SUPEREIF จ่ายปันผลครั้งที่ 21 ในอัตรา 0.03116 บาทต่อหน่วย วันที่ 17 มีนาคม 2568 นี้

นายพรชลิต พลอยกระจ่าง กรรมการผู้จัดการ Head of Real Estate & Infrastructure Investment บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนรวม บัวหลวง จำกัด หรือBBLAM เปิดเผยว่า กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้า ซุปเปอร์ เอนเนอร์ยี (SUPEREIF) จะจ่ายเงินปันผลครั้งที่ 2พรชลิต พลอยกระจ่าง จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 หรือระหว่างวันที่ พรชลิต พลอยกระจ่าง ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 3พรชลิต พลอยกระจ่าง ธันวาคม 2567 ในอัตราหน่วยลงทุนละ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน3พรชลิต พลอยกระจ่างพรชลิต พลอยกระจ่าง6 บาท และจะจ่ายเงินลดทุนครั้งที่ 5 จากผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 2-4 ปี 2567 (หรือระหว่างวันที่ พรชลิต พลอยกระจ่าง เมษายน - 3พรชลิต พลอยกระจ่าง ธันวาคม 2567) ในอัตรา บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน.2พรชลิต พลอยกระจ่าง4 บาทต่อหน่วย โดยกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุน เพื่อกำหนดสิทธิรับเงินปันผล ในวันที่ 3 มีนาคม 2568 อีกทั้งกำหนดจ่ายเงินปันผลและเงินลดทุนให้ผู้ถือหน่วยลงทุนในวันที่ พรชลิต พลอยกระจ่าง7 มีนาคม 2568

SUPEREIF จ่ายปันผลครั้งที่ 21 ในอัตรา 0.03116 บาทต่อหน่วย วันที่ 17 มีนาคม 2568 นี้

เมื่อนับรวมตั้งแต่จัดตั้งกองทุน จนถึงการประกาศจ่ายเงินครั้งล่าสุด SUPEREIF จ่ายเงินปันผลรวม 21 ครั้ง คิดเป็นเงิน 3.69564 บาทต่อหน่วย และจ่ายเงินลดทุนไป 5 ครั้ง คิดเป็นเงิน 0.715 บาทต่อหน่วย รวมเป็นเงินปันผลและเงินลดทุนที่จ่ายออกไปทั้งสิ้น 4.41064 บาทต่อหน่วย

โดยตั้งแต่ปีปฏิทิน 2566 เป็นต้นไป หากกองทุนฯ จะจ่ายเงินลดทุนสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างปีปฏิทิน กองทุนฯ จะรวบรวมเงินลดทุนดังกล่าวไปจ่ายพร้อมกับเงินจ่ายที่จะพิจารณาจากรอบผลการดำเนินงานสุดท้ายของปีปฏิทินนั้นๆ โดยสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 เมษายน 2567 ถึงวันที่ 30 มิถุนายน 2567 กองทุนฯ มีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 11.1 ล้านบาท หรือ 0.02163 บาทต่อหน่วย สำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 กรกฎาคม 2567 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2567 กองทุนฯ มีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 10.8 ล้านบาท หรือ 0.02106 บาทต่อหน่วย และสำหรับรอบผลการดำเนินงานระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2567 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2567 กองทุนฯ จะมีสภาพคล่องคงเหลือหลังจากการจ่ายเงินปันผลและการกันสำรองต่างๆ ประมาณ 88.3 ล้านบาท หรือ 0.17137 บาทต่อหน่วย

สรุปผลการดำเนินงานไตรมาสที่ 4 ปี 2567 พบว่า รายได้รวมเท่ากับ 195.1 ล้านบาท ลดลง 4.2% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน แต่เพิ่มขึ้น 16.5% จากไตรมาสก่อน โดยสาเหตุหลักของการลดลงดังกล่าวเป็นเพราะรายได้อื่นลดลง 99.9% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิเท่ากับ 159.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากไตรมาสเดียวกันของปีก่อน สาเหตุจากค่าใช้จ่ายรวมลดลงในอัตราที่สูงกว่าการลดลงของรายได้รวม และมีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 81.5% เพิ่มขึ้นจาก 76.9% ในไตรมาสเดียวกันของปีก่อน

สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2567 พบว่ามีรายได้รวมเท่ากับ 791.8 ล้านบาท ลดลง 3.3% จากปีก่อน โดยสาเหตุหลักของการลดลงดังกล่าว เป็นเพราะรายได้จากเงินลงทุนในสัญญาโอนสิทธิรายได้สุทธิลดลง 2.8% จากปีก่อน เป็น 779.9 ล้านบาท ส่วนรายได้จากการลงทุนสุทธิในปี 2567 อยู่ที่ 622.4 ล้านบาท ลดลง 1.6% จากปีก่อน สาเหตุจากรายได้รวมลดลง แ ละมีอัตรากำไรจากรายได้จากการลงทุนสุทธิ 78.6% เพิ่มขึ้นจาก 77.2% ในปีก่อน

กองทุนรวม SUPEREIF ลงทุนในสิทธิในรายได้สุทธิจากการดำเนินโครงการกิจการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินขนาดเล็กมากของบริษัท 17 อัญญวีร์ โฮลดิ้ง จำกัด และ บริษัท เฮลท์ แพลนเน็ท เมเนจเม้นท์ (ประเทศไทย) จำกัด จำนวน 19 โครงการ ตั้งอยู่ในพื้นที่ 8 จังหวัด ได้แก่ ปทุมธานี สระบุรี สมุทรสาคร สมุทรปราการ ปราจีนบุรี สระแก้ว พิจิตร และเพชรบูรณ์ โดยมีปริมาณพลังไฟฟ้าสูงสุดที่เสนอขายตามที่ระบุในสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค หรือการไฟฟ้านครหลวง (แล้วแต่กรณี) รวม 118 เมกะวัตต์

ขณะที่ ระยะเวลาโอนสิทธิรายได้สุทธิ เริ่มตั้งแต่วันที่ 14 สิงหาคม 2562 จนถึงวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าแต่ละโครงการ ซึ่งระยะเวลาซื้อขายไฟฟ้าภายใต้สัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมดอยู่ที่ประมาณ 21-22 ปี นับจากวันที่ 14 สิงหาคม 2562 โดยวันสิ้นสุดสัญญาซื้อขายไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าโครงการสุดท้ายจะสิ้นสุดในวันที่ 26 ธันวาคม 2584

ผู้ลงทุนต้องทำความเข้าใจ ลักษณะสินค้า เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนตัดสินใจลงทุน ผลการดำเนินงานในอดีต มิได้เป็นสิ่งยืนยันถึงผลการดำเนินงานในอนาคต


ข่าวบริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน+หลักทรัพย์จัดการกองทุนวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่... กรุงศรีเปิดตัวกองทุน KF-EMXCN โอกาสเติบโตไปพร้อมกับ Emerging Market — บลจ.กรุงศรี เปิดตัวกองทุนใหม่ KF-EMXCN ฝ่าความผันผวนจากสงครามการค้า ด้วยโอกาสลงทุนใน...

บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรร... บลจ.ทิสโก้เปิดกอง TGOV7M10 กองทุนรวมตราสารหนี้ อายุ 7 เดือน — บลจ.ทิสโก้เปิดกองทุนเปิด ทิสโก้ พันธบัตรรัฐบาล 7 เดือน 10 (TGOV7M10) เน้นลงทุนในพันธบัตรรัฐบ...

กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไ... บลจ.กสิกรไทย ตอกย้ำ Trusted Asset Manager การบินไทย ไว้วางใจให้จัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ — กองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ซึ่ง...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บ... พิธีลงนามสัญญาแต่งตั้งบริษัทจัดการกองทุนสำรองเลี้ยงชีพพนักงานบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน วรรณ จำกัด(บลจ.วรรณ) ได้รับความ...

บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวั... บลจ.กสิกรไทย ชวนผู้ลงทุนเปิดรับโอกาสเกษียณมั่งคั่ง ส่ง K-WORLDXRMF ลุยทำกำไรตามดัชนีหุ้นโลก — บลจ.กสิกรไทย สร้างทางเลือกการลงทุนเพื่อวัยเกษียณ เปิดตัวกองท...

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับร... KFDNMRMF คว้ารางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards 2025 — บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงศรี รับรางวัลกองทุนยอดเยี่ยมจาก Morningstar Awards for In...