อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ประกาศเปิดตัว 12 พื้นที่ทำงานใหม่ทั่วประเทศ ตอบรับความต้องการพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดที่เพิ่มขึ้น

07 Feb 2025

  • พื้นที่ทำงานใหม่ 12 แห่งใน 2 เมือง กำลังพร้อมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของการให้บริการภายใต้แบรนด์ชั้นนำต่างๆ ของ IWG ในประเทศไทยในปีนี้
  • พื้นที่ทำงานเหล่านี้คือศูนย์การทำงานระดับพรีเมียมของ IWG ที่ครบครันด้วย co-working space สำนักงานส่วนตัว ห้องประชุม และพื้นที่ที่ออกแบบมาเพื่อส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์ (creative space)
  • ทั้งหมดนี้คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของ IWG ในการมอบสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียมในหลากหลายทำเล เมื่อการทำงานแบบไฮบริดกำลังกลายเป็นมาตรฐานการทำงานสำหรับคนทำงานเพิ่มมากขึ้น
  • ด้วยความหลากหลายของสถานที่ตั้ง ทั้งในย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) และพื้นที่เขตชานเมืองIWG เตรียมเสริมความแข็งแกร่งให้กับแบรนด์ Spaces, Regus และ HQ ในประเทศไทย ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรรายใหม่

อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ผู้ให้บริการโซลูชันการทำงานแบบไฮบริดที่ใหญ่ที่สุดในโลกภายใต้แบรนด์ Spaces, Regus และ HQ พร้อมเดินหน้าขยายเครือข่ายพื้นที่ทำงานในประเทศไทย โดยเตรียมเปิดตัว 12 แห่งใหม่ในกรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา และระยอง พื้นที่ทำงานเหล่านี้มีกำหนดเปิดให้บริการเริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2568 จนถึงสิงหาคม 2568 และจะมอบความยืดหยุ่นที่โดดเด่นและการเข้าถึงที่สะดวกสบาย ที่ตอบโจทย์ความต้องการของบริษัททุกขนาดในประเทศไทย

  1. รีจัส กะตะธานี บิลดิง ภูเก็ต
  2. รีจัส สุภาลัย ไอคอน กรุงเทพฯ
  3. รีจัส รสา วัน ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
  4. รีจัส เจพาร์ค นิฮอน มูระ ชลบุรี
  5. รีจัส ไบรท์ตัน แกรนด์ พัทยา
  6. รีจัส สตาร์ ไอที เซ็นเตอร์ ระยอง
  7. สเปซเซส สุทธิ บิลดิง กรุงเทพฯ
  8. สเปซเซส วานิช เพลซ อารีย์
  9. สเปซเซส คิงบริดจ์ ทาวเวอร์
  10. เอชคิว เอส.พี บิลดิง กรุงเทพฯ
  11. เอชคิว เสริมมิตร ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
  12. เอชคิว โอเอสซี บิลดิง สมุทรปราการ

การขยายสาขาใหม่ในประเทศไทยครั้งนี้เกิดขึ้นท่ามกลางความสำเร็จของ IWG ซึ่งทำทั้งสถิติรายได้ กระแสเงินสด และการเติบโตของกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมไปกับการเติบโตของเครือข่ายอย่างรวดเร็ว โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 2567 เพียงปีเดียว IWG ได้เซ็นสัญญาเปิดศูนย์ใหม่ถึง 465 แห่งทั่วโลก นอกจากนี้ ความหลากหลายของแนวทางในการพัฒนาพื้นที่การทำงานแต่ละแห่งทั้ง 12 แห่ง ยังสะท้อนถึงศักยภาพของ IWG ในการตอบโจทย์ความต้องการด้านการทำงานแบบไฮบริดของแต่ละตลาด ผ่านกลยุทธ์ที่ปรับให้เหมาะสมกับบริบทในแต่ละพื้นที่นั้น (Highly Localized Approach)

ปัจจุบัน อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) มีพื้นที่ให้บริการเพื่อการทำงานในประเทศไทยรวม 46 แห่ง รวมถึงพื้นที่แห่งใหม่ที่เปิดให้บริการในเดือนมกราคมที่ผ่านมา และมีแผนจะเปิดพื้นที่เพิ่มเติมอีกไม่น้อยกว่า 12 แห่ง ภายในปี 2568

เปิดตัว Regus แห่งใหม่ในภูเก็ต

Regus Kata เตรียมเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 บนเกาะภูเก็ตอันงดงาม โดยเป็นพื้นที่อาคารเดี่ยวขนาด 1,323 ตารางเมตร สูง 3 ชั้น ซึ่งเกิดจากความร่วมมือระหว่าง IWG และ บริษัท ภูเก็ตหาดกะตะ จำกัด ในการปรับปรุงอาคารพาณิชย์ 7 คูหา ให้กลายเป็นศูนย์การทำงานแบบไฮบริดที่ทันสมัย ทั้งนี้Regus Kata Thani ตั้งอยู่ระหว่างตัวเมืองภูเก็ตและหาดป่าตอง หนึ่งในแหล่งท่องเที่ยวชื่อดังของจังหวัด ด้วยทำเลที่ตั้งโดดเด่นด้วยการเดินทางที่สะดวก พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ท่ามกลางร้านค้าและที่พักอาศัยในบริเวณใกล้เคียง

6 พื้นที่เพื่อการทำงานใหม่ใจกลางกรุงเทพฯ

อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) ยังคงเดินหน้าตอบรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้นของพื้นที่ทำงานที่มอบความยืดหยุ่นที่มีคุณภาพสูง พร้อมผลักดันแนวคิด "15-Minute City" หรือเมืองที่ผู้คนสามารถทำงานได้อย่างมีความสุขและมีประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องเสียเวลาการเดินทางไกลจากที่พักอาศัยโดยตลอดช่วงเดือนเมษายนและพฤษภาคม 2568 IWG จะเปิดตัวพื้นที่ทำงานใหม่ 7 แห่งทั่วกรุงเทพฯ โดย 4 แห่งตั้งอยู่ในทำเลศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ที่โดดเด่น

เปิดตัว Regus ใหม่ 2 แห่งในกรุงเทพฯ

  1. ในพื้นที่ย่านสาทร Regus Supalai ICON พร้อมเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 เสริมทัพพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดระดับพรีเมียมของ Regus โดย Regus Supalai ICON ตั้งอยู่ภายในอาคารที่มีโครงสร้างแบบมิกซ์ยูสที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อผสานชีวิตเมืองและธรรมชาติเข้าด้วยกันอย่างลงตัว พื้นที่ทำงานของ Regus จะครอบคลุมหนึ่งชั้นของอาคารสูง 56 ชั้น ซึ่งประกอบด้วยโซนที่พักอาศัย ร้านค้า และสิ่งอำนวยความสะดวกระดับไฮเอนด์ ศูนย์แห่งนี้พร้อมก้าวขึ้นเป็นอีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของย่านศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ของกรุงเทพฯ
  2. Regus Rasa One Tower Bangkok เตรียมเปิดให้บริการในเดือนมีนาคม 2568 เสริมเครือข่ายพื้นที่ทำงานแบบไฮบริดของ Regus ในกรุงเทพฯ พื้นที่ทำงานแห่งใหม่นี้เกิดจากความร่วมมือระหว่าง IWG และ บริษัท รสา ทาวเวอร์ จำกัด โดยมีพื้นที่ขนาด 604 ตารางเมตร ตั้งอยู่ใจกลางย่านจตุจักร ซึ่งเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่คึกคัก และเดินทางสะดวกในกรุงเทพฯ

เปิด 3 ศูนย์ใหม่ในกรุงเทพฯ

  1. เช่นเดียวกันในพื้นที่ราชเทวี Spaces Suthi Building ได้เปิดให้บริการก่อนหน้านี้ในเดือนมกราคม 2568 ด้วยพื้นที่การทำงานที่ตั้งอยู่ใกล้กับ MRT เพชรบุรี และยังอยู่ใกล้ย่านอโศกที่คึกคักที่สะดวกต่อการเดินทาง พื้นที่ทำงานใหม่แห่งนี้เกิดจากการบริหารร่วมกันกับ สุทธิ ดีเวลลอปเม้นท์ โดยมีพื้นที่รวม 2,372 ตารางเมตร แบ่งออกเป็น 4 ชั้น พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รองรับทุกความต้องการของผู้ใช้งาน
  2. ด้วยความร่วมมือกับกลุ่มบริษัทแหลมทองสหการ พื้นที่การทำงานใหม่แห่งที่สามภายใต้แบรนด์Spaces จะเปิดให้บริการในเดือนพฤษภาคม 2568 ที่ Spaces Vanit Place Aree ซึ่งตั้งอยู่ห่างจากสถานี BTS อารีย์ เพียง 200 เมตร เป็นอาคารสูง 31 ชั้น โดยจะมีพื้นที่ทำงาน 1,796 ตารางเมตร นอกจากการเข้าถึงที่สะดวกและสิ่งอำนวยความสะดวกที่ครบครันแล้ว ผู้ใช้งานยังสามารถเพลิดเพลินกับสวนบนดาดฟ้าและพื้นที่ค้าปลีก 4 ชั้น ของอาคารเพื่อการผ่อนคลายหลังเลิกงานได้อีกด้วย
  3. อีกหนึ่งพื้นที่ทำงานใหม่ภายใต้แบรนด์ Spaces ในกรุงเทพฯ คือ Spaces Kingbridge Tower ซึ่งมีกำหนดเปิดให้บริการในเดือนเมษายน 2568 พื้นที่แห่งนี้ถูกออกแบบให้เป็น "สุดยอดประสบการณ์การทำงานที่ดีที่สุด" ใจกลางย่านพระราม 3 ตั้งอยู่ภายในอาคารสำนักงานสูง 52 ชั้น ที่เพิ่งเปิดตัวในปี 2567 โดยมีสิ่งอำนวยความสะดวกระดับพรีเมียม อาทิ สวนลอยฟ้า (Sky Garden) พื้นที่ประชุม พื้นที่ค้าปลีก พร้อมวิวแม่น้ำเจ้าพระยาและสะพานภูมิพลอันสวยงาม

HQ เปิดพื้นที่ทำงาน 2 แห่งในกรุงเทพฯ และ 1 แห่งในสมุทรปราการ

HQ กำลังขยายการดำเนินงานในกรุงเทพฯ ผ่านความร่วมมือกับพันธมิตรใหม่บริษัท เอส.พี.อาคาร จำกัดโดยจะเปิดพื้นที่การทำงานใหม่สองแห่งในเดือนพฤษภาคม 2568 ทั้งนี้ HQ S.P. Building ซึ่งเป็นอาคารสำนักงานตั้งอยู่ในย่าน พญาไท และห่างจากสถานี BTS อารีย์ เพียงไม่กี่ก้าว จะเพิ่มพื้นที่ใช้สอย 1,092 ตารางเมตร ให้กับบริการของ HQ ในกรุงเทพฯ ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่ที่มีการบริการจาก IWG อย่างแข็งแกร่งผ่านพื้นที่ต่างๆ มีอัตราการเช่าพื้นที่สูงกว่า 90%

  1. HQ และ เอส.พี.อาคาร ยังร่วมมือกันในการเปิดพื้นที่การทำงานแห่งที่สองในกรุงเทพฯ ที่ HQ Serm-Mit Tower ซึ่งมีกำหนดเปิดในเดือนพฤษภาคม 2568 โดยศูนย์ HQ นี้จะมีพื้นที่ใช้สอย 517 ตารางเมตร ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกมาก โดยห่างจากสถานี BTS อโศก และสถานี MRT สุขุมวิท เพียงไม่กี่ก้าวเท่านั้น
  2. HQ OSC Building ในสมุทรปราการ เตรียมเปิดให้บริการในเดือนกุมภาพันธ์ 2568 (ไตรมาส 1 ปี 2568)! โดยศูนย์ใหม่แห่งนี้มีพื้นที่ 500 ตารางเมตร และเกิดจากความร่วมมือกับโอเรียลทอล สยาม โดยจะตั้งอยู่ที่ OSC Building ในย่านบางพลี

ด้วยการเติบโตของตลาดที่ก้าวกระโดดเนื่องจากการที่บริษัททุกขนาดหันมาใช้รูปแบบการทำงานในแบบไฮบริด ในระยะยาว คาดการณ์ว่า 30% ของพื้นที่สำนักงานเชิงพาณิชย์ทั่วโลกจะกลายเป็นพื้นที่ทำงานที่ยืดหยุ่นได้ภายในปี 2573 ด้วยความร่วมมือกับ IWG พันธมิตรสามารถใช้ประโยชน์จากโอกาสในตลาดที่ขยายตัวอย่างรวดเร็ว พร้อมได้รับการสนับสนุนจากประสบการณ์ระดับโลกของ IWGทั้งนี้ ข้อมูลจากGlobal Workplace Analytics ระบุว่า การทำงานแบบไฮบริดช่วยให้บริษัทลดต้นทุนได้อย่างมีนัยสำคัญ โดยเฉลี่ยสามารถประหยัดงบประมาณได้ถึง 9,000 ปอนด์ต่อพนักงานหนึ่งคน (โดยประมาณ 390,000 บาท)

มาร์ค ดิกซัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง อินเตอร์เนชันแนล เวิร์คเพลซ กรุ๊ป (IWG) กล่าวว่า "กรุงเทพฯ ภูเก็ต ชลบุรี พัทยา และระยอง คือศูนย์กลางมทางธุรกิจที่สำคัญของประเทศไทยและภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นทำเลที่ยอดเยี่ยมและยังสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจของเราอย่างดีเยี่ยม แนวคิดการทำงานแบบไฮบริดกำลังกลายเป็นมาตรฐานใหม่ของตลาดแรงงานไทยและทั่วโลก ส่งผลให้ความต้องการพื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นคุณภาพสูงยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคตอันใกล้"

"พื้นที่การทำงานใหม่ทั้ง 12 แห่งภายใต้แบรนด์ Spaces, Regus และ HQ คือการตอกย้ำกลยุทธ์ Multi-Brand Strategy ของเรา ที่มุ่งตอบโจทย์ทุกกลุ่มธุรกิจ ตั้งแต่สตาร์ทอัพไปจนถึงบริษัทยักษ์ใหญ่ระดับโลก นอกจากนี้ยังสะท้อนถึงความมุ่งมั่นของเราในการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ดี ทั้งในด้านความพึงพอใจของพนักงานและความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อม ด้วยการคัดสรรทำเลที่เหมาะสมและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว เรารู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ขยายเครือข่ายพันธมิตรในประเทศไทย และตั้งตารอที่จะร่วมมือกันผลักดันประสิทธิภาพและการดำเนินงานของธุรกิจให้เติบโตต่อไปในอนาคต"

การเปลี่ยนแปลงไปสู่การทำงานแบบไฮบริดกำลังเพิ่มความเร็วขึ้นอย่างต่อเนื่อง และมีศักยภาพในการเติบโตอย่างมหาศาล โดยคาดว่ามีพนักงานในกลุ่ม white-collar ทั่วโลกประมาณ 1.2 พันล้านคน และขนาดตลาดที่สามารถเข้าถึงได้ทั้งหมดมีมูลค่ากว่า 1.57 ล้านล้านปอนด์ (ประมาณ 68.46 ล้านล้านบาท) การใช้พื้นที่สำนักงานแบบดั้งเดิมจะยังคงลดลง เนื่องจากธุรกิจต้องการพื้นที่ที่ไม่ใช่สำนักงานแบบเดิม และหันมาใช้พื้นที่ทำงานแบบยืดหยุ่นแทน ในปี 2023 IWG ต้อนรับพันธมิตรใหม่ในกว่า 800 พื้นที่ และมีลูกค้ารวมถึง 83% ของบริษัทใน Fortune 500

ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit