มนุษย์ส่วนใหญ่เคยชินกับการเรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รอบตัว อาจเพราะเกิดจากการหล่อหลอมของรูปแบบระบบการศึกษา หรือสิ่งแวดล้อมรอบตัวมากมายที่กระตุ้นให้เกิดการรับรู้สิ่งต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น จนทำให้เรามักจะแทบไม่มีโอกาสในการสังเกตโลกอีกใบที่อยู่ภายในตนเองได้ บทความให้ความรู้โดย พญ.เต็มหทัย นาคเทวัญ จิตแพทย์ ศูนย์ส่งเสริมสุขภาพจิต (Mental Health Center) โรงพยาบาลนวเวช ได้หยิบยกแนวทางเรียนรู้เข้าใจตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อสามารถนำไปปรับใช้ดูแลสุขภาพจิตใจตนเองให้ดีอยู่เสมอ
เมื่อเกิดปัญหา แต่ละคนก็มีวิธีการดูแลแตกต่างกัน ซึ่งสั่งสมมาจากประสบการณ์การเรียนรู้ ผลลัพธ์อาจจะดีบ้างไม่ดีบ้าง และแน่นอนการเรียนรู้นี้ไม่มีสอนในตำราเรียน
คำถามก็คือ เราจะตระหนักเรียนรู้เข้าใจตนเองอย่างมีประสิทธิผลได้อย่างไร?
"อารมณ์" เป็นประตูบานแรกที่หากเราสามารถเปิดการรับรู้และดูแลอารมณ์ได้อย่างมั่นคง เนื่องจากอารมณ์เป็นธรรมชาติที่เกิดขึ้นเองอัตโนมัติ แม้อารมณ์อาจจะเกิดได้หลายอารมณ์พร้อมกัน หรือไม่พร้อมกัน มักจะไม่แตกแขนงมากเท่าความคิด อีกทั้งมนุษย์เรายังมีเรื่องที่น่าทึ่งคือ มนุษย์มีความสามารถรับรู้อารมณ์ผ่านทางร่างกาย (Body sensation) ได้ เช่น เวลาตื่นเต้นหรือตื่นกลัว ร่างกายจะแสดงอาการใจสั่น หัวใจเต้นเร็ว มือสั่น หายใจเร็วแรง เป็นต้น
ดังนั้นอารมณ์จึงเป็นเครื่องมือที่ดีอย่างแรก ที่จะช่วยให้เราตระหนักเรียนรู้เข้าใจตัวเองได้อย่างไม่หลงทาง ต่อมาขั้นตอนสำคัญหลังการรับรู้อารมณ์ คือ การยอมรับดูแล และอยู่กับอารมณ์ของเรา ด้วยความใจดีเมตตา โดยการใช้วิธีผ่อนคลายต่าง ๆ เช่น การหายใจเข้าออกช้า ๆ การนั่งพักในที่สงบ หรือการผ่อนคลายรูปแบบอื่น ๆ ระหว่างนั้นให้สังเกตระดับพลังของอารมณ์ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง ซึ่งโดยปกติแล้วจะค่อย ๆ ลดลงเรื่อย ๆ หากไม่มีสิ่งกระตุ้นเพิ่มเติม
กรณีหากเกิดความคิดอื่น ๆ แทรกขึ้นมา ต้องกลับไปใช้วิธีการผ่อนคลายของตนอีกครั้ง แล้วคอยสังเกตอารมณ์ต่อ จนรู้สึกสงบนิ่งสบายใจก่อน
ประตูบานที่สองนี้จะนำพาเราไปสู่การแก้ปัญหา หากแต่ประตูบานนี้เปรียบเสมือนประตูห้องลับที่มีจำนวนนับไม่ถ้วน ปรากฏเพิ่มขึ้นได้ตลอดอย่างน่าอัศจรรย์ หากเราไม่รู้เท่าทันประตูบานนี้ นั่นหมายถึงเราไม่ได้เดินทางผ่านประตูอารมณ์บานแรกมาก่อน ทำให้สภาวะอารมณ์ไม่นิ่งสงบพอที่จะคิดแยกแยะวิเคราะห์ ถ้าหากเราสามารถแยกแยะประตูบานนี้ให้เหลือแต่ ประตูที่เป็นกลางและเป็นความจริงในปัจจุบัน เราก็สามารถแก้ปัญหาในชีวิตของตนเองได้อย่างเฉียบคมถูกต้องเหมาะสม
ไดกิ้นจับมือกรมอนามัย กรมการปกครอง สมาคมส่งเสริมคุณภาพอากาศในอาคาร และมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี ร่วมดำเนินโครงการพัฒนาคุณภาพอากาศภายในอาคารศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ส่งมอบ "ห้องเรียนปลอดฝุ่น" ซึ่งเป็นต้นแบบศูนย์การเรียนรู้ด้านการปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในอาคาร ระดับภาคเหนือ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็กเทศบาลตำบลห้วยซ้อ อำเภอเชียงของ จังหวัดเชียงราย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความเสี่ยงจากมลภาวะทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่น PM2.5 และก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ที่อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพของเด็กเล็กและบุคลากรภายในศูนย์
กลุ่มบริษัทบางจาก สนับสนุนเยาวชนรอบพื้นที่ปฏิบัติการเรียนรู้ด้านสิ่งแวดล้อมผ่านประสบการณ์จริงกับมูลนิธิ ESF
—
กลุ่มบริษัทบางจาก ร่วมกับ มูลนิธิเพื่อสิ่งแว...
หนังสือเรียนวัฒนธรรมไทยคว้าอันดับ 1 บน Amazon Kindle
—
หนังสือ Discover Thai Culture Through Poetry: Cross-Cultural Poems for Creative Learning (ค้นพบวัฒน...
ความเข้าใจเรื่อง "ออทิสติก" ในวัยเด็ก ความแตกต่างที่สังคมไทยต้องตระหนักรู้ร่วมกัน
—
"ออทิสติก" คือภาวะพัฒนาการทางสมองที่ส่งผลต่อการสื่อสาร การปฏิสัมพันธ์ท...
OPPO ส่งเสริมเยาวชนพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ร่วมบริจาคอุปกรณ์เทคโนโลยีเพื่อการศึกษาให้แก่มูลนิธิสันติสุข
—
ออปโป้ ประเทศไทย ร่วมสนับสนุนกิจกรรมเพื่อสังคมและ...
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร" ห่วงผู้สูงวัยไร้แผนบั้นปลาย ชี้สังคมไทยต้องเรียนรู้ "การตายอย่างมีระบบ"
—
ดร.ทวารัฐ สูตะบุตร ผู้อำนวยการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความ...
"เงินติดล้อ" ผนึกตลาดหลักทรัพย์ฯ แบ่งปันไอเดีย การสร้างสุขภาพทางการเงินที่ดีในองค์กร
—
บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR โดย คุณมิ่งขวัญ ประเสริ...
เทศกาล "วันว่าง" ม.ทักษิณ ยิ่งใหญ่ โชว์เบญจาประดับแทงหยวกงดงาม ชวนสรงน้ำสามสมเด็จเจ้าแห่งลุ่มทะเลสาบสงขลา
—
สถาบันทักษิณคดีศึกษา มหาวิทยาลัยทักษิณ ร่วมภาค...
ไทยพีบีเอส ลงนามความร่วมมือ สพป. พิษณุโลก เขต 2 พัฒนาหน่วยการเรียนรู้ เสริมทักษะการใช้สื่อให้บุคลากรเพื่อการศึกษา
—
องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่...
เพลิดเพลินไปกับบรั๊นช์หรรษาฉลองเทศกาลอีสเตอร์ไปกับครอบครัวที่คุณรัก ที่ เน็กซ์ทู คาเฟ่ โรงแรมแชงกรี-ลา กรุงเทพฯ
—
เชิญคุณพร้อมครอบครัวและคนที่คุณรักมาอิ่ม...