นายสุนทร สุนทรชาติ ผู้อำนวยการสำนักอนามัย (สนอ.) กทม.กล่าวถึงการดูแลรักษาสุขภาพในช่วงฤดูร้อนว่า สนอ.มีความห่วงใยในสุขภาพและอนามัยของประชาชนจากสภาพอากาศที่ร้อนและแห้งแล้ง เหมาะกับการเจริญเติบโตของเชื้อโรค ก่อให้เกิดความเสี่ยงที่จะเกิดการระบาดของโรคติดต่อทางอาหารและน้ำ ประชาชนจึงควรระมัดระวังดูแลเรื่องความสะอาดของอาหารและน้ำอุปโภคบริโภค โดยรับประทานอาหารร้อนที่ปรุงสุกใหม่ ใช้ช้อนกลาง ล้างมือทุกครั้งก่อนปรุงอาหาร ก่อนรับประทานอาหาร และหลังเข้าห้องน้ำทุกครั้ง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการเจ็บป่วยด้วยโรคที่มากับฤดูร้อน
นอกจากนี้ ยังได้ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบถึงอาการสำคัญและวิธีการป้องกันโรคที่เกิดในฤดูร้อนผ่านสื่อออนไลน์ แผ่นพับ โดยเฉพาะในกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ เด็กเล็ก ผู้สูงอายุ ผู้ที่มีโรคประจำตัว รวมถึงผู้ที่มีอาชีพทำงานกลางแจ้งต้องปฏิบัติงานกลางแจ้ง เช่น พนักงานกวาดถนน พนักงานเก็บขนมูลฝอย เพื่อลดความเสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากโรคที่เกิดจากภาวะอากาศร้อน โดยเฉพาะอาการเพลียแดด ภาวะฮีทสโตรก (Heat Stroke) หรือโรคลมแดด ที่เกิดจากร่างกายได้รับความร้อนมากเกินไป ทำให้ความร้อนในร่างกายสูงกว่า 40 องศาเซลเซียส อาการสำคัญ ได้แก่ อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ คลื่นไส้อาเจียน ไม่มีเหงื่อออก หรือเหงื่อออกมากกว่าปกติ กระหายน้ำมาก ตัวร้อนขึ้นเรื่อย ๆ หายใจเร็ว ความดันโลหิตต่ำ หากเป็นมากจะมีอาการชักเกร็ง หากไม่ได้รับการดูแลอย่างทันท่วงทีอาจทำให้หมดสติและเสียชีวิตได้
สำหรับวิธีป้องกันโรคลมแดด ให้ดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 6-8 แก้ว ใส่เสื้อผ้าสีอ่อน ผ้าโปร่งสบาย ระบายอากาศได้ดี สวมแว่นกันแดด กางร่ม ทาครีมกันแดด SPF30 ขึ้นไป หลีกเลี่ยงการอยู่กลางแดด หากเลี่ยงไม่ได้ให้หยุดพักจากกิจกรรมเป็นระยะ และไม่ฝืนทำกิจกรรมต่อหากรู้สึกว่า เกิดความผิดปกติของร่างกาย หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ เลือกเวลาออกกำลังกายช่วงเช้าและเย็น ซึ่งวิธีปฐมพยาบาลเบื้องต้น กรณีที่ผู้ป่วยยังรู้สึกตัว รีบนำเข้าร่ม เพื่อให้หายใจสะดวก นอนราบ ถอดเสื้อผ้า เพื่อระบายความร้อนให้ผู้ป่วย คลายตะขอชุดชั้นใน จากนั้นนำผ้าชุบน้ำเย็นมาเช็ดตัว และข้อพับต่าง ๆ ตามร่างกาย รักแร้ ขาหนีบ เพื่อลดอุณหภูมิ ใช้พัดลมเป่า เพื่อระบายความร้อนและลดอุณหภูมิร่างกายให้ต่ำลงเร็วที่สุด หากไม่หมดสติให้ดื่มน้ำเปล่ามาก ๆ หรือแจ้งสายด่วน 1669 ศูนย์เอราวัณ เพื่อให้รถพยาบาลมาช่วยเหลือและนำส่งโรงพยาบาลโดยเร็วที่สุด
กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่สอง ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) โดยตั้งเป้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 130% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการค้าระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สหรัฐฯ
ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว คว้ารางวัล 2025 Thailand's Most Admired Brand ตอกย้ำแบรนด์สตรีทฟู้ดมหาชนของทุกคน
—
"ชายสี่บะหมี่เกี๊ยว" แฟรนไชส์อาหารชื่อดังภายใต้ "ชา...
ปลุกความสดชื่นในบ้านต้อนรับสงกรานต์ ด้วย 5 กลิ่นหอมรับซัมเมอร์จาก Maison Berger Paris
—
เทศกาลสงกรานต์ก็กำลังใกล้เข้ามา นี่คือช่วงเวลาที่หลายบ้านใช้เวลาร่...
เขตบางรักพร้อมถอดบทเรียนป้องกันอุบัติเหตุจากแผงเหล็กกั้นทางเดิน
—
นางพรพัน วัฒนสินธุ์ ผู้อำนวยการเขตบางรัก กทม. กล่าวกรณีมีประชาชนร้องเรียนได้รับบาดเจ็บกร...
ทีม SEhRT ผลัด 2 รับไม้ต่อร่วมจัดการสุขาภิบาลและอนามัยสิ่งแวดล้อมในประเทศเมียนมาเหตุแผ่นดินไหวเสี่ยงสุขภาพประชาชน
—
กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ส่งทีม SEhR...
ฉลอง Easter Day กับมื้อบรันช์แสนพิเศษที่ The Oasis โรงแรมนิกโก้ กรุงเทพฯ
—
พบกับหลากหลายเมนูนานาชาติแบบจัดเต็ม ทั้งซาชิมิเนื้อเนียน วากิวปรุงพิเศษ พรีเมีย...
ToNy_GospeL สะกดใจเกมเมอร์! ร้องเพลงประกอบ "ศรีเทพผจญภัย" เกมไทยสายเลือดวัฒนธรรม
—
ต้อนรับเกมไทย ฝีมือคนไทย กับเกมที่ถูกยกให้เป็นเกมมรดกวัฒนธรรม"ศรีเทพ ผจ...
Easter Delights at Centara Grand at CentralWorld
—
This Easter, immerse yourself in a world of indulgence at Centara Grand at CentralWorld, where exqu...