"พฤกษา โฮลดิ้ง" ประกาศจัดทัพผู้บริหารระดับสูง เสริมแกร่งกลุ่มธุรกิจในเครือ แต่งตั้งผู้บริหารสูงสุด 4 ตำแหน่ง ตั้งเป้าสู่การเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนของทุกกลุ่มธุรกิจ โดย "ปิยะ ประยงค์" ขึ้นเป็นซีอีโอ อินโน โฮม "ธีระ ทองวิไล" ขึ้นเป็นซีอีโอ พฤกษา เรียลเอสเตท "สุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล" ขึ้นเป็นซีอีโอ วิมุต โฮลดิ้ง และ "พรเทพ ศุภธราธาร" ควบตำแหน่งกรุ๊ปซีซีโอ พฤกษา โฮลดิ้ง มีผลตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม 2567 เป็นต้นไป ซึ่งการปรับโครงสร้างครั้งนี้ จะสร้างความคล่องตัวของแต่ละหน่วยงาน เพื่อให้ทุกหน่วยงานสามารถบริหารจัดการ และมีอิสระในการวางแผนงานของตัวเองได้อย่างเต็มรูปแบบ มุ่งสู่ความสำเร็จตามเป้าหมายธุรกิจ และวิสัยทัศน์องค์กรส่งมอบคุณค่าการอยู่อาศัย "อยู่ดี มีสุข" ที่วางไว้
นายอุเทน โลหชิตพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท พฤกษา โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า คณะกรรมการบริษัทฯ ได้มีมติอนุมัติการปรับโครงสร้างองค์กรและแต่งตั้งผู้บริหารระดับสูง ตามรายละเอียดต่อไปนี้
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา "ปิยะ ประยงค์" มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในการผลักดันการสร้างบ้านด้วยระบบใหม่ที่เน้นการลดขยะให้เหลือศูนย์ (Zero Waste Construction) การพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพและคุณภาพของผู้รับเหมา รวมไปถึงการพัฒนาบ้านประหยัดพลังงานตามแนวคิดแบบ "Passive Home" ให้ได้ตามมาตรฐานใหม่ตามเกณฑ์การประเมินความยั่งยืนทางพลังงานและสิ่งแวดล้อมไทย หรือ Tree Certified Home เพื่อผลักดันสู่ก้าวต่อไปของการสร้าง Carbon Neutral Home และมุ่งสู่มาตรฐานใหม่แห่งห่วงโซ่การจัดซื้อจัดจ้างสีเขียว (Green Procurement Supply Chain) ซึ่งถือเป็นแผนงานหลักสำคัญต่อการสร้างการเติบโต
ทั้งนี้ บริษัทฯ มุ่งนำความเชี่ยวชาญจากประสบการณ์ในการผลิตชิ้นส่วนพรีคาสท์ และการก่อสร้างบ้านสำเร็จรูปแบบโมดูลาร์มาใช้ เพื่อนำข้อดีจากความสำเร็จที่ผ่านมาผนวกรวมเพื่อสร้างและวางรากฐานที่แข็งแกร่ง ขยายขีดความสามารถในการแข่งขันในธุรกิจก่อสร้างสูงสุด ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกิจที่เป็นยุทธศาสตร์หลักของกลุ่มพฤกษาในระยะยาว ที่ต้องการสร้างสรรค์การอยู่อาศัยแบบ "Live well Stay well อยู่ดี มีสุข" พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำอันดับหนึ่งในอุตสาหกรรมก่อสร้าง
และในปีนี้ บริษัทฯ ได้วางแผนเปิดโครงการใหม่รวม 30 โครงการ มูลค่าราว 29,000 ล้านบาท ปรับเพิ่มสัดส่วนในสินค้าในกลุ่มเซกเมนต์กลาง-บน ให้สูงขึ้นมากกว่า 50% และมีแผนเปิดโครงการ Wellness Residence ทั้งหมด 6 โครงการ มูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท คิดเป็น 34% ของมูลค่าโครงการที่เปิดในปีนี้ ตอบโจทย์ความต้องการการออกแบบที่อยู่อาศัยที่ใส่ใจเรื่องสุขภาพ ความสุข และคุณภาพชีวิตที่ดีของผู้อยู่อาศัยเข้ามาผนวกกับเทคโนโลยีระบบ Smart Home จากแอปพลิเคชัน MyHaus มาปรับใช้ในการออกแบบโครงการ เพื่อเป็นศูนย์กลางที่จะดูแลทั้งเรื่องความปลอดภัยภายในบ้าน และอำนวยความสะดวกสบายให้ลูกบ้านและนิติบุคคล สร้างมาตรฐานใหม่ของการอยู่อาศัย เสริมความแข็งแกร่งของธุรกิจหลัก
โดย "สุรวีย์ ชัยธำรงค์กูล" มากด้วยประสบการณ์ ด้านการเงินการลงทุนตลอดระยะเวลากว่า 20 ปี และประสบการณ์ด้านเฮลท์แคร์ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา รวมถึงกว่า 2 ปีที่ผ่านมา ได้เป็นผู้ผลักดันบริษัทร่วมทุนและพันธมิตรเข้าร่วมลงทุนให้กลุ่มพฤกษามีความพร้อมสู่การเติบโต การเข้าดำรงตำแหน่งครั้งนี้ถือเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม จากปัจจุบันธุรกิจของกลุ่มวิมุตมีความโดดเด่นทั้งในด้านการรักษาแบบองค์รวม ทีมแพทย์และพยาบาล และความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในและต่างประเทศ ผนวกเข้ากับความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของโรงพยาบาลวิมุตในด้านประสาทวิทยา ระบบทางเดินอาหารและตับ ด้านหัวใจและหลอดเลือด และความเป็นผู้นำของโรงพยาบาลวิมุต-เทพธารินทร์ในด้านการรักษาโรคเบาหวาน ไทรอยด์ และต่อมไร้ท่อ โดยแม่ทัพคนใหม่จะเป็นกุญแจสำคัญที่สร้างการเติบโตอีกขั้นจากภายนอก (Inorganic Growth) นำทีมแพทย์และผู้บริหารกลุ่มโรงพยาบาลมุ่งสู่เป้าหมายการสร้างรายได้ 4,000 ล้านบาท และสร้างมูลค่าเพิ่มของทั้งกลุ่มในอนาคต
โดย "พรเทพ ศุภธราธาร" เป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ที่ได้บริหารงานตามหลัก ESG และทำให้บริษัทฯ สามารถลดปริมาณการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (Co2) ไปได้ 10,190 ตัน ในปีที่ผ่านมา พร้อมทั้งลดระยะเวลาการทำงานของฝ่ายจัดซื้อจัดจ้างได้กว่า 16,000 วันทำงาน (man-day) ต่อปี จากการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนเข้ามาใช้ในระบบจัดซื้อจัดจ้างในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมาด้วย
สำหรับการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารในครั้งนี้ เป็นไปตามแผนการวางแผนผู้สืบทอดตำแหน่ง (Succession Planning) ที่มีความสำคัญในระยะยาว ที่ได้ผ่านแผนพัฒนาผู้นำ (Leadership Program) และได้เข้าร่วมในโปรแกรมบ่มเพาะผู้นำ ผ่าน Accelerate Impact with Pruksa ที่บริษัทฯ ให้ความสำคัญผลักดันบุคลากรภายในให้เติบโต เชื่อมั่นว่าการแต่งตั้งตำแหน่งผู้บริหารของแต่ละกลุ่มในครั้งนี้ จะเป็นการวางรากฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคง ผ่านการสร้างโอกาสต่อยอดธุรกิจที่หลากหลาย และส่งเสริมงานด้านสังคมอย่างต่อเนื่องต่อไป
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit