ดีอีเอส - ไปรษณีย์ไทยลุยจัดงาน "โพสต์ติเวิร์ส" เนรมิตจุดเช็คอินย่านบางรัก อัดความตระการตา "ป็อปคัลเจอร์ - ซอฟต์พาวเวอร์ - สตอรี่ 140 ปี กิจการแห่งชาติ" พร้อมจัดโอลิมปิกงานแสตมป์ ส่งสุขให้คนไทย ทิ้งท้ายปี 66
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม หรือดีอีเอส และบริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด ร่วมเฉลิมฉลอง 140 กิจการไปรษณีย์ไทย เตรียมจัดงาน "POSTiverse : ส่งสุขไปทุกเวิร์ส 140 ปีไปรษณีย์ไทย และงานแสดงตราไปรณียากรโลก 2566" สะท้อนจักรวาลที่รวมความทรงจำปัจจุบันและอนาคตของไปรษณีย์ไทย พร้อมด้วยการนำเสนอศิลปะในระดับเวิลด์คลาส การนำเสนอซอฟต์พาวเวอร์ และเศรษฐกิจสร้างสรรค์จากหลายกลุ่มบุคคล รวมถึงสิ่งล้ำค่าที่หาชมได้ยาก ซึ่งจะจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2566 ณ อาคารไปรษณีย์กลาง บางรัก
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เปิดเผยว่า ปี 2566 เป็นปีที่มีความสำคัญอย่างมากของไปรษณีย์ไทยเนื่องด้วยวาระครบรอบ 140 ปีกิจการด้านการสื่อสารและขนส่งของชาติ และยังครบรอบปีที่ 20 การแปรสภาพเป็นรัฐวิสาหกิจซึ่งมีบริการต่าง ๆ ที่สนับสนุนให้ภาพรวมทางเศรษฐกิจของประเทศเติบโตขึ้นอย่างมาก ทั้งนี้ เพื่อเป็นการฉลองการครบรอบวาระดังกล่าวกระทรวงดีอีเอสโดยไปรษณีย์ไทยจึงได้เตรียมจัดงานใหญ่เพื่อให้คนไทยได้เห็นถึงวิวัฒนาการกิจการของชาติ และสะท้อนให้เห็นถึงความก้าวล้ำของไปรษณีย์ไทยที่ทันสมัย สอดรับกับชีวิตยุคดิจิทัลในงาน "POSTiverse : ส่งความสุขไปทุกเวิร์ส 140 ปีไปรษณีย์ไทย และงานแสดงตราไปรณียากรโลก 2566" ซึ่งมีความพิเศษอย่างมากในทุกแง่มุม เช่น ความเป็นศิลปะในระดับเวิลด์คลาส การกระตุ้นซอฟต์พาวเวอร์ - เศรษฐกิจสร้างสรรค์ การเติมเต็มโอกาสและความสุขให้คนไทยด้วยไปรษณีย์ไทย ตลอดจนสิ่งล้ำค่าที่หาชมได้ยากที่จะถูกจัดแสดงในบิ๊กอีเว้นท์นี้
นายประเสริฐ กล่าวเสริมว่า นอกเหนือการจัดงานกระทรวงดีอีเอสยังให้ความสำคัญอย่างมากกับการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศดิจิทัลของประเทศให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสิ่งที่สำคัญนอกเหนือไปจากการลงทุนคือการใช้ประสบการณ์ของหน่วยงานในสังกัดเพื่อสร้างการเติบโตทางเศรษฐกิจ - สังคมให้ทัดเทียมกับสากล โดยไปรษณีย์ไทยเป็นหนึ่งในกลไกที่กระทรวงฯ ตั้งเป้านำประสบการณ์กว่า 140 ปี มากระตุ้นโครงสร้างพื้นฐานและระบบนิเวศดิจิทัลที่ดียิ่งขึ้น โดยมุ่งให้ไปรษณีย์เป็นแพลตฟอร์มแห่งโอกาสที่เติมเต็มความเชื่อมั่นด้านดิจิทัลทั้งภาพความเป็นรัฐบาลดิจิทัลจากการมีข้อมูลเครือข่าย ผู้ใช้บริการ ข้อมูลทางตลาดที่ภาคธุรกิจสามารถวางใจใช้การขนส่งได้ทั้งระบบ ความอัจฉริยะและความปลอดภัยในด้านตัวตนของคนไทย 70 ล้านคนจากการริเริ่มใช้ Digital ID การพลิกโฉมงานเอกสารออนไลน์ทั้งประเทศที่จะเริ่มใช้อย่างกว้างขวางในปี 2567 นี้ รวมไปถึงการเป็นจิ๊กซอว์สำคัญที่จะมาเติมเต็ม Smart City จากการเป็นสื่อสารและขนส่งที่อัจฉริยะขึ้น ตอบโจทย์ได้ทุกตามความต้องการและความยั่งยืน
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เปิดเผยว่า การจัดงาน POSTiverse : ส่งสุขไปทุกเวิร์ส 140 ปีไปรษณีย์ไทย และงานแสดงตราไปรณียากรโลก 2566 ระหว่างวันที่ 27 พฤศจิกายน - 3 ธันวาคม 2566 ณ ไปรษณีย์กลาง บางรัก เป็นการสะท้อนบทบาทไปรษณีย์ไทยที่มีต่อการสื่อสารและขนส่งของชาติมาตลอด 140 ปี โดยความหมายของ POSTiverse เปรียบเสมือนจักรวาลที่รวมเอาความทรงจำปัจจุบันและทิศทางอนาคตของไปรษณีย์ไทยไว้ในงานเดียว อีกทั้งยังสะท้อนมุมมองใหม่ ๆ เรื่องราวต่าง ๆ ที่คนไทยอาจยังไม่เคยได้สัมผัสและหาชมได้ยาก ได้แก่
"การจัดงานที่ไปรษณีย์กลางบางรัก พื้นที่ประวัติศาสตร์ที่ยังคงอยู่ในไลฟ์สไตล์ร่วมสมัยในทุกยุคทุกเวลา ต้องการให้คนไทยได้เห็นถึงศักยภาพและตัวตนของไปรษณีย์ไทยในฐานะที่เป็นได้ทั้งผู้สนับสนุนเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซอฟต์พาวเวอร์ ป็อปคัลเจอร์ สามารถเนรมิตความครีเอทีฟต่าง ๆ ให้ทุกคนสามารถร่วมสนุกได้อย่างจุใจ ทั้งการถ่ายรูป การทำคอนเทนต์ และยังครอบคลุมไปถึงการทำให้ทุกคนและไปรษณีย์ไทยได้ผลักดันสิ่งใหม่ ๆ ในอนาคตร่วมกัน"
ด้าน นายสุรจิตร ก้องวัฒนา ที่ปรึกษาสมาคมนักสะสมตราไปรษณียากรแห่งประเทศไทยในพระราชูปถัมภ์ฯ กล่าวว่า งานแสดงตราไปรณียากรโลก 2566 เป็นครั้งที่ 6 ที่ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพ ซึ่งงานนี้เปรียบเสมือนงานโอลิมปิกแห่งวงการแสตมป์ที่นักสะสมแสตมป์ทั่วโลกให้ความสนใจ คาดว่าการจัดงานจะช่วยให้ผู้คนเห็นคุณค่าและมูลค่าของแสตมป์มากยิ่งขึ้น ซึ่งในส่วนของมูลค่านั้นจะได้เห็นทั้งจากแสตมป์ที่แพงที่สุดของโลก และแพงที่สุดในเอเชีย รวมถึงความครีเอทีฟใหม่ ๆ ที่จะทำให้แสตมป์ยังคงอยู่และกลายเป็นธุรกิจ สินค้า หรืออื่น ๆ ที่ยังมีมูลค่าในอนาคต
"สำหรับไฮไลต์งานแสดงตราไปรษณียากรโลกคือแสตมป์สีม่วงแดง 1 เซ็นต์บริติชกีอานา ปี 1856 จากประเทศบริติช กายอานา ที่มีราคาแพงที่สุดในโลก มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท และแสตมป์มังกร 500 Mon (พิมพ์กลับหัว) ปี 1871 จากประเทศญี่ปุ่น ที่มีราคาแพงที่สุดในทวีปเอเชีย มูลค่ากว่า 200 ล้านบาท นอกจากนี้ยังมีโซนจัดแสดงตราไปรษณียากรหายาก ผลงานการประกวดตราไปรษณียากรจากนักสะสมทั่วโลก กว่า 60 ประเทศประมาณ 2,500 แผงประกวด การประมูล - การเสวนาความรู้
ในการสะสมแสตมป์จากนักสะสมแสตมป์ชั้นนำระดับโลก มีการไปรษณีย์จากชาติต่างๆ มาร่วมงานและออกร้าน รวมกว่า 50 ร้าน สิ่งที่นอกเหนือไปจากนั้นคือกิจกรรมการเสวนาความรู้ในการสะสมแสตมป์ที่ให้ข้อมูลโดยผู้เชี่ยวชาญไทยและระดับโลก ซึ่งจะทำให้เข้าใจมากขึ้นถึงการมีอยู่ของแสตมป์และสิ่งที่จะดำเนินไปในอนาคต"
ติดตามข่าวสารไปรษณีย์ไทยเพิ่มเติมได้ที่
เว็บไซต์ : www.thailandpost.co.th
เฟซบุ๊ก : บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด
X : @Thailand_Post
ไลน์ออฟฟิเชียล : @Thailand Post
ติ๊กต็อก : @thailandpostchannel