สยามดิสคัฟเวอรี่ มอบประสบการณ์ค้นหาสไตล์ในแบบที่เป็นคุณ ภายใต้คอนเซ็ปท์แฟชั่นที่ยั่งยืน ในงาน "The Future of Fashion"

งานนี้เต็มไปด้วยความรู้เรื่องแฟชั่นและความยั่งยืนจากผู้มีประสบการณ์ ได้แก่ ศ.ดร. พิสุทธิ์ เพียรมนกุล ผู้อำนวยการสถาบันคาร์บอนเพื่อความยั่งยืน CBIS และรองคณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ชำนัญ ภักดีสุข Fashion Curator แฟชั่นจาก Harper's BAZAAR Thailand, ปธานิน งามกิจเจริญลาภ และ ธนิสรา โพธิ์นทีไท จากแบรนด์ MAD MATTER และ เอกวิทย์ ชัยวรานุรักษ์ ผู้บริหารสยามดิสคัฟเวอรี่ ที่พูดในทางเดียวกันว่า "แฟชั่นที่ยั่งยืนไม่ได้หมายถึงเพียงวัสดุที่นำมาออกแบบ แต่รวมไปถึงแนวคิด การบริหาร การให้ความสำคัญกับสวัสดิการทางสังคมและสิทธิของคนงานด้วย"

สำหรับแบรนด์ในสยามดิสคัฟเวอรี่มีหลากหลายแบรนด์ที่มีคอนเซ็ปท์แฟชั่นที่ยั่งยืน เช่นแบรนด์"MAD MATTER" มีแนวทางเรื่องความยั่งยืนมาตั้งแต่เริ่มต้น กับคอนเซ็ปท์ Creative Lifestyle Brand who made from "Waste to Worth" เป็นแบรนด์ที่สื่อสารตรงไปตรงมา ไม่นำเข้าวัสดุจากต่างประเทศเพื่อลดเรื่องการขนส่ง และสร้างกลยุทธ์ทางธุรกิจ มีวิธีการดีไซน์และมีแนวคิดเรื่องความยั่งยืนประกอบกัน ด้วยการผลิตสินค้ามีคุณภาพดี ใช้วัสดุค้างสต็อกมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และออกแบบให้ลูกค้าใช้ไปได้นานๆ ซึ่งเป็นจุดเด่นของแบรนด์

นอกจากนี้สยามดิสคัฟเวอรี่ยังเป็นผู้นำแฟชั่นที่โดดเด่นเรื่อง Sustainable สามารถค้นหาได้ที่โซน Discovery Selection รวมแบรนด์นำเข้าของผู้หญิงและผู้ชายที่มีเฉพาะที่สยามดิสคัฟเวอรี่ เริ่มตั้งแต่แบรนด์ GANNI ที่ออกแบบคอลเลกชั่นต่างๆ โดยกว่า 50% เป็นผ้าทำมาจากวัสดุรีไซเคิล หรือออร์แกนิกที่ผ่านการตรวจรับรองแล้ว และยังมีเป้าหมายในการมีส่วนร่วมลดคาร์บอนด้วย, แบรนด์ oval square ที่มีการเลือกเส้นใย โดยพิจารณาจากปัจจัยด้านสิ่งแวดล้อม สภาพภูมิอากาศ สังคม และสวัสดิภาพสัตว์ ออกมาเป็นเส้นใยที่มีคุณสมบัติเป็นที่ยอมรับ รวมทั้งการดีไซน์ยังเน้นลวดลายธรรมชาติ ผสมกับกับความดิจิทัล สะท้อนผ่านวัสดุต่างๆ เช่น ผ้าสปอร์ตเทค หนังเนื้อหนา และตาข่ายซีทรู

ต่อด้วยแบรนด์ CLOSED ในคอนเซ็ปท์ A BETTER BLUE เดนิมที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ใช้วิธีการย้อมที่อ่อนโยนต่อผ้าและเทคนิคการล้างที่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อย เพื่อช่วยประหยัดน้ำ ลดสารเคมี และประหยัดไฟฟ้า เพื่อสร้างสรรค์ผ้ายีนส์ที่ยั่งยืนตั้งแต่เริ่มต้นจนถึงขั้นตอนสุดท้าย, BAUM UND PFERDGARTEN (โบมอุนด์เฟดกาเท่น) เป็นแบรนด์ที่ให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม ผลิตเสื้อผ้าที่เป็นมิตรต่อโลก มีการตั้งเป้าที่จะลด Carbon footprint พยายามเลือกใช้วัสดุรีไซเคิล พัฒนาแพ็คเกจ รวมถึงสินค้าตัวเองอยู่ตลอดเวลา และในเสื้อผ้าแต่ละตัวจะมีการระบุรายละเอียดถูกผลิตด้วยวัสดุรักษ์โลกกี่เปอร์เซ็นต์ที่หน้าเว็ป เรียกได้ว่าเป็นตัวแทนแบรนด์เสื้อผ้าอีกหนึ่งแบรนด์ที่จะเปลี่ยนแปลงอุตสาหกรรมแฟชั่นในอนาคตเลยทีเดียว

แบรนด์ Souvenirs of America เป็นแบรนด์ที่เลือกวัสดุจากผ้าฝ้ายที่ผ่านการใช้งานและนำกลับมาใช้ใหม่ ทั้งยังเป็นผ้าฝ้ายออร์แกนิกที่ผลิตโดยไม่ใช้ยาฆ่าแมลง, แบรนด์ Foret มุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนสำคัญของการเปลี่ยนแปลงไปสู่อนาคตที่มีความรับผิดชอบ เน้นแรงบันดาลใจในการออกแบบมาจากความรักที่แบรนด์มีต่อธรรมชาติ, แบรนด์ Samsoe Samsoe เป็นแบรนด์ที่ให้ความสำคัญในการใช้วัสดุคุณภาพโดยมีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยที่สุด และยังมีอีกหลากหลายแบรนด์ที่ให้ทุกคนได้ค้นหาอีกมากมาย

ไม่เพียงเท่านี้สยามดิสคัฟเวอรี่ยังมอบประสบการณ์พิเศษด้วยโซน Gentlemen Clubโซนสำหรับสุภาพบุรุษที่จะได้รับบริการเหนือระดับ พบกับร้าน The Armory Bespoke Tailors ร้านตัดสูทโดยสไตลิสต์เฉพาะทางมีแบบ และผ้าที่สามารถเลือกทรง และดีเทลได้ทุกอย่าง, ร้าน THREE Shoes บริการซ่อมรองเท้าที่เปิดมาตั้งแต่ปี 2008 การันตีคุณภาพในการคัดสรรวัตถุดิบที่มีคุณภาพ ตลอดจนพิถีพิถันในการผลิตรองเท้า และร้าน BARBERFORD Noir บาร์เบอร์ไฮเอนด์สุดคลาสสิกสำหรับคุณผู้ชายที่มีรสนิยม รับบริการได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 30 พฤศจิกายน 2566 ณ ชั้น G สยามดิสคัฟเวอรี่

ขอเชิญมาค้นพบประสบการณ์พิเศษได้อีกมากมายที่สยามดิสคัฟเวอรี่ ดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม ติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Siam Discovery

• ข่าวแฟชั่น
• ข่าวสยามดิสคัฟเวอรี่
• ข่าวดิเอ็กซ์พลอราทอเรี่ยม