นายชัยพิพัฒน์ แก้วไตรรัตน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL รายงานมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 7/2567 ที่จัดขึ้น เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายน 2567 ต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย โดยมีสาระสำคัญถึงผลการดำเนินงานสำหรับไตรมาสที่ 3/2567 สำหรับงวด 9 เดือนสิ้นสุด 30 กันยายน 2567 โดยบริษัทมีรายได้เพิ่มขึ้นจากการให้บริการ 8.957 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 2.5% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นการเพิ่มขึ้นของรายได้จากกลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจ B2C ร้อยละ 14.3 เป็นหลัก
นายชัยพิพัฒน์ เผยว่า "สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาสที่ 3 สำหรับงวด 9 เดือน ปี 2567 บริษัทมีรายได้จากการให้บริการเพิ่มขึ้นร้อยละ 2.5 เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทได้ทำกลยุทธ์การขายโดยการกระจายฐานลูกค้าภาคธุรกิจสู่กลุ่มธุรกิจใหม่ๆ ซึ่งได้แก่กลุ่มยาและเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ได้สำเร็จ ภายหลังจากการได้รับมาตรฐาน GSDP (Good Storage & Distribution Practice) ตามข้อกำหนดขององค์การอนามัยโลก อีกทั้งยังมีการเติบโตของรายได้จากกลุ่มลูกค้าที่เป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มออนไลน์ที่มีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการขายของลูกค้ารายใหญ่ B2C ส่งผลให้ลูกค้ารายใหญ่ดังกล่าวใช้บริการมากขึ้น"
"ในส่วนของภาพรวมธุรกิจของบริษัทฯ ยังคงเติบโตและขยายการบริการอย่างต่อเนื่อง โดยเป็นการดำเนินธุรกิจการขนส่งสินค้าภายในประเทศที่มุ่งเน้นการบริการลูกค้าครบวงจร และมีการให้บริการเก็บเงินค่าสินค้าปลายทาง (Cash on Delivery : COD) นอกจากนี้บริษัทยังให้บริการเสริมเพื่ออำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการแก่ลูกค้า กล่าวคือ บริการจัดส่งคืนเอกสารสู่ลูกค้าต้นทาง บริการห่อหุ้มสินค้า และบริการจัดชุดสินค้าเพื่อเตรียมกระจาย ซึ่งเป็นการให้บริการเสริมแก่กลุ่มลูกค้าภาคธุรกิจมากขึ้น
ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าหลักของบริษัทฯ ครอบคลุมทั้งกลุ่ม B2B, C2C และ B2C โดยมุ่งเน้นการให้บริการที่ตอบสนองความต้องการของลูกค้าทุกภาคส่วนได้อย่างเต็มที่ เราพร้อมทุ่มเททรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการดำเนินงานเพื่อให้มั่นใจว่าทุกการส่งสินค้าจะได้รับการจัดการอย่างดีที่สุด ด้วยมาตรฐานคุณภาพสูงสุด ไม่ว่าจะเป็นบริการขนส่งสินค้า บริการ COD หรือบริการเสริมต่าง ๆ ที่ช่วยอำนวยความสะดวกและเสริมประสิทธิภาพในการทำธุรกิจของลูกค้า โดย TPL ยังคงดำเนินกลยุทธ์ความยั่งยืน ภายใต้นโยบายด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการพัฒนาอย่างยั่งยืน (ESG) และ "Green Logistics" อย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการพัฒนาการให้บริการและขยายฐานลูกค้าดังกล่าว"
นายชัยพิพัฒน์ ได้กล่าวปิดท้ายว่า "กลยุทธ์ของเราในปีหน้ายังคงมุ่งเน้น การขยายการบริการโลจิสติกส์ครบวงจร การขยายฐานลูกค้ากลุ่มธุรกิจให้สูงขึ้น ตอบโจทย์ธุรกิจใหม่ได้หลากหลายมากขึ้น และยกระดับการบริการ รวมถึงคุณภาพของบริษัทให้มีมาตรฐานสากล พัฒนาคนและองค์กรเพื่อรองรับอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ในอนาคต เราเชื่อมั่นว่ากลยุทธ์ของเราจะทำให้บริษัทเติบโตอย่างมั่นคง พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของโลก และส่งมอบการบริการที่ดีที่สุดให้แก่ลูกค้าของเรา"
HTML::image(ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit