นางสาวสุขวิชญาณ์ นสมทรง ผู้อำนวยการเขตปทุมวัน กทม.กล่าวกรณีสื่อออนไลน์โพสต์ภาพคนเร่ร่อนบริเวณริมถนนพระรามที่ 1 หัวมุมแยกปทุมวัน พร้อมตั้งข้อสังเกตพบขอทานและคนเร่ร่อนเพิ่มขึ้นในย่านปทุมวันว่า สำนักงานเขตปทุมวันได้ประสานสำนักเทศกิจ กทม.ตรวจสอบแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนและขอทานบริเวณริมถนนพระรามที่ 1 หัวมุมแยกปทุมวัน และบริเวณซอยหลังสวน ตลอดจนบริเวณตามแนวสถานีรถไฟฟ้า หรือแหล่งท่องเที่ยวสำคัญในพื้นที่เขตปทุมวัน โดยกวดขันและผลักดันให้ออกจากที่สาธารณะ พร้อมทั้งเก็บประวัติข้อมูล กรณีเป็นคนไทย จะให้ความช่วยเหลือเยียวยาตามความเหมาะสม หากเป็นชาวต่างชาติจะประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เพื่อจัดทำประวัติและประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป
ขณะเดียวกันได้จัดกำลังเจ้าหน้าที่เทศกิจลงพื้นที่ตรวจตราและเพิ่มมาตรการเข้มงวดกวดขันตรวจสอบความเป็นระเบียบเรียบร้อยในพื้นที่เขตปทุมวันและประชาสัมพันธ์ไม่ให้มีการอาศัยหลับนอนในที่สาธารณะ รวมถึงตั้งวางสิ่งของกีดขวางทางสัญจร โดยบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) รักษาความสะอาดและความเป็นระเบียบเรียบร้อยของบ้านเมือง พ.ศ. 2535 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ. 2559 และกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด เพื่อความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ตลอดจนเฝ้าระวังมิให้กลุ่มคนเร่ร่อนและขอทานกลับมาในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง หากพบเห็นบุคคลเร่ร่อน หรือไร้ที่พึ่งในพื้นที่สาธารณะ สามารถแจ้งปัญหาได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม สายด่วน 1300 กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อช่วยเหลือต่อไป
นายแสนยากร อุ่นมีศรี ผู้อำนวยการสำนักพัฒนาสังคม (สพส.) กทม.กล่าวว่า สพส.ให้ความสำคัญกับการแก้ไขบัญหาขอทานและคนเร่ร่อนมาอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดบริการสวัสดิการสังคม (Drop In) สำหรับคนไร้บ้าน 2 แห่ง บริเวณใต้สะพานสมเด็จพระปิ่นเกล้าและตรอกสาเก เพื่อให้คำปรึกษาแนะนำ บริการตรวจสุขภาพ บริการรถทำบัตรประชาชนเคลื่อนที่ บริการห้องสุขา บริการซัก อบ อาบจากมูลนิธิกระจกเงา ฯลฯ ซึ่ง สพส.ได้จัดทำฐานข้อมูลคนไร้บ้านของ กทม. โดยจัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จัดเก็บข้อมูล เพื่อจำแนกประเภทปัญหาและความต้องการของคนไร้บ้านที่ประสงค์รับการช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกันได้ประสานความร่วมมือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อจัดระเบียบคนเร่ร่อนและผู้ทำการขอทานในพื้นที่สาธารณะ ทั้งที่เป็นผู้ทำการขอทานคนไทยและคนต่างด้าวอย่างต่อเนื่อง โดยได้จัดเจ้าหน้าที่ลงพื้นที่จัดระเบียบในพื้นที่ที่มีผู้ทำการขอทานและบริเวณเขตปทุมวันและพื้นที่ใกล้เคียงอื่น เช่น บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้า BTS บริเวณสี่แยกถนนในเขตปทุมวัน พร้อมทั้งสำรวจ คัดกรอง จัดทำประวัติ ให้คำปรึกษาแนะนำ การทำความเข้าใจกับผู้ที่เข้ามาพักอาศัยหลับนอนหรือใช้พื้นที่สาธารณะ เพื่อแสวงหาผลประโยชน์ ซึ่งส่งผลกระทบทำให้ผู้อื่นได้รับความเดือดร้อน รวมถึงจัดกิจกรรมรณรงค์ให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวต่างชาติงดให้เงินแก่คนขอทานตามแนวสถานีรถไฟฟ้าและพื้นที่สาธารณะของ กทม.
นอกจากนั้น ได้มีหนังสือสั่งการไปยังฝ่ายเทศกิจของสำนักงานเขต 50 เขต ในฐานะพนักงานเจ้าหน้าที่ให้เป็นหน่วยบูรณาการ สนับสนุน อำนวยความสะดวก ประสานงาน และดำเนินการในพื้นที่เขต ตามอำนาจหน้าที่ กรณีสร้างความเดือดร้อนให้กับประชาชนที่สัญจรไปมา หรือสร้างความไม่สะอาดในพื้นที่ รวมถึงการพักอาศัยหลับนอนในพื้นที่สาธารณะ โดยสำนักงานเขตจะสำรวจผู้ทำการขอทานในพื้นที่และรายงานผลผ่าน Google Forms โดยสแกน QR Code ให้ สพส.ทราบทุกวันจันทร์ เพื่อลงพื้นที่แก้ไขปัญหาดังกล่าว
อย่างไรก็ตาม ที่ผ่านมา กทม.ได้ป้องกันและแก้ไขปัญหาคนเร่ร่อนและผู้ทำการขอทานในพื้นที่สาธารณะให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ไม่ว่าจะเป็นบริเวณพื้นที่ปทุมวัน ถนนพระรามที่ 1 ซอยหลังสวน และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ในกรุงเทพฯ โดยในปี 2567 กทม.มีนโยบายเปิดบริการ "บ้านอิ่มใจ" ในรูปแบบ Emergency Shelters เพื่อเป็นสถานที่พักชั่วคราวและจัดบริการสวัสดิการสังคมสำหรับคนไร้บ้าน ซึ่งจะเป็นอีกช่องทางหนึ่งในการช่วยลดจำนวนคนเร่ร่อนและผู้ทำการขอทาน รวมถึงพัฒนาพื้นที่สาธารณะของ กทม.ให้มีความสะอาดเป็นระเบียบเรียบร้อยมากขึ้น
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit