เมื่อวันพุธที่ผ่านมา นายจอห์น รอสส์ (John Ross) นักเขียนชาวอังกฤษและนักวิชาการอาวุโสของสถาบันการเงินศึกษาฉงหยาง (Chongyang Institute for Financial Studies) ได้กล่าวสุนทรพจน์ ณ การประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการ ภายใต้การประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง (Belt and Road Forum for International Cooperation) ครั้งที่ 3 โดยมีบุคคลสำคัญจากนานาประเทศมาร่วมแสดงความชื่นชมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ซึ่งตอกย้ำความนิยมของข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางในฐานะสินค้าสาธารณะระหว่างประเทศและเวทีความร่วมมือระหว่างประเทศ
"นี่คือสองขั้วที่มีความสำคัญอย่างแท้จริงในโลกทุกวันนี้" เขากล่าว
ตลอดระยะเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางได้พัฒนาจากแนวคิดมาสู่การปฏิบัติจริง และจากวิสัยทัศน์มาสู่ความเป็นจริง โดยรถไฟและรถบรรทุกได้กลายมาเป็นสัญลักษณ์ของการค้าในยุคใหม่ เฉกเช่นเดียวกับที่คาราวานอูฐเคยเป็นสัญลักษณ์ของการค้าในอดีต ขณะที่โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำและโรงไฟฟ้าพลังงานลมได้ช่วยขจัดปัญหาคอขวดในการพัฒนาของกลุ่มประเทศกำลังพัฒนา นอกจากนี้ ท่าอากาศยาน ท่าเรือ และนิคมอุตสาหกรรมใหม่ ๆ ก็ได้สร้างแรงผลักดันที่สดใหม่ให้กับการเติบโตของภูมิภาค
จนถึงขณะนี้ ประเทศต่าง ๆ มากกว่า 150 ประเทศ รวมถึงองค์กรระหว่างประเทศมากกว่า 30 แห่ง ได้ร่วมลงนามในข้อตกลงความร่วมมือสายแถบและเส้นทาง ขณะที่ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางได้ขยายความครอบคลุมจากภูมิภาคยูเรเชียไปสู่แอฟริกาและลาตินอเมริกา
"เมื่อนานาประเทศยอมรับความร่วมมือและลงมือปฏิบัติร่วมกัน รอยแยกลึกก็กลายเป็นเส้นทางที่เชื่อมถึงกัน ประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเลก็เชื่อมถึงกันทางบกได้ และพื้นที่ด้อยพัฒนาก็เปลี่ยนเป็นดินแดนแห่งความเจริญรุ่งเรือง" ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ผู้นำจีน กล่าวปาฐกถาพิเศษในพิธีเปิดการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางเมื่อวันพุธที่ผ่านมา
เมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวว่า ความสำเร็จดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าความร่วมมือสายแถบและเส้นทางอยู่บนฝั่งที่ถูกต้องของหน้าประวัติศาสตร์ พร้อมเสริมว่า "ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางแสดงถึงความก้าวหน้าในยุคสมัยของเรา และเป็นเส้นทางที่ถูกต้องสำหรับการก้าวไปข้างหน้า"
นางอิรินา จอร์จีวา โบโกวา (Irina Georgieva Bokova) อดีตผู้อำนวยการใหญ่องค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (ยูเนสโก) กล่าวในการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการดำเนินการตามวาระการพัฒนาที่ยั่งยืนของสหประชาชาติมาโดยตลอด
ทั้งนี้ เหล่าผู้แทนที่เข้าร่วมการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางได้มีฉันทามติร่วมกันว่า การที่จีนส่งเสริมความร่วมมือสายแถบและเส้นทางนั้น จีนไม่ได้แสวงหาความทันสมัยเพียงเพื่อตัวเองเท่านั้น แต่ยังทำเพื่อประเทศกำลังพัฒนาทั้งหมดผ่านความพยายามร่วมกันอีกด้วย
นายยีรี ปารูเบก (Jiri Paroubek) อดีตนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐเช็ก กล่าวในการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า โครงการต่าง ๆ ภายใต้ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางได้สร้างโอกาสในการทำงาน ขับเคลื่อนความเจริญรุ่งเรืองทางการค้า ส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจของหลายสิบประเทศ ตลอดจนยกระดับมาตรฐานการครองชีพของประชาชนมากมาย
"แท้จริงแล้ว ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางเป็นโครงการทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุดในโลกในปัจจุบัน" เขากล่าว
ทั้งนี้ กลไกหลักที่ขับเคลื่อนการสร้างประชาคมโลกที่มีอนาคตร่วมกัน ซึ่งเป็นวิสัยทัศน์ที่นำเสนอโดยจีนและสอดคล้องกับข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง ก็คือโลกาภิวัตน์ ซึ่งประเทศส่วนใหญ่ทั่วโลกให้การยอมรับอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มประเทศซีกโลกใต้ (Global South)
โลกาภิวัตน์เป็นกระแสที่กำลังเติบโตซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยให้สามารถเข้าถึงตลาดต่างประเทศ เพิ่มการส่งออก และดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้อีกด้วย ซึ่งนำไปสู่การส่งเสริมนวัตกรรมและเสริมสร้างขีดความสามารถ ในขณะที่ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางได้ช่วยอำนวยความสะดวกในการเชื่อมทั่วโลกเข้าด้วยกัน
นายเกอร์เซกอร์ซ โกลอดโก (Grzegorz Kolodko) อดีตรองนายกรัฐมนตรีของโปแลนด์ กล่าวในการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางเป็น "กลไกที่ทรงพลังในการทำให้โลกาภิวัตน์ไม่สามารถทวนกลับได้ เพราะจะดำเนินต่อไปและมีแต่จะครอบคลุมมากขึ้นเท่านั้น"
"นั่นคือสิ่งที่จีนเรียกว่าเป็นประโยชน์ต่อทุกฝ่าย" เขากล่าว
นายออง ที เคียต (Ong Tee Keat) ประธานของ Center for New Inclusive Asia กล่าวในการประชุมแลกเปลี่ยนทางวิชาการว่า ในโลกแห่งความคลางแคลงใจและการบิดเบือนนั้น ข้อริเริ่มด้านอารยธรรมระดับโลก (Global Civilization Initiative) ที่นำเสนอโดยจีน ได้กลายเป็นกำลังสำคัญในการท้าทายอำนาจครอบงำทางวัฒนธรรม
เขากล่าวว่า ฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางมีความพยายามที่จะสร้างวาทกรรมระดับโลกเพื่อขวางอิทธิพลของจีน อย่างไรก็ดี ข้อริเริ่มสำคัญทั้งสามของจีน รวมถึงข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทาง มีเป้าหมายที่จะต่อสู้กับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง ด้วยการนำเสนอข้อเท็จจริงและข้อมูลสถิติต่าง ๆ เพื่อเพิ่มพลังให้กับภาคประชาสังคมและบุคคลที่มีความคิด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มประเทศซีกโลกใต้
ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง กล่าวในพิธีเปิดการประชุมข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางว่า ข้อริเริ่มสายแถบและเส้นทางก้าวข้ามความแตกต่างระหว่างอารยธรรม วัฒนธรรม ระบบสังคม และระยะของการพัฒนา รวมถึงเปิดเส้นทางใหม่สำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างนานาประเทศ ทั้งยังสร้างกรอบใหม่สำหรับความร่วมมือระหว่างประเทศอีกด้วย
https://news.cgtn.com/news/2023-10-19/How-has-BRI-become-a-popular-platform-for-international-cooperation--1o1O1dXTNf2/index.html
รูปภาพ - https://mma.prnewswire.com/media/2252389/How_has_BRI_become_a_popular_platform_for_international_cooperation.jpg
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit