JMART - JMT ยืนหยัดใน SET100 และเข้าดัชนี SETESG รอบครึ่งปีแรก 68 สะท้อนผู้นำ Commerce Tech และ FinTech สู่ความยั่งยืน

20 Dec 2024

JMART และ JMT กอดคออยู่ใน SET100 ต่อเนื่อง และได้รับคัดเลือกเป็นหลักทรัพย์เข้าใหม่ในดัชนี SETESG รอบครึ่งปีแรก 2568 ซึ่งสะท้อนภาพขนาดของมูลค่าหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ใหญ่ 100 อันดับแรก และการเน้นย้ำเรื่อง ESG ทั้งในมิติด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการดำเนินธุรกิจภายใต้ความโปร่งใสและธรรมาภิบาล เริ่มคำนวณใน SETEGS Index ใหม่ ตั้งแต่ 1 มกราคม 2568

JMART - JMT ยืนหยัดใน SET100 และเข้าดัชนี SETESG รอบครึ่งปีแรก 68 สะท้อนผู้นำ Commerce Tech และ FinTech สู่ความยั่งยืน

นายอดิศักดิ์ สุขุมวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. เจมาร์ท กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (JMART) กล่าวว่า JMART และ JMT ได้รับเลือกจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยให้เป็นหุ้นที่เข้าคำนวณดัชนี SETESG ในรอบครึ่งปีแรก 2568 (1 มกราคม - 30 มิถุนายน 2568) ซึ่งเป็นดัชนีที่สะท้อนความเคลื่อนไหวของราคากลุ่มหลักทรัพย์ของบริษัทจดทะเบียนที่มีการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน โดยคำนึงถึงถึงปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และบรรษัทภิบาล (Environmental, Social and Governance หรือ ESG) และมีสภาพคล่องเพียงพอ อีกทั้ง JMART และ JMT ยังคงอยู่ในดัชนี SET100 ต่อเนื่อง สะท้อนความเชื่อมั่นจากนักลงทุนในการดำเนินธุรกิจให้มีการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง สร้างความเชื่อมั่นและความน่าสนใจในการลงทุนจากนักลงทุนสถาบันทั้งในและต่างประเทศมากขึ้นในอนาคต

อย่างไรก็ดี การดำเนินธุรกิจบนหลักของ ESG คือ หัวใจสำคัญในการขับเคลื่อนกลยุทธ์สู่การเป็นผู้นำในธุรกิจค้าปลีก การเงิน และเทคโนโลยี โดยมุ่งเน้น Commerce Tech และ FinTech ด้วยการนำเทคโนโลยีเข้ามาทรานส์ฟอร์มองค์กร และยกระดับการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการเงินและการลงทุนให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ผ่าน Core Business ในธุรกิจจัดจำหน่ายสินค้ามือถือ และเทคโนโลยี ธุรกิจสินเชื่อ ธุรกิจบริหารหนี้ด้อยคุณภาพ และธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กลุ่มศูนย์การค้า

ด้าน นายสุทธิรักษ์ ตรัยชิรอาภรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.เจ เอ็ม ที เน็ทเวอร์ค เซอร์วิสเซ็ส (JMT) กล่าวว่า พร้อมเดินหน้าธุรกิจริหารหนี้ สร้างความยั่งยืนในการดำเนินธุรกิจ ในการเข้ามาช่วยสถาบันการเงินทั้ง Bank และ Non-Bank บริหารหนี้เสียในระบบ (NPL) รวมถึงการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ ซึ่งนับเป็นโจทย์ที่ใหญ่มากของเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน ทั้งหมดนี้ คือฟันเฟืองสำคัญในการช่วยเหลือประชาชน ช่วยเหลือภาคธุรกิจ และเศรษฐกิจของประเทศ ให้มีการเติบโตอย่างยั่งยืนในทุกมิติต่อไป

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit