SGP ปี 67 โชว์ฟอร์มแกร่ง! บุ๊คกำไรกว่า 1,318 ลบ.โตเฉียด 30% แจกเงินปันผลอีก 0.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 13 มี.ค.นี้ ประกาศแผนปี 2568 วางเป้ารายได้ 9 หมื่นล้าน ยอดขาย 3.56 ล้านตัน

SGP ประกาศผลประกอบการปี 67 บุ๊คกำไรส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่อยู่ที่ ผลประกอบการ,3ผลประกอบการ8.9ผู้ถือหุ้นลบ. โต ผู้ถือหุ้น9.6ผลประกอบการ% พร้อมกับรายได้ 84,ผลประกอบการ5ผลประกอบการ.ผลประกอบการ7 ลบ. ชูกำไรขั้นต้นในปี 67 อยู่ที่ 3,873.4ผู้ถือหุ้น ลบ. เพิ่มขึ้น 4.6% เทียบกับปีก่อน จากการที่ราคา LPG ตลอดทั้งปีมีความผันผวนต่ำ ทำให้การบริหารจัดการสินค้าคงเหลือในแต่ละเดือนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่งผลให้กำไรขั้นต้นโดยรวมเพิ่มขึ้น ด้านบอร์ดไฟเขียวแจกเงินปันผลงวดครึ่งปีหลังอีก การบริหารจัดการ.ผู้ถือหุ้นการบริหารจัดการ บาท/หุ้น ขึ้น XD วันที่ ผลประกอบการ3 มี.ค.68 กำหนดจ่ายปันผลวันที่ ผู้ถือหุ้นผลประกอบการ พฤษภาคม 68 พร้อมกางแผนปี 68 ตั้งเป้ายอดขายโต ผลประกอบการการบริหารจัดการ % ที่ 3.56 ล้านตัน

SGP ปี 67 โชว์ฟอร์มแกร่ง! บุ๊คกำไรกว่า 1,318 ลบ.โตเฉียด 30% แจกเงินปันผลอีก 0.20 บาทต่อหุ้น ขึ้น XD 13 มี.ค.นี้ ประกาศแผนปี 2568 วางเป้ารายได้ 9 หมื่นล้าน ยอดขาย 3.56 ล้านตัน

นายศุภชัย วีรบวรพงศ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามแก๊ส แอนด์ ปิโตรเคมีคัลส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SGP เปิดเผยว่าผลประกอบการในงวดปี 2567 ของบริษัทฯ และบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของผู้ถือหุ้นใหญ่ 1,318.92 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 301.33 ล้านบาท หรือ 29.61% เทียบกับงวดปี 2566 ที่มีกำไรสุทธิส่วนที่เป็นของบริษัทใหญ่จำนวน 1,017.59 ล้านบาท โดยมีรายได้จากการขาย จากการขนส่ง และการให้บริการ 84,151.17 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปี 2566 ที่มีรายได้อยู่ที่ 90,598.94 ล้านบาท ลดลง 6,447.77 ลดลง 7.12% ซึ่งลดลงจากธุรกิจก๊าซ LPG ในต่างประเทศ ที่มียอดขายลดลงราว 14% จาก 2.80 ล้านตันในปี 2566 เป็น 2.41 ล้านตันในปี 2567 ในส่วนของราคาก๊าซ LPG ในตลาดโลก (CP Saudi Aramco) โดยรวมปรับตัวสูงขึ้นเล็กน้อยจากปีก่อนที่ 17.50 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตัน จาก 615 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตันในปี 2566 เป็น 632.5 เหรียญสหรัฐต่อเมตริกตันในปี 2567

อย่างไรก็ดี จากการพิจารณาผลประกอบการสำหรับปี 2567 ที่ออกมานั้น เพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้นที่ให้การสนับสนุนบริษัทฯ ด้วยดีเสมอมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ จึงมีมติเสนอผู้ถือหุ้นจ่ายเงินปันผลสำหรับผลประกอบการช่วงครึ่งปีหลังของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.20 บาท โดยจ่ายจากกำไรสุทธิของบริษัท และเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลงวดครึ่งปีแรกของปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท รวมเป็นเงินที่จ่ายปันผลในปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท คิดเป็นเงินรวม 643.25 ล้านบาท ทั้งนี้การจ่ายเงินปันผลดังกล่าวขึ้นอยู่กับมติของผู้ถือหุ้นในการประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2568 ในวันที่ 25 เมษายน 2568 โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) วันที่ 13 มีนาคม 2568 และจ่ายเงินปันผลวันที่ 21 พฤษภาคม 2568

นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทมีมติเห็นสมควรให้ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 เพื่อพิจารณาและอนุมัติให้บริษัทออกหุ้นกู้และเสนอขายหุ้นกู้ และ/หรือตั๋วแลกเงิน ในวงเงินไม่เกิน 30,000 ล้านบาท โดยมูลค่ารวมของหุ้นกู้ และ/หรือ ตั๋วแลกเงิน ที่ออกใหม่ในคราวใดคราวหนึ่ง เมื่อนับรวมกับมูลค่ารวมของหุ้นและตั๋วแลกเงินของบริษัท (ตามมูลค่าที่ตราไว้) ที่ยังไม่ได้ถอนทั้งหมด ณ ขณะที่ออกหุ้นกู้ใหม่ในคราวนั้นๆ จะต้องมีจำนวนไม่เกิน 30,000 ล้านบาท หรือสกุลอื่นเทียบเท่า (Revolving Basis) เพื่อใช้แทนวงเงินหุ้นกู้เดิมที่ได้รับอนุมัติจากที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2559

สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2568 บริษัทฯ ตั้งเป้ายอดขายโตราว 10% โดยปริมาณขายก๊าซปิโตรเลียมเหลว (LPG) คาดอยู่ที่ราว 3.56 ล้านตัน จากปีที่ผ่านมาที่มีปริมาณขายอยู่ที่ 3.23 ล้านตัน โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณการขายก๊าซ LPG ที่คาดว่าจะปรับตัวสูงขึ้นตามความต้องการใช้ที่มากขึ้น โดยบริษัทตั้งงบลงทุนไว้ราว 350.0 ล้านบาท เป็นงบลงทุนในประเทศจำนวน 160 ล้านบาท เพื่อใช้ในการปรับปรุงคลังก๊าซแอลพีจีและก่อสร้างโรงอัดบรรจุก๊าซแห่งใหม่จำนวน 2 แห่ง ส่วนที่เหลือจำนวน 190 ล้านบาท เป็นงบลงทุนเพื่อใช้ในการก่อสร้างและปรับปรุงคลังก๊าซแอลพีจีในต่างประเทศ ประกอบไปด้วย คลังก๊าซแอลพีจีที่เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย และคลังก๊าซแอลพีจีที่เมืองไฮฟง ประเทศเวียดนาม ซึ่งจะช่วยเพิ่มศักยภาพในการกระจายสินค้าได้เพิ่มมากขึ้น

อย่างไรก็ดี บริษัทอยู่ระหว่างการพิจารณาความเป็นไปได้ในการเข้าลงทุนธุรกิจก๊าซแอลพีจีในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย รวมไปถึงเล็งที่จะขยายการลงทุนเพิ่มในประเทศแถบเอเชียใต้อย่างต่อเนื่อง เพื่อสร้างการเติบโตคู่ขนานทั้งในประเทศ-ต่างประเทศ อย่างมั่นคง และช่วยสนับสนุนภาพรวมการเติบโตในอนาคตเพิ่มเติม


ข่าวการบริหารจัดการ+บริหารจัดการวันนี้

บลจ.กสิกรไทย คว้า 5 รางวัลยอดเยี่ยม Best of the Best Awards 2025 ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้านกองทุนของไทย

บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ.กสิกรไทย) ได้รับรางวัลอันทรงเกียรติถึง 5 รางวัล จากงาน Best of the Best Awards 2025 ได้แก่ รางวัล Best Asset Management Company (30 Years), Best Asset Management Firm for Digital Marketing, Best Alternatives Manager, Best ESG Manager และ Best Multi-Asset Manager ทั้งนี้ รางวัลที่ บลจ.กสิกรไทย ได้รับทั้ง 5 สาขา แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ บลจ.กสิกรไทย ในการพัฒนาและนำเสนอบริการด้านการบริหารจัดการสินทรัพย์ที่ครอบคลุมและมีคุณภาพ รวมถึงการปรับตัว

ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบ... ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 — ทีเอ็มบีธนชาต รายงานกำไรสุทธิ 5,096 ล้านบาท ในไตรมาส 1 ปี 2568 หนุนโดยการบริหารจัดการด้าน...

ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิ... 5 ข้อควรระวัง! ตรวจดูให้แน่ใจว่า ใบแจ้งหนี้ควรต้องมีข้อมูลอะไรบ้าง — ใบแจ้งหนี้เป็นเอกสารสำคัญในการดำเนินธุรกิจที่ช่วยให้การบริหารจัดการทางการเงินเป็นไปอย...

ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทาย... เทคโนโลยีเอไอ VS ภัยพิบัติ เอไอเข้ามามีบทบาทได้มากน้อยแค่ไหนในปัจจุบัน — ภัยพิบัติทางธรรมชาติเป็นหนึ่งในความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ของมนุษยชาติ ตั้งแต่ไฟป่า แผ่...

POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโด... POP MART THAILAND เดินหน้าบุก CENTRAL WESTGATE ปักหมุดเปิดสาขาแรกกรุงเทพฯ โซนตะวันตก — POP MART THAILAND ภายใต้การบริหารจัดการโดย POP MART INTERNATIONAL ผ...