ASIANET: "พีเออี" วางกลยุทธ์สู่สากล นักวิเคราะห์ชี้น่าลงทุน

25 Jun 1996

กรุงเทพ--25 มิ.ย.--พีเออี

นักวิเคราะห์ฯ แนะ พีเออี มีแนวโน้มการเติบโตทางธุรกิจดี มีศักยภาพ การขยายงานสูง ระบุจุดเด่นอยู่ที่ปัจจัยพื้นฐานของบริษัท ด้านพีเออีฯ เตรียมลุย โรดโชว์ สิงค์โปร์ กรกฎาคม นี้

บงล.นิธิภัทร จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินของบมจ. พีเออีฯ โดยความร่วมมือจากสมาคมนักวิเคราะห์หลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ได้จัด ให้มีการนำเสนอข้อมูลของ บริษัท พีเออี (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) โดยได้ เชิญผู้บริหารมาเป็นตัวแทนในการนำเสนอข้อมูลการดำเนินธุรกิจ โดยมีนักวิเคราะห์ หลักทรัพย์สนใจเข้ารับฟังกว่า 100 คน นายณรงค์ แย้มประเสริฐ กรรมการผู้จัดการ บมจ.พีเออีฯ ได้กล่าวว่า บมจ.พีเออีฯ เป็นบริษัทที่ดำเนินธุรกิจด้านวิศวกรรมก่อสร้าง ครบวงจร ทั้งในด้านการก่อสร้าง การวางระบบ การจัดหาบุคลากร การให้บริการ ทางด้านอุตสาหกรรม สำหรับในปี 2539 สิ้นสุดเดือนพฤษภาคม บริษัทมีหลายโครงการ ที่เซ็นสัญญาไปแล้วมีมูลค่า 3,880 ล้านบาท แยกเป็นการดำเนินงานด้านการก่อสร้าง 2,470 ล้านบาท งานด้านโทรคมนาคมและจัดหาบุคลากร 926 ล้านบาท ด้าน การบริการอุตสาหกรรม 400 ล้านบาท และด้านการจัดจำหน่าย 84 ล้านบาท อย่างไรก็ตามคาดว่าถึงสิ้นปีบริษัทจะมีศักยภาพในการทำโครงการมีมูลค่ารวม 6,200 ล้านบาท

ดร.ธนาคม สกุลไทย์ รองกรรมการผู้จัดการบมจ.พีเออีฯ กล่าวเพิ่มเติม ว่านับจากนี้เป็นต้นไปบมจ.พีเออีฯ ได้วางกลยุทธ์หลักเพื่อนำไปสู่การเป็นบริษัทวิศวกรรม ก่อสร้างครบวงจร ในปี คศ.2000 ประกอบด้วย การพัฒนาระบบเพื่อนำไปสู่มาตรฐาน อุตสาหกรรม ISO 9000 ลดต้นทุนด้วยการนำบริษัทเข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เพิ่มประสิทธิภาพของบุคลากรโดยเฉพาะการนำระบบคอมพิวเตอร์มาใช้ในการควบคุม งาน รักษามาตรฐานและคุณภาพการให้บริการ นอกจากนี้ยังได้วางกลยุทธ์ในการเข้า ไปร่วมมือกับบริษัทต่างชาติเพื่อดำเนินธุรกิจ ร่วมลงทุนกับบริษัทที่มีศักยภาพในการพัฒนา ธุรกิจที่ดี เพิ่มการลงทุนในต่างประเทศ และขยายการลงทุนไปยังธุรกิจอื่น ๆ มากขึ้น ซึ่งกลยุทธ์ดังกล่าวทั้งหมดนี้ บริษัทได้มีการเตรียมการมาเป็นเวลานาน เนื่องจากในปี คศ.2000 การแข่งขันจะเข้าสู่ยุคไร้พรมแดน การเตรียมการรองรับงานในระยะยาว จึงเป็นเรื่องที่พีเออีฯ ตระหนักถึงตลอดเวลา สำหรับการจัดงานนำเสนอข้อมูลให้กับ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ในครั้งนี้ ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจาก มีนักวิเคราะห์ให้ความสนใจและมาร่วมฟังกันเป็นจำนวนกว่า 100 คน นอกจากนี้ใน ช่วงเวลากลางเดือนกรกฎาคม บริษัท พีเออีฯ จะได้จัดโรดโชว์ ไปยังต่างประเทศ โดยเริ่มต้นที่ประเทศสิงคโปร์

นายบุรินทร์ กันตะบุตร กรรมการผู้อำนวยการ สมาคมนักวิเคราะห์ หลักทรัยพย์แห่งประเทศไทย ได้เปิดเผยว่า การจัดงานเสนอข้อมูล ของบมจ.พีเออีฯ ได้รับความสนใจจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะข้อมูลของโครงการ ต่าง ๆ ที่ได้รับและข้อมูลทางการเงินจะเป็นประโยชน์ให้กับนักวิเคราะห์นำไปใช้ใน การแนะนำผู้ลงทุนในโอกาสต่อไป

นายสมชาย ไตรรัตนภิรมย์ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัท เงินทุนหลักทรัพย์ตะวันออกฟายแน้นซ์ (1991) จำกัด (มหาชน) เปิดเผยภายหลัง จากการเข้างานว่า การนำเสนอข้อมูลของบริษัท พีเออีฯ เป็นประโยชน์อย่างยิ่งใน การแนะนำลูกค้าของโบรกเกอร์ต่าง ๆ สำหรับปัจจัยพื้นฐานของหุ้นบมจ.พีเออีฯ จัด ได้ว่าเป็นหุ้นที่น่าลงทุนในระยะยาว ประกอบกับราคาหุ้นในขณะนี้ยังสามารถเข้ามา ลงทุนได้ โดยมีค่า P/E ที่ 17 เท่า ในขณะที่มีค่า P/E ของกลุ่มพัฒนาอสังหา- ริมทรัพย์อยู่ที่ 22 เท่า และเมื่อเทียบค่า P/E กับกำไรต่อหุ้นที่ 10 บาทแล้ว ราคา หุ้นสามารถขยับขึ้นไปได้อีกค่อนข้างมาก

นายสมชาย กล่าวเพิ่มเติมว่าก่อนหน้าที่จะได้รับข้อมูลจากทางบมจ.พีเออีฯ นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ยังรับทราบข้อมูลไม่ชัดเจนกับการดำเนินธุรกิจของบริษัท แต่ หลังจากที่เข้ามารับฟังแล้วพบว่า พีเออีฯ มีศักยภาพสูง โดยมีจุดเด่นที่ปัจจัยพื้นฐาน มีแนวโน้มการขยายตัวและมีความสามารถในการทำกำไรอยู่ในเกณฑ์ที่ดี นอกจากนี้ บมจ.พีเออีฯ ยังมีโครงการที่รออยู่ในอนาคตค่อนข้างแน่นอน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การดำเนินธุรกิจเกี่ยวกับสาธารณูปโภคนั้น มีความเกี่ยวข้องกัยแผนพัฒนาสังคมและ เศรษฐกิจแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ซึ่งมีโครงการรออยู่ถึง 3.3 ล้านล้านบาท

อนึ่งผลการดำเนินงานของบมจ.พีเออีฯ ในไตรมาสแรกปี 2539 มี รายได้เพิ่มขึ้นจากปีที่แล้วถึง 82% กล่าวคือรายได้รวมของบริษัทฯ มีจำนวน 445.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากงวดเดียวของปี 2538 ที่มีรายได้รวม 244.7 ล้านบาท และมี กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 76.6% หรือคิดเป็น 30.2 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสแรกของปี 2538 17.1 ล้านบาท--จบ--