กรุงศรี (ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) พัฒนาเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลเพื่อลูกค้าธุรกิจอย่างต่อเนื่อง คว้า 3 รางวัลนวัตกรรมการเงินยอดเยี่ยมแห่งปี 2566 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นในการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาพัฒนาผลิตภัณฑ์และบริการให้ก้าวล้ำไปพร้อมกับความต้องการของลูกค้าธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและมีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญ กรุงศรีไม่หยุดนิ่งแค่การให้บริการในประเทศ แต่ได้ขยายพื้นที่ให้บริการไปในต่างประเทศอีกด้วย
นางสาวสายสุนีย์ หาญประเทืองศิลป์ ประธานคณะเจ้าหน้าที่ด้านนวัตกรรมดิจิทัลและข้อมูล ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "กรุงศรีมุ่งเน้นให้ความสำคัญกับ Experience First โดยผนวกนวัตกรรมและความสามารถในการเข้าใจและเข้าถึงลูกค้าธุรกิจ รวมถึงการวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานของลูกค้า เพื่อออกแบบโซลูชันที่ตอบสนองความต้องการได้หลากหลาย และการทำ E2E Digital Transformation จนสามารถคว้าสามรางวัลอันทรงเกียรติด้านนวัตกรรมการเงินมาได้"
ทั้งนี้สามรางวัลแห่งความสำเร็จ ด้านเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลเพื่อลูกค้าธุรกิจ ประกอบด้วย
กรุงศรีเชื่อว่า ผลิตภัณฑ์และบริการที่ดีต้องออกแบบให้ตรงกับความต้องการของลูกค้า สามารถยกระดับประสบการณ์ของลูกค้าให้ดีขึ้นได้ เช่น วันนี้ลูกค้าองค์กรสามารถเปิดบัญชีและยืนยันตัวตนผ่านผลิตภัณฑ์ Krungsri iPro ได้โดยไม่ต้องไปสาขา และไม่ว่าลูกค้าธุรกิจขนาดเล็กที่ทำธุรกิจคนเดียวไปจนถึงองค์กรธุรกิจขนาดใหญ่ ก็สามารถทำธุรกรรมบนดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อธุรกิจอย่าง Krungsri Biz Online ได้ครบครันในที่เดียว และด้วยความแข็งแกร่งในการเป็นบริษัทในเครือการเงินระดับโลก MUFG จึงสนับสนุนให้ลูกค้าขับเคลื่อนธุรกิจสู่ Regional Expansion & Connectivity โดยพัฒนาโซลูชันให้ลูกค้าธุรกิจในต่างประเทศ กับการสร้างประสบการณ์การใช้งานเดียวกันกับ Krungsri Biz Online ไปเป็น Krungsri Internet Banking Laos แพลตฟอร์มดิจิทัลแบงก์กิ้งเพื่อลูกค้าธุรกิจใน สปป.ลาว
การคว้าสามรางวัลด้านเทคโนโลยีการเงินดิจิทัลยอดเยี่ยมในปีที่ผ่านมา เป็นการการันตีว่าการพัฒนาเทคโนโลยีและนวัตกรรมการเงินเพื่อลูกค้าธุรกิจของกรุงศรีเป็นที่ยอมรับในระดับสากล และในปี 2567 นี้เราจะยังคงมุ่งมั่นพัฒนาเพื่อสนับสนุนการดำเนินธุรกิจของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นต่อไป
กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่สอง ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) โดยตั้งเป้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 130% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการค้าระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สหรัฐฯ
JMART เคาะดอกเบี้ยหุ้นกู้ชุดใหม่ 5.50% ต่อปี ยันแผ่นดินไหวและสงครามการค้าไม่กระทบ ย้ำความมั่นใจเติบโตต่อเนื่อง
—
JMART เสนอขายหุ้นกู้ 2 ปี 6 เดือน เคาะดอก...
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
—
ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณกา...
Standard Chartered Bank lowers Thailand's 2025 growth forecast, anticipates policy rate cut in April meeting
—
Standard Chartered Bank has lowered Thailan...
finbiz by ttb แนะ 5 เทรนด์การจ้างงานยุคใหม่ที่ตรงใจทั้งองค์กรและพนักงาน
—
ในยุคที่ตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว และความต้องการพนักงานที่มีพรสวรรค...
ผู้ถือหุ้นไฟเขียว AUCT จ่ายเงินปันผลปี 2567 รวม 368 ล้านบาท
—
ที่ประชุมผู้ถือหุ้นบริษัท สหการประมูล จำกัด (มหาชน) หรือ AUCT เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 ที่ผ...
SCAP สุดปลื้ม! ฟิทช์จัดอันดับเครดิต 'A-(tha)' สะท้อนฐานะการเงินมั่นคง เพิ่มศักยภาพเข้าถึงแหล่งเงินต้นทุนต่ำ ช่วยเสริมแกร่งกลุ่ม SAWAD
—
บริษัท ศรีสวัสดิ์ ...
KGI เตรียมออก 3 DR ใหม่ โอกาสลงทุนหุ้นเทคจีนยักษ์ใหญ่ เทรด 17 เม.ย.นี้
—
KGI ปล่อย DR 3 หลักทรัพย์ใหม่ อ้างอิงหุ้นเทคฯ ยักษ์ใหญ่จากจีน ซึ่งมีศักยภาพการเติ...
ผอ.ใหญ่ ดีป้า แนะไทยเดินหน้าหาตลาดใหม่ เตรียมการรับมือมาตรการภาษีทรัมป์
—
ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า ชี้มาตรการภาษีทรัมป์เป็นการโยนหินถามทางเพื่อสังเกตท่าทีของ...