กลุ่ม KTIS เปิดเผยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุด 31 มีนาคม 2566 เติบโตกว่างวดเดียวกันของปี 2565 ถึง 211% โดยมีกำไรสุทธิ 1,027.4 ล้านบาท และมีรายได้รวม 8,598.7 ล้านบาท โดยมีกำไรขั้นต้นและอัตรากำไรขั้นต้นสูงขึ้นทั้งสายธุรกิจน้ำตาลและธุรกิจชีวภาพ
นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือกลุ่ม KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลและอุตสาหกรรมต่อเนื่องครบวงจร เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่ม KTIS งวด 6 เดือน ปี 2566 (ตุลาคม 2565 - มีนาคม 2566) มีรายได้รวม 8,598.7 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อน 22.1% และมีกำไรสุทธิ 1,027.4 ล้านบาท สูงกว่างวดเดียวกันของปีก่อนถึง 211.0%
"สาเหตุที่การเติบโตของกำไรสูงกว่าการเติบโตของรายได้ เพราะเราสามารถทำอัตรากำไรขั้นต้นและอัตรากำไรสุทธิได้สูงขึ้น เมื่อเทียบระหว่างงวด 6 เดือนแรกปี 2565 กับปี 2566 โดยอัตรากำไรขั้นต้นของสายธุรกิจน้ำตาลทรายเพิ่มขึ้นจาก 10.2% เป็น 18.3% และสายธุรกิจชีวภาพ เพิ่มจาก 14.8% เป็น 25.2%" นายสมชายกล่าว
ทั้งนี้ ปัจจัยหลักที่สนับสนุนการทำอัตรากำไรที่สูงขึ้นในสายธุรกิจน้ำตาลทราย มาจากคุณภาพอ้อยที่ดีขึ้นมาก ทำให้ได้ผลผลิตน้ำตาลทรายต่อตันอ้อยสูงขึ้น จากปริมาณอ้อย 6.9 ล้านตัน สามารถผลิตน้ำตาลทรายได้มากถึง 8 ล้านกระสอบ เทียบกับฤดูการผลิตปีก่อนหน้านั้น ซึ่งอ้อย 6.2 ล้านตัน ผลิตน้ำตาลทรายได้เพียง 6.4 ล้านกระสอบ อีกทั้งราคาขายน้ำตาลทรายทั้งในประเทศและต่างประเทศก็สูงขึ้น จากราคาน้ำตาลทรายในตลาดโลกที่ปรับเพิ่มขึ้น
ส่วนปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของอัตรากำไรในสายธุรกิจชีวภาพ มาจากราคาขายเยื่อกระดาษทั้งในประเทศและต่างประเทศที่สูงขึ้น รวมถึงราคาขายเอทานอลและไฟฟ้าก็สูงกว่าปีก่อนด้วย
"หากดูสัดส่วนรายได้ของสายธุรกิจต่างๆ เทียบกับรายได้รวมของกลุ่ม KTIS สำหรับงวด 6 เดือน ปี 2566 พบว่า สายธุรกิจน้ำตาลทรายมีสัดส่วนรายได้ 88.6% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวมวล มีสัดส่วน 12.2% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเอทานอล มีสัดส่วน 7.1% สายธุรกิจผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย มีสัดส่วน 3.3% และอื่นๆ อีก 9.2%" นายสมชายกล่าว
กลุ่ม KTIS เผยโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อยบริสุทธิ์ 100% ภายใต้บริษัทย่อย-EPAC มีคำสั่งซื้อเข้ามาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะสายการผลิตที่ไม่ใช้สาร PFAS (PFAS-free) ซึ่งเป็นที่ต้องการของตลาดยุโรปและอเมริกา ออร์เดอร์ทะลักจนต้องขยายกำลังการผลิต ตั้งเป้ารายได้ EPAC ปีนี้ไม่น้อยกว่า 500 ล้านบาท เพราะคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคทั่วทุกภูมิภาคของโลก ทั้งสะอาด ปลอดภัยต่อสุขภาพ และไม่เป็นภัยต่อสิ่งแวดล้อม นายสมชาย สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยประธาน
ผู้บริหารกลุ่ม KTIS มั่นใจปี 2568 ผลการดำเนินงานจะดีกว่าปี 2567
—
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ประธานเจ้าหน้...
กลุ่ม KTIS โชว์รายได้ปี 2566 เกือบ 2 หมื่นล้านบาท กำไรสุทธิโต 325% จ่ายปันผลหุ้นละ 0.10 บาท
—
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชา...
กลุ่ม KTIS เดินหน้าเพิ่มสัดส่วนรายได้สายธุรกิจชีวภาพ มั่นใจบรรจุภัณฑ์ชานอ้อย 100% เติบโตตามเทรนด์โลก
—
กลุ่ม KTIS มั่นใจธุรกิจในสายชีวภาพ โดยเฉพาะบรรจุภัณ...
กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิปี 2566 โตลิ่ว 325% อยู่ที่ 1,939.4 ล้านบาท เปิดรายได้รวมเกือบ 2 หมื่นล้านบาท สายธุรกิจน้ำตาล และไฟฟ้า โตเด่น
—
กลุ่ม KTIS เปิดเผย...
กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิ 9 เดือนปี 66 โต 379%
—
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...
กลุ่ม KTIS โชว์กำไรสุทธิงวด 9 เดือนปี 66 ทำได้ 1,510 ล้านบาท โตแรง 379% ชี้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มขึ้นมาก จากคุณภาพอ้อย ราคา และยอดขายที่สูงขึ้น
—
กลุ่ม KTIS ...
KTIS โชว์กำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 66 โตกระฉูด 3,330% อยู่ที่ 482.8 ล้านบาท รายได้รวม 7,396.5 ล้านบาท เผยปริมาณการขายเติบโตในทุกสายธุรกิจ
—
กลุ่ม KTIS เปิดเผยผ...
กลุ่ม KTIS จับมือชาวไร่สู้ภัยแล้ง เร่งขุดสระ เจาะบ่อบาดาล ระดมองค์ความรู้และเทคโนโลยีเพิ่มคุณภาพอ้อยต่อเนื่อง
—
กลุ่ม KTIS จับมือเกษตรกรชาวไร่อ้อย เร่งขุด...
กลุ่ม KTIS เปิดปัจจัยบวกหนุนผลกำไรโต
—
นายประพันธ์ ศิริวิริยะกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และนายสมชาย สุวจิตตานนท์ ผู้ช่วยประธานเจ้าหน้าที่บริหาร...