าเราสามารถให้บริการด้านธุรกิจและขยายโอกาสในการลงทุนของตลาดในประเทศไทยที่ผ่านเครือข่ายทั่วโลกของธนาคารฯ ในฐานะที่เป็นธนาคารฯ ผู้นำด้านเงินสกุลยูโร ที่มีสำนักงานและเครือข่ายที่กว้างขวางในยุโรป เราจึงสามารถมอบประโยชน์ให้แก่ลูกค้าชาวไทยในด้านการแนะนำเงินสกุลยูโร่ และคำปรึกษาเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นระหว่างการเปลี่ยนแปลง"
สหภาพเศรษฐกิจและการเงินยุโรป ได้กำหนดเป้าหมายหลัก เพื่อยกเลิกอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ ของยุโรป ซึ่งเป็นสาเหุตที่ก่อให้เกิดความไร้เสถียรภาพด้านการค้าข้ามชาติและนักลงทุน ในบางกรณีอาจเป็นสาเหตุที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อระบบการเงินของโลก ทั้งนี้ การยกเลิกอัตราแลกเปลี่ยนเงินสกุลต่างๆ ของยุโรปและการใช้เงินสกุลเดียวจะช่วยหยุดปัญหาเรื่องการลดค่าเงิน และยังช่วยเสริมความแข็งแกร่งด้านการแข่งขันทางการค้าและอุตสาหกรรมในยุโรป นอกจากนี้การเปลี่ยนแปลงโครงสร้าทางการเงินดังกล่าว จะมีผลต่อการเติบโตทางเศรษกิจ และการจ้างงานในยุโรป
สหภาพเศรษฐกิจและการเงินยุโรป จะมีผลบังคับในวันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2542 และเป็นวันแรกในการใช้เงินสกุลยุโรปหรือสกุลยูโร่อย่างเป็นทางการ อย่างไรก็ตาม สกุลเงินยูโรจะใช้เฉพาะในธนาคารกลาง ธนาคารพาณิชย์ และตลาดใหญ่บางแห่งเท่านั้น สำหรับองค์กรขนาดเล็ก และลูกค้าโดยทั่วไปจะเริ่มใช้เงินสกุลยูโร่หลังจากการผลิตเหรียญและธนบัตรสกุลยูโรขึ้นใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2545 เป็นอย่างช้า
ธนาคารเอบีเอ็น แอมโร เป็นธนาคารที่ใหญ่ติดอันดับที่ 14 ของโลก อันดับที่ 5 ในยุโรปและอันดับหนึ่งในประเทศเนเธอร์แลนด์ ทั้งนี้ ด้วยเชื่อเสียงทางด้านการบริหารความมั่นคง ที่สั่งสมมา ยาวนาน รวมทั้งเป็นสถาบันการเงินและหุ้นส่วนธุรกิจที่มีความน่าเชื่อถือ โดยมีสำนักงาน 1,700 แห่ง ใน 70 ประเทศ และมีพนักงานกว่า 64,000 คนทั่วโลก ขณะนี้ธนาคารฯ มีสินทรัพย์มูลค่าประมาณ 10,686 พันล้านบาท (411 พันล้านเหรียญสหรัฐ)--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit