กรุงเทพ--16 พ.ค.--ปตท..
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ที่โรงแรมริเวอร์แคว จ.กาญจนบุรี ได้มีการประชุม คณะอนุกรรมการติดตาม และแก้ไขปัญหาผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการท่อส่งก๊าซฯพม่า ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยมี นายขวัญชัย วศวงศ์ ได้แถลงว่าคณะอนุกรรมการชุดนี้ ได้รับการแต่งตั้งขึ้น ตามคำสั่งคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อม ที่2/2540 ลงวันที่ 23 เมษายน 2540 ลงนามโดย ฯพณฯ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ นายกรัฐมนตรี เพื่อทำหน้าที่ในการติดตาม กำกับ ดูแลให้มีการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการเพื่อป้องกันแก้ไข และพัฒนาสิ่งแวดล้อม โครงการท่อส่งก๊าซฯพม่า ซึ่งมีการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย หรือ ปตท. เป็นผู้ดำเนินการ
นายขวัญชัย เปิดเผยด้วยว่า ครั้งนี้เป็นการประชุมครั้งแรก เพื่อทำความเข้าใจเรื่องอำนาจ หน้าที่ กรอบ และแนวทางการดำเนินงาน ตลอดจนรับฟังข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะจากอนุกรรมการ โดยเฉพาะกลุ่มองค์กรพัฒนาเอกชน หรือ NGO ซึ่งเป็นข้อคิดเห็นที่เป็นประโยชน์ในการดำเนินงานอย่างยิ่ง ส่วนการประชุมครั้งต่อไป จะนำเสนอกรอบ และแนวทางการดำเนินงานที่ได้รับการชี้แนะจากอนุกรรมการ เพื่อใช้ในการติดตามดูแล แผนปฏิบัติงาน ลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม 10 แผน ที่ปตท.เสนอต่อคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ และจะมีการชี้แจงประเด็นข้อสงสัยบางเรื่องที่เป็นเรื่องทางเทคนิค อาทิ มาตรฐานความหนาของท่อ โดยปตท.รับจะจัดหาผู้เชี่ยวชาญที่เป็นกลางมาช่วยชี้แจงเพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งนี้คณะอนุกรรมการจะมีการประชุมทุกวันพุธ สัปดาห์ที่ 2 ของเดือน เพื่อรับทราบความก้าวหน้าของโครงการ และต้องรายงานผลปฏิบัติงานแก่คณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อทราบและสั่งการทุก 3 เดือน
สำหรับแผนปฏิบัติงาน ทั้ง 10 ได้แก่ แผนการประชาสัมพันธ์ แผนปลูกสร้างจิตสำนึกในการ อนุรักษ์ธรรมชาติ แผนฟื้นฟูและอนุรักษ์ป่าไม้บริเวณแนวท่อก๊าซฯ แผนการศึกษาวิจัยผลกระทบด้านสัตว์ป่า แผนงานนำไม้ออกและป้องกันการลักลอบตัดไม้และล่าสัตว์ แผนการเตรียมการป้องกันการก่อวินาศกรรม มาตรการด้านความปลอดภัย แผนการก่อสร้าง แผนการติดตามตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการตรวจสอบด้านสิ่งแวดล้อม (หมายถึงคณะกรรมการชุดนี้)
อนึ่ง ในการประชุมครั้งนี้ แม้จะมีคณะอนุกรรมการสาย NGO บางท่าน แสดงความอึดอัดใจ เนื่องจากเกรงว่าการเข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการติดตามฯ จะทำให้ถูกมองว่าปตท.ซื้อตัว จึงประสงค์จะลาออก แต่ประธานคณะอนุกรรมการได้ขอร้องให้ร่วมกันทำงานต่อไป เพราะโครงการนี้เป็นประโยชน์ต่อประเทศโดยรวมทั้งในด้านพลังงาน เศรษฐกิจ และชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชน ส่วนด้านสิ่งแวดล้อม ยอมรับว่าแม้จะมีผบกระทบแต่เป็นเพียงชั่วคราว และในบริเวณที่ไม่มากนัก แต่ก็ต้องช่วยกันดูแลให้กระทบน้อยที่สุด ซึ่งหากอนุกรรมการมีแต่คนที่เห็นด้วยทั้งหมด การติดตามอาจไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
สำหรับคณะอนุกรรมการติดตามฯ ชุดนี้ ประกอบด้วย ผู้แทน 20 ท่านได้แก่ ผู้ว่าราชการจังหวัดกาญจนบุรีเป็นประธาน ผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรีหรือผู้แทน ผู้ว่าการปตท.หรือผู้แทน อธิบดีกรมป่าไม้หรือผู้แทน เลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทน เลขาธิการมูลนิธิเพื่อนช้างหรือผู้แทน ประธานกลุ่มอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่น จ.กาญจนบุรีหรือผู้แทน ประธานสถาบันสิ่งแวดล้อม ไทยหรือผู้แทน เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่า และพืชพรรณแห่งประเทศไทยหรือผู้แทน ประธานมูลนิธิสืบนาคะเสถียรฯ หรือผู้แทน นายอำเภอทองผาภูมิ นายอำเภอไทรโยค นายอำเภอด่านมะขามเตี้ย ประธานสภาตำบลปิล๊อก ประธานองค์การบริหารส่วนตำบลวังกระแจะ ประธานองค์การบริการส่วนตำบลด่านมะขามเตี้ย เป็นอนุกรรมการ หัวหน้าสำนักงานจังหวัดกาญจนบุรี เจ้าหน้าที่ปตท. และผู้อำนวยการฝ่ายประชาสัมพันธ์ ปตท. เป็นอนุกรรมการและเลขานุการ--จบ--
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit