ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์

ไทยพีบีเอสร่วมกับ 8 หน่วยงานหลักป้องกันและปราบปรามภัยออนไลน์ ผนึกกำลังกวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์ ยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชน

ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์

ไทยพีบีเอส โดย "รายการสถานีประชาชน" ร่วมกับ 8 หน่วยงานหลัก ในการป้องกันและปราบปรามภัยออนไลน์ ได้แก่ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (CCIB) ธนาคารแห่งประเทศไทย ชมรมตรวจสอบและป้องกันทุจริต สมาคมธนาคารไทย คณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) หรือ ETDA และสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค ร่วมเสวนาหาทางออก สร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชาชนทุกกลุ่มให้ "รู้เท่าทันภัยออนไลน์" เมื่อวันที่ 25 มี.ค.67 ที่ผ่านมา ไทยพีบีเอสยกระดับรู้เท่าทันภัยออนไลน์ ผนึกกำลัง 8 หน่วยงาน ป้องกัน-กวาดล้างอาชญากรรมไซเบอร์

นายอิฐบูรณ์ อ้นวงษา รองเลขาธิการสำนักงานสภาองค์กรของผู้บริโภค (TCC) กล่าวว่า ปัจจุบันผู้บริโภคเผชิญความยากลำบากเมื่อได้รับความเสียหาย แล้วสิ่งที่คาดหวังที่สุดคือ การเยียวยา หรือได้รับเงินคืน โดยตั้งข้อสังเกต กรณีข้อกำหนดหลักเกณฑ์ที่ต่างกันระหว่างบัญชีธนาคาร และบัตรเครดิต หากมีรายการที่ผู้บริโภคเชื่อว่าไม่ได้ทำเกิดขึ้นนั้น ฝ่ายบริษัทบัตรเดบิต-เครดิต จะเป็นฝ่ายที่ดำเนินการให้แทบทุกอย่าง ซึ่งแตกต่างกับบัญชีธนาคาร ที่ใช้หลักปฏิบัติที่ต่างกัน คือ หากเกิดปัญหาแล้ว ถ้ามีการพิสูจน์ทราบได้ว่าสถาบันการเงินเป็นฝ่ายรับผิดชอบก็ต้องรับผิดชอบ แต่ยังไม่เคยมีใครกล้าบอกว่าเป็นความผิดของตัวเอง แล้วยอมชดใช้ให้ประชาชน ทำให้ภาระกลับไปตกที่ประชาชน

"หากอาชญากรรมไซเบอร์เกิดขึ้นกับผู้ใช้บัตรเครดิต ย่อมต่างกับปัญหาจากบัญชีเงินฝากอยู่แล้ว เพราะบัตรเครดิต เป็นเพียงเครื่องมืออย่างหนึ่งระหว่าง ประชาชน-ร้านค้า-ธนาคาร แต่บัญชีธนาคารนั้นเกิดระหว่างประชาชน-ธนาคาร เท่านั้น ข้อกำกับจึงต่างกันไปด้วย อย่างไรก็ตาม เราต้องใช้ยาแรงเทียบกับสถานการณ์โควิด-19 สร้างองค์ความรู้ที่เข้าถึงประชาชนทุกกลุ่ม สร้างสัปดาห์รณรงค์ภัยออนไลน์อย่างชัดเจน เพื่อให้ประชาชนมีความรู้ที่ถูกต้องชัดเจน สื่อถึงทุกกลุ่มเป้าหมาย" นายธวัช ไทรราหู รองประธานชมรมตรวจสอบและป้องกันทุจริต สมาคมธนาคารไทย กล่าว

นายภิญโญ ตรีเพชราภรณ์ ผู้อำนวยการฝ่ายบริหารความเสี่ยงภาพรวม ธนาคารแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ปัจจุบันลักษณะการหลอกลวงของมิจฉาชีพมีหลายรูปแบบ ซึ่งรูปแบบการโอนเงินผ่านธนาคาร มีหลายขั้นตอนกว่าจะโอนเงินไปได้ จึงยากที่จะวินิจฉัยว่าความรับผิดชอบจะตกอยู่ที่ใคร จึงต้องให้ศาลเป็นผู้ตัดสินใจว่าใครผิด ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นในลักษณะของการรับผิดคนละครึ่ง ส่วนการใช้งานแอปพลิเคชันของธนาคารนั้น สามารถมั่นใจได้ เพียงแต่ขอให้หมั่นอัปเดตเวอร์ชันระบบปฏิบัติการของโทรศัพท์และแอปพลิเคชัน สิ่งสำคัญคือ ขอให้ประชาชนอย่าหลงเชื่อกดลิงก์ที่ไม่รู้จักเด็ดขาด ซึ่ง ธปท.ได้ออกมาตรการให้โทรศัพท์ 1 เบอร์ 1 เครื่อง 1 ธนาคาร และเพิ่มการใช้รหัสพิน 6 หลัก และการสแกนหน้า ขั้นตอนสุดท้ายคือ การทำตัวหนังสือสีแดงถามผู้บริโภคอีกครั้ง ก่อนทำการโอน อีกทั้งยังได้มีการเร่งประชาสัมพันธ์เตือนประชาชนไม่กดลิงก์ ที่ได้รับจาก SMS ด้วย ซึ่งหากประชาชนประสบปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ สามารถแจ้งปัญหาได้ที่ ศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขปัญหาอาชญากรรมออนไลน์ (Anti Online Scam Operation Center : AOC) หรือ ศูนย์ AOC สายด่วน 1441 กว่า 100 คู่สาย ที่ให้คำปรึกษาและแก้ปัญหาภัยออนไลน์ แบบ One Stop Service ตลอด 24 ชั่วโมง

พล.ต.ต.นิเวศน์ อาภาวศิน รองผู้บัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (รอง ผบช.สอท.) (CCIB) เล่าถึงการปฏิบัติงานของ ตร.ไซเบอร์ ว่า ในเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา พบว่ามีความเสียหายมากกว่า 100 ล้านบาท/วัน ถือว่าสูงที่สุดที่เคยเกิดขึ้นในรอบ 2 ปี ซึ่งหมายความว่า ตำรวจไซเบอร์ยังทำได้ไม่ดีพอที่จะทำให้ความเสียหายลดลงได้ ทุกวันนี้จึงต้องเข้มงวดมาตรการต่าง ๆ ให้มากขึ้น สำหรับปัญหาที่พบบ่อยคือ การติดตามหรือคืนเงินให้แก่ผู้เสียหายล่าช้า เนื่องจากตำรวจไม่ได้รับข้อมูลจากธนาคารที่รวดเร็วหรือมากพอ ซึ่งปัจจุบัน ทางตำรวจไซเบอร์ สามารถอายัดเงินคืนจากกลุ่มมิจฉาชีพในรอบ 2 ปีนี้ มีจำนวนถึง 5,000 ล้านบาท แต่ไม่รู้จะนำเงินคืนใคร เพราะไม่มีการรายงานว่าเป็นเงินของใคร อีกทั้งเป้าหมายของตำรวจไซเบอร์อยากให้มีการปิดบัญชีม้าทั้งหมด แต่พบว่า มีการตีความทางกฎหมายที่ไม่ตรงกัน ใน พ.ร.ก.ป้องกันและปราบปรามภัยไซเบอร์ มาตรา 6 วรรค 2

"สิ่งเร่งด่วนที่ประชาชนควรจะต้องทำเมื่อโดนหลอกลวงและโอนเงินไปให้คือแจ้งธนาคารของตัวเอง หรือแจ้งสายด่วน AOC 1441 ให้เจ้าหน้าที่ประสานงานทุกอย่าง หรือแจ้งภัยออนไลน์ไปที่ www. thaipoliceonline.go.th จะมีสายด่วนของทุกธนาคารให้ แจ้งในเบื้องต้นก่อนแล้วกระบวนการในการแจ้งความจะตามมา" รอง ผบช.สอท. กล่าว

นายสุทธิศักดิ์ สุมน รองโฆษกสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่า ทุกครั้งที่ ปปง.แถลงข่าวเกี่ยวกับอาชญากรรมไซเบอร์ จะพยายามอธิบายขั้นตอนต่าง ๆ ให้ประชาชนเข้าใจ เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ เราเน้นย้ำเพิ่มขึ้นว่าให้บูรณาการกับกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับคดีให้มากขึ้น โดยขั้นตอนหลังจากที่ ปปง.ดำเนินความผิดแล้ว ถ้าไม่มีผู้เสียหายมาร้อง ทรัพย์นั้นก็ตกเป็นของแผ่นดิน แต่ถ้ามีผู้เสียหาย ปปง.จะประกาศในราชกิจจาฯ เพื่อให้ผู้เสียหายมายื่นคำร้องกับ ปปง.หรือยื่นที่ที่ทำการไปรษณีย์ก็ได้ โดยโหลดคำร้องจากหน้าเว็บไซต์ ปปง.ได้ จากนั้น ปปง.จะพิจารณาว่าเป็นผู้เสียหายหรือไม่ แล้วยื่นคำร้องไปยังศาลแพ่งเพื่อคืนทรัพย์สินให้ และเงินจะได้คืนต่อเมื่อศาลมีคำสั่งนั้นถึงที่สุด ทั้งนี้ต้องบอกว่า ระยะเวลานั้นยาวนานขึ้นอยู่กับกระบวนการสู้คดี

ด้าน ร.ต.อ.เขมชาติ ประกายหงษ์มณี ผู้อำนวยการกองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เสริมว่า วิวัฒนาการของอาชกรรมไซเบอร์เร็วมากตอนนี้ไม่ต้องใช้เครื่องมืออะไรเลยนอกจากคีย์บอร์ด ก็สามารถล้วงเอาเงินจากประชาชนได้ แถมยังทำเป็นขบวนการมากขึ้น มีทั้งบัญชีม้า ซิมโทรศัพท์ผี ผิดกฎหมายหลายหมื่นซิม ซึ่งต้องยอมรับว่าอาชญากรรมในลักษณะนี้ยังคงมีอยู่ ไม่มีวันหมดไป เพียงแต่ต้องหาทางหยุดอาชญากรรมนี้ให้ได้ ปัจจุบันการรับจ้างเปิดบัญชีม้า ไม่จำเป็นต้องยึดโยงกับกลุ่มอาชญากรเพียงกลุ่มเดียว แต่มันโยงไปหาหลายแก๊ง เพราะกลุ่มมิจฉาชีพแบ่งหน้าที่กันทำ ตอนนี้การเปิดบัญชีไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ก็ทำให้การเปิดบัญชีม้าก็มีราคาค่าเปิดเพิ่มขึ้นด้วย

"กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) ได้มีการยกกระดับในส่วนของการสืบสวนสอบสวนให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น เราเข้าไปหาข้อมูลเกี่ยวกับการทำธุรกรรมทางการเงิน การแฝงตัวเข้าไปในองค์กรอาชญากรรม เช่น deep web, dark web หรือใช้นวกรรมทางเทคโนโลยี ในการสอบสวนสืบสวน ให้ได้มาซึ่งข้อมูลหลักฐานต่าง ๆ นำมาสู่การติดตามจับกุมผู้กระทำในลักษณะของเครือข่ายอาชญากรรมในและต่างประเทศ เพื่อหยุดอาชญากรรมเหล่านี้ให้ได้มากที่สุด" ผอ.กองคดีเทคโนโลยีและสารสนเทศ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) กล่าว

นายศิวรักษ์ ศิวโมกษธรรม เลขาธิการคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล (PDPC) กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (DES) กล่าวว่า ปัจจุบันมีการตั้งศูนย์ PDPC Eagle Eyes เพื่อจับกุมแก๊งมิจฉาชีพและสืบต่อว่านำข้อมูลมาจากไหน ถ้ามาจากคนๆ เดียวตั้งใจนำไปขายเอง ก็มีบทลงโทษส่วนบุคคล ในส่วนของหน่วยงาน ถ้าหน่วยงานมีการทำข้อมูลรั่วไหล ก็จะเตือนในครั้งแรก ถ้าผิดครั้งที่ 2 ก็มีบทลงโทษเช่นกัน ย้ำว่า กฎหมาย PDPA นั้นมีการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลของประชาชน รวมถึงสามารถสั่งให้หน่วยงานที่ทำข้อมูลรั่วชดใช้ความเสียหายต่อประชาชนที่ถูกนำข้อมูลไปใช้ต่อได้ มีโทษปรับสูงถึง 5,000,000 บาทแล้วแต่กรณี ทั้งทางปกครอง ทางแพ่ง และทางอาญา ด้วย

ด้าน นายมีธรรม ณ ระนอง รองผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (สพธอ.) (ETDA) กล่าวว่า ETDA ดำเนินการปิดแพลตฟอร์มออนไลน์ของมิจฉาชีพ เพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของประชาชนจำนวนมาก และยังขยายการป้องกันภัยไซเบอร์ด้วยการก่อตั้งศูนย์ประสานงานกันในอาเซียน ทั้งนี้ได้จัดกลุ่มกระจายความรู้ลงพื้นที่ และ กลุ่มนักเรียน-นักศึกษา รวมถึงใช้เทคโนโลยีใช้ AI เข้ามาตรวจสอบเพจมิจฉาชีพมากขึ้น เช่น การหาเส้นทางการเงินย้อนขึ้นไป เพื่อคืนเงินให้กับผู้เสียหายได้ถูกต้องตามจำนวนและคดีนั้น ๆ

สามารถติดตามชมงานเสวนา "รู้เท่าทันภัยออนไลน์" อีกครั้ง ได้ทางเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/People และติดตามชมรายการ "รายการสถานีประชาชน" ได้ทุกวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 14.05 - 15.30 น. ทางไทยพีบีเอส ช่องหมายเลข 3 หรือติดตามข่าวสารของรายการได้ที่ Facebook : สถานีประชาชน ไทยพีบีเอส


ข่าวo:member+o:locวันนี้

ทีม SEhRT ผลัด 2 รับไม้ต่อร่วมจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในประเทศเมียนมาเหตุแผ่นดินไหวเสี่ยงสุขภาพประชาชน

กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม SEhRT ผลัด 2 ปฏิบัติภารกิจด้านสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อม ร่วมกับทีมปฏิบัติการฉุกเฉินทางการแพทย์และสาธารณสุข (Thailand EMT) ผลัด 2 เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหว ณ เมืองมัณฑะเลย์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยนายแพทย์โอภาส การย์กวินพงศ์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ได้มอบหมาย นายแพทย์อุดม อัศวุตมางกุร สาธารณสุขนิเทศก์ เขตสุขภาพที่ 4 พร้อมด้วย นายแพทย์ธิติ แสวงธรรม รองอธิบดีกรมอนามัย นายแพทย์สุทัศน์ โชตนพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค นายภิญญาพัชญ์ จุลสุข

พบกับหลากหลายเมนูนานาชาติแบบจัดเต็ม ทั้งซ... ฉลอง Easter Day กับมื้อบรันช์แสนพิเศษที่ The Oasis โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ — พบกับหลากหลายเมนูนานาชาติแบบจัดเต็ม ทั้งซาชิมิเนื้อเนียน วากิวปรุงพิเศษ พรีเมีย...

ต้อนรับเกมไทย ฝีมือคนไทย กับเกมที่ถูกยกให... ToNy_GospeL สะกดใจเกมเมอร์! ร้องเพลงประกอบ "ศรีเทพผจญภัย" เกมไทยสายเลือดวัฒนธรรม — ต้อนรับเกมไทย ฝีมือคนไทย กับเกมที่ถูกยกให้เป็นเกมมรดกวัฒนธรรม"ศรีเทพ ผจ...

This Easter, immerse yourself in a world ... Easter Delights at Centara Grand at CentralWorld — This Easter, immerse yourself in a world of indulgence at Centara Grand at CentralWorld, where exqu...

คอหนังผี…ไม่ควรพลาดชม "ร่างทรง" แนวสยองขว... หลอนแรง! "ร่างทรง" คัมแบกสู่จอ ทรูโฟร์ยู ช่อง 24 ครั้งแรก — คอหนังผี…ไม่ควรพลาดชม "ร่างทรง" แนวสยองขวัญที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เคยสร้างปรากฏการณ์ส่งต่อค...

ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเม... สุขภาพดีไปกับ นมซันคิสท์ พร้อมโปรสุดพิเศษ ลดเหลือเพียงลังละ 529 บาท — ซันคิสท์ ผลิตภัณฑ์ถั่วพิสทาชิโอ ถั่วพรีเมียมคุณภาพหลากหลายชนิด และเครื่องดื่มน้ำนมพิ...

"ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" แฟรนไชส์อาหารชื่อดัง... ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว คว้ารางวัล 2025 Thailand's Most Admired Brand ตอกย้ำแบรนด์สตรีทฟู้ดมหาชนของทุกคน — "ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" แฟรนไชส์อาหารชื่อดังภายใต้ "ชา...