กรมโยธาธิการและผังเมือง กระทรวงมหาดไทย บูรณาการหน่วยงานทั่วประเทศ เร่งตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ และเดินหน้ากำจัดผักตบชวาและวัชพืช เพื่อเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์น้ำหลากและปริมาณฝนที่จะตกชุกหนาแน่นในช่วงเดือนสิงหาคมและกันยายน ซึ่งจะส่งผลให้ประชาชนได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำที่เอ่อล้นตลิ่งในหลายพื้นที่
นายพงศ์รัตน์ ภิรมย์รัตน์ อธิบดีกรมโยธาธิการและผังเมือง เปิดเผยว่า กรมฯ ได้เร่งดำเนินการเตรียมพร้อมและเฝ้าระวังในการรับมือฤดูฝนปี 2566 ตามมติเห็นชอบของคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (กนช.) ในแนวทาง 12 มาตรการรับมือฤดูฝน ซึ่งในส่วนของกรมโยธาธิการและผังเมือง รับผิดชอบในมาตรการที่ 6 ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ และมาตรการที่ 7 การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำ
สำหรับ มาตรการที่ 6 ตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ กรมฯ ได้ขอความอนุเคราะห์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศสั่งการให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นตรวจสอบความมั่นคงปลอดภัยของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำหากตรวจสอบแล้วพบว่า คัน/ทำนบ/ผนังกั้นน้ำ ชำรุดไม่มั่นคงแข็งแรงเป็นจุดเสี่ยง มีจุดรั่วของน้ำ หรือจุดที่น้ำข้ามเข้ามาในพื้นที่ป้องกัน รวมถึงเครื่องจักรและอุปกรณ์ เช่น เครื่องสูบน้ำ ประตูระบายน้ำ ชำรุดเสียหายไม่สามารถใช้งานได้ ให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นดำเนินการแก้ไข ซ่อมแซม เป็นการชั่วคราวโดยด่วนให้แล้วเสร็จภายในเดือนกรกฎาคม 2566 โดยขอให้ประสานกับกรมโยธาธิการและผังเมือง เพื่อกำหนดรูปแบบและวิธีการ เพื่อมิให้เกิดปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ป้องกันในช่วงฤดูฝนนี้ และในกรณีที่คัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำ รวมถึงเครื่องจักรอุปกรณ์ชำรุดเสียหายต้องใช้งบประมาณในการซ่อมแซมให้สามารถใช้งานได้อย่างถาวร จังหวัดและองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นไม่สามารถจัดสรรงบประมาณเพื่อดำเนินการซ่อมแซมได้ ขอให้สำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัด ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสำรวจและจัดทำข้อมูลความเสียหาย แจ้งมายังกรมโยธาธิการและผังเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้ กรมฯ ได้สั่งการให้สำรวจแล้ว โดยพื้นที่บางส่วนได้ใช้เงินงบประมาณเหลือจ่ายในการซ่อมแซมให้โครงการสามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพดังเดิม และบางส่วนบรรจุงบประมาณประจำปี อีกทั้งในปัจจุบันให้สำรวจเพิ่มเติมและส่งข้อมูล ภายในเดือนสิงหาคม 2566 เพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณในการซ่อมแซมและบำรุงรักษาต่อไป
ในส่วนของมาตรการที่ 7 การเพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำของทางน้ำ กรมฯ ร่วมกับ GISTDA กำหนดแนวทางในการแก้ไขปัญหาผักตบชวา ด้วยการนำข้อมูลภาพถ่ายดาวเทียมที่มีการสะสมของผักตบชวาและวัชพืช ในลุ่มน้ำภาคกลาง ภาคตะวันตก และภาคตะวันออก 33 จังหวัด มาวางแผนร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งกำจัดผักตบชวา และวัชพืชด้วยการบูรณาการด้านเครื่องจักร เครื่องมือในการกำจัดผักตบชวา วัชพืช และขยะที่กีดขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มพื้นที่หน้าตัดแม่น้ำ ลำคลอง เพิ่มประสิทธิภาพการระบายน้ำให้ทันต่อสถานการณ์ที่อาจจะเกิดขึ้น และเพื่อลดความเสี่ยงที่จะเกิดอุทกภัยอย่างหนัก จึงให้ 43 จังหวัด ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคใต้ เร่งกำจัดผักตบชวาและวัชพืช ตามแผนงาน ประจำปี 2566 รวมถึงประชาสัมพันธ์และเชิญชวนประชาชนที่มีบ้านเรือนติดแม่น้ำ ลำคลอง ช่วยกันจัดเก็บ หรือกำจัดวัชพืช ผักตบชวา และขยะในลำน้ำร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นการช่วยสนับสนุนหน่วยงานภาครัฐในการแก้ไขปัญหาผักตบชวาและวัชพืชที่กีดขวางทางน้ำอีกทางหนึ่งด้วย ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารจากหน่วยงานราชการ กรมอุตุนิยมวิทยา การแจ้งเตือนภัยของจังหวัด เพื่อเตรียมความพร้อมในการรับมือกับปัญหาภัยพิบัติจากสถานการณ์น้ำหลากที่อาจจะเกิดขึ้นได้อย่างทันท่วงที หากพบรอยรั่วของคัน/ทำนบ/พนังกั้นน้ำสามารถแจ้งข้อมูลได้ที่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น หรือสำนักงานโยธาธิการและผังเมืองจังหวัดทั่วประเทศ
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit