'โอสถสภา' โชว์ผลงานไตรมาส 3 แกร่ง รายงานกำไรสุทธิ 64กำไรสุทธิ ล้านบาท หนุนด้วยการเติบโตของธุรกิจหลักในประเทศ ทั้งกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำตลาดฯ มั่นใจปีนี้ทำกำไรได้ตามเป้าหมาย
'บมจ. โอสถสภา (OSP)' เผยผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2566 ทำรายได้จากการขาย 6,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% และมีกำไรสุทธิ 642 ล้านบาท เติบโต 163% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ชี้ยอดขายกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มในประเทศเติบโตต่อเนื่องทุกไตรมาส โดยมีแบรนด์ 'เอ็ม-150' และ 'ซี-วิท' ครองตำแหน่งผู้นำในตลาดเครื่องดื่มบำรุงกำลังและเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซี ควบคู่กับอัตรากำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและไตรมาสก่อนหน้า ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาวัตถุดิบและราคาพลังงาน รวมถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับบริษัทฯ มีเงินปันผลรับจากเงินลงทุนจำนวน 300 ล้านบาทและรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจโดยรวมเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว ส่งผลให้กำไรสุทธิ 9 เดือนแรกอยู่ที่ 1,969 ล้านบาท พร้อมประกาศมั่นใจปีนี้ทำกำไรได้ตามเป้าหมาย
นางวรรณิภา ภักดีบุตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โอสถสภา จำกัด (มหาชน) หรือ OSP ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานในไตรมาส 3/2566 ว่าบริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 6,277 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งความสำเร็จดังกล่าว เป็นผลมาจากผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มบำรุงกำลังที่มีอัตราการเติบโตของรายได้ที่ดีอย่างต่อเนื่อง แม้ในไตรมาสนี้จะเป็นช่วงโลว์ซีซั่นของธุรกิจ โดยแบรนด์ 'เอ็ม-150' คงความเป็นผู้นำตลาด ตอกย้ำความสำเร็จจากการดำเนินกลยุทธ์ด้านความหลากหลายของกลุ่มสินค้า ที่สามารถตอบสนองความต้องการลูกค้าได้อย่างครอบคลุม ร่วมกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายและการตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมแรงสนับสนุนจากแบรนด์ 'ลิโพ' ที่เติบโตโดดเด่นในปีนี้ เช่นเดียวกับกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ โดยแบรนด์ 'ซี-วิท' สามารถรักษาตำแหน่งผู้นำตลาดในกลุ่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของวิตามินซีได้อย่างแข็งแกร่ง มีการเพิ่มขึ้นของส่วนแบ่งตลาดอย่างต่อเนื่อง และมีอัตราการเติบโตของรายได้เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า เสริมด้วยการเติบโตของเครื่องดื่มแบรนด์ 'เปปทีน' และ 'คาลพิส แลคโตะ' ที่มีการออกผลิตภัณฑ์ใหม่และทำการตลาดเป็นผลสำเร็จได้อย่างน่าประทับใจ สามารถทำยอดขายเติบโตเป็นเลขสองหลักได้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ ซึ่งช่วยสนับสนุนพอร์ตโฟลิโอกลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัลดริงก์ในกลุ่มเครื่องดื่มที่ไม่มีส่วนผสมของวิตามินซีของโอสถสภาให้ขยายตัวได้เป็นอย่างดี
ทั้งนี้ กลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคลประสบความสำเร็จในการผลักดันการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศ จากการพัฒนาและนำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ ร่วมกับการทำกิจกรรมส่งเสริมการขายที่ได้รับการตอบรับจากกลุ่มผู้บริโภคเป็นอย่างดี โดยผลิตภัณฑ์ภายใต้แบรนด์ 'เบบี้มายด์' เป็นผู้นำในกลุ่มผลิตภัณฑ์สบู่อาบน้ำเด็ก ในขณะที่ ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายแบรนด์ 'ทเวลฟ์ พลัส' ขึ้นแท่นมีส่วนแบ่งตลาดเป็นอันดับ 2 และยอดขายเติบโตอย่างน่าพอใจในอัตราเลขสองหลัก ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้
ส่วนกำไรสุทธิในไตรมาส 3/2566 ทำได้ 642 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17% เมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้า และเพิ่มขึ้น 163% หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นผลมาจากยอดขายที่เติบโตได้ดีและการบริหารจัดการด้านประสิทธิภาพการผลิตและการบริหารค่าใช้จ่ายด้านการขายและการตลาดที่สอดคล้องกับทิศทางของตลาด ประกอบกับราคาวัตถุดิบและราคาพลังงานที่ปรับลดลง ส่งผลให้อัตราการทำกำไรขั้นต้นปรับตัวดีขึ้นเป็น 35.4% ในไตรมาสนี้ เพิ่มขึ้นจากทั้งไตรมาสก่อนหน้าและช่วงเดียวกันของปีก่อน ประกอบกับบริษัทฯ มีเงินปันผลรับจากเงินลงทุนจำนวน 300 ล้านบาทและรายการพิเศษจากการปรับโครงสร้างทางธุรกิจโดยรวมเพื่อให้สอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตในระยะยาว ส่งผลให้ในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 1,969 ล้านบาท
สำหรับไตรมาสสุดท้ายของปี 2566 โอสถสภาคาดว่าจะสามารถสร้างการเติบโตได้ดีอย่างต่อเนื่อง จากกลยุทธ์ทางการตลาด และความหลากหลายของแบรนด์พอร์ตโฟลิโอของกลุ่มเครื่องดื่มบำรุงกำลัง กลุ่มเครื่องดื่มฟังก์ชันนัล-ดริงก์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์ของใช้ส่วนบุคคล ประกอบกับเครือข่ายช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง สอดรับกับโอกาสทางการตลาดจากการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคที่คาดว่าจะปรับตัวดีขึ้น พร้อมทั้งเดินหน้าบริหารจัดการด้านการผลิตและต้นทุน เพื่อบรรลุอัตราการทำกำไรให้เติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ต่อไป
ตลอดปี 2024 แคสเปอร์สกี้ได้เข้าร่วมการทดสอบและรีวิวอิสระจำนวน 95 ครั้ง โดยผลิตภัณฑ์ของแคสเปอร์สกี้ได้รับรางวัลอันดับ 1 จำนวน 91 ครั้งและได้รับรางวัล TOP3 จำนวน 92 ครั้ง ทำให้แคสเปอร์สกี้มีผลงานสูงสุดในบรรดาคู่แข่งทั้งหมดเป็นครั้งที่ 12 ติดต่อกัน แคสเปอร์สกี้ผ่านการทดสอบ 1,000 ครั้งนับตั้งแต่เริ่มติดตามประสิทธิภาพ TOP3 ปี 2013 2024และทำสถิติคะแนนรวมของตำแหน่ง TOP3 ด้วยคะแนน 97% ตัวชี้วัด TOP3 สะท้อนถึงความสำเร็จของผู้จำหน่ายในการทดสอบเปรียบเทียบอิสระภายในหนึ่งปีปฏิทิน
ไทยพีบีเอส ลงนามความร่วมมือ สพป. พิษณุโลก เขต 2 พัฒนาหน่วยการเรียนรู้ เสริมทักษะการใช้สื่อให้บุคลากรเพื่อการศึกษา
—
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่...
"ไทยน้ำทิพย์" ผนึก "หาดทิพย์" จับมือเป็นพันธมิตร "เชสเตอร์" ยกระดับความอร่อยซ่า เสิร์ฟ "โค้ก" สร้างประสบการณ์ใหม่ ที่ร้านเชสเตอร์ทุกสาขาทั่วประเทศ
—
ประเดิมแคมเ...
ไทเชฟ แนะนำวุ้นมะพร้าวรูปลูกตาลในน้ำเชื่อม ต้อนรับสงกรานต์
—
ไทเชฟ (ThyChef) ผู้นำด้านผงโรยอาหารและผงชงเครื่องดื่มหลากหลายรสชาติ แนะนำสินค้าใหม่ วุ้นมะพร้...
OSD เปิดโรดแมปปี 2568 เตรียมจัดงาน "OSD E-Connect 2025" รุกใช้ AI เร่งดิจิทัลทรานสฟอร์เมชัน พลิกโฉมอนาคตประเทศและวงการ IT
—
บริษัท โอ เอส ดี จำกัด หรือ OS...
Welcome Back!! ลูกค้าเก่ากรุงศรี ออโต้ สมัครสินเชื่อรถใหม่ ลุ้นรับทองแท่ง 80 รางวัล รวมมูลค่า 1 ล้านบาท
—
'กรุงศรี ออโต้' ผู้นำธุรกิจสินเชื่อยานยนต์ครบวงจ...
ไทยเตรียมเป็นผู้นำอาเซียน ด้านสิทธิผู้บริโภคและการลดขยะอิเล็กทรอนิกส์ หากภาครัฐรับรอง'สิทธิในการซ่อม'
—
รายงานใหม่ผลักดันให้ประเทศไทยสร้างมิติใหม่ทลายกำแพ...
เต็ดตรา แพ้ค และดัชมิลล์ สร้างความสัมพันธ์เชื่อมต่อกับผู้บริโภคด้วยบรรจุภัณฑ์อัจฉริยะ
—
สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยของข้อมูล และตอกย้ำการมีส่วนร่วมของผู้...
แคสเปอร์สกี้ระบุ ปี 2024 จำนวนเซิร์ฟเวอร์ไทยถูกละเมิดและใช้ก่อเหตุโจมตีทางไซเบอร์เพิ่มขึ้น 125.91%
—
รายงานความปลอดภัยไซเบอร์ล่าสุดประจำปี 2024 ระบุว่าผลิ...
เชลล์โชว์ศักยภาพโซลูชันนวัตกรรมพลังงานสะอาดครบวงจร เสริมความแข็งแกร่งให้ภาคอุตสาหกรรมไทย ในงาน FTI EXPO 2025
—
บริษัท เชลล์แห่งประเทศไทย จำกัด ผู้นำด้านพล...