Next Normal ก้าวถัดไปของ Luxury Brand ไทย กับการสร้างงานออกแบบที่มีมูลค่า และมีคุณค่าต่อโลก

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ได้ดำเนิน "โครงการส่งเสริมนักออกแบบไทยสู่ตลาดโลกปี 2566" หรือ Designers' Room / Talent Thai & Creative Studio Promotion 2กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ23 โดยมีเป้าหมายเพื่อสร้างผู้ประกอบการและนักออกแบบรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพด้านการส่งออกในทุกภูมิภาคมีโอกาสเข้าสู่การเป็นแบรนด์นักออกแบบ และมีบทบาทต่อระบบเศรษฐกิจของไทย โดยในปีนี้ได้คัดเลือกนักออกแบบจากทั่วประเทศกว่า 6กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ ราย ให้ได้รับการบ่มเพาะเสริมสร้างความรู้ด้านการสร้างแบรนด์ การจัดทำแผนธุรกิจ ครอบคลุมตั้งแต่การทำความเข้าใจลักษณะของตลาดแต่ละประเทศ พฤติกรรมผู้บริโภคเทรนด์ความยั่งยืน การตลาดดิจิทัลและการใช้สื่อออนไลน์ องค์ความรู้ที่ตอบสนองความต้องการของตลาด Megatrends และ Next Normal อาทิ กระบวนการออกแบบหมุนเวียน(Circular Design) การพัฒนาธุรกิจมุ่งสู่สังคมคาร์บอนต่ำและมุ่งสู่ความยั่งยืน (SDGs) เป็น เพื่อเพิ่มขีดความสามารถของนักออกแบบไทยรุ่นใหม่ ให้สามารถพัฒนาธุรกิจและปรับตัวตามความต้องการของตลาดต่างประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ ผ่านหลักสูตรการฝึกอบรมให้ความรู้แก่นักออกแบบ ทั้ง 2 หลักสูตร ได้แก่ ความรู้พื้นฐานของการเป็นนักออกแบบระดับสากลและค่ายบ่มเพาะนักออกแบบไทยสู่สากล โดยในแต่ละปีจะมีการจัดกิจกรรมอบรมเพิ่มพูนทักษะความรู้ที่จำเป็นอย่างรอบด้าน ซึ่งในครั้งนี้มีวิทยากรผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และการตลาดในวงการ Luxury Brand มาร่วมให้ความรู้ในหัวข้อ "Next normal for Luxury brand" เพื่อให้คำแนะนำในการปรับตัวของธุรกิจ Luxury ท่ามกลางกระแสความเปลี่ยนแปลงของโควิด-กระทรวงพาณิชย์9 เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม

Next Normal ก้าวถัดไปของ Luxury Brand ไทย กับการสร้างงานออกแบบที่มีมูลค่า และมีคุณค่าต่อโลก

คุณจิระเมศร์ สุริวงศ์วรากุล Retail Director Ferragamo (Thailand) ผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์และการตลาดในอุตสาหกรรม Luxury Brand ให้ข้อคิดกับนักออกแบบรุ่นใหม่ว่า "เมื่อใดก็ตามที่เราเริ่มจาก Passion ความสำเร็จจะอยู่ใกล้เราเสมอ แม้แต่การมาบรรยายในครั้งนี้เองก็มาจาก Passion ที่อยากให้ทุกคนเข้าใจถึงคำว่า Luxury Brand และเข้าใจว่าอะไรคือ New Normal ที่เราต้องให้ความสำคัญ หลังจากนี้ รวมทั้งการสร้าง Brand Value เพื่อพาแบรนด์ไปสู่ตลาดโลกได้อย่างภาคภูมิและมีคุณค่าต่อโลก"

หัวใจสำคัญของการเป็น Luxury Brand

การเป็น Luxury Brand จำเป็นต้องมี Exclusivity หรือความพิเศษที่แตกต่าง หายากอันเกิดได้จากรูปแบบการดีไซน์ รูปร่าง คุณภาพของวัสดุที่ใช้ ความละเอียดประณีตจากฝีมือของช่างผู้เชี่ยวชาญ ที่แสดงให้เห็นถึงความเป็นหัตถศิลป์หรือการออกแบบชั้นสูงที่ไม่สามารถเลียนแบบได้และที่สำคัญต้องสามารถตอบโจทย์ความต้องการและความสะดวกสบายของลูกค้าในการใช้งานได้

โควิด-19 กับความเปลี่ยนแปลงครั้งใหม่ที่ Luxury Brand ต้องเผชิญ

1. ผลกระทบในอุตสาหกรรม Luxury

การระบาดของโรคโควิด-19 ส่งผลให้ Luxury Brand ต้องปรับราคาสูงขึ้น เนื่องจากปัญหาการสูญเสียช่างฝีมือมีอายุเหล่านี้ไปกับโรคระบาด รวมทั้งวัตถุดิบบางอย่างที่หายากมากขึ้น

2. กลุ่มลูกค้าที่เริ่มเด็กลง

Gen Y หรือ Millennials เป็นประชากรกลุ่มใหญ่ที่มีกำลังซื้อและอำนาจการตัดสินใจสูง รวมทั้ง     Gen Z ที่ต้องการลิ้มลองประสบการณ์พิเศษใหม่ ๆ ทำให้ทั้ง 2 เจนเนอเรชั่นเป็นกลุ่มลูกค้าที่น่าจับตา นอกจากนี้ ตามผลการวิจัยของ เบน แอนด์ คอมพานี ยังระบุว่า ภายในปี 2025 ชาวจีนจะเป็นกลุ่มคนที่ซื้อสินค้า Luxury Brand มากถึง 50% และคาดว่าจะมีการจับจ่ายสินค้า Luxury Brand มากถึง 3 แสน 3 หมื่นล้านบาท

3. New Behavior ที่แบรนด์ต้องให้ความสำคัญ

เนื่องจากการลดลงของนักท่องเที่ยวในประเทศ ทำให้หลายแบรนด์พุ่งเป้าหมายมาที่คนในพื้นที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเหล่านี้ แบรนด์ต้องเข้าใจว่าพื้นที่ร้านแต่ละแห่งมีลักษณะคนเดินไม่เหมือนกัน ทำให้ Conversion Rate ต่างกันไป ดังนั้น แบรนด์จึงจำเป็นต้องมองหาแนวทางหรือกลยุทธ์ที่เหมาะสมกับแต่ละพื้นที่ ซึ่งแนวทางเกี่ยวกับเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นสิ่งที่ทุกแบรนด์สามารถนำไปใช้ทั้งในเชิงการบริการและการตลาด เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดทั้งต่อแบรนด์และลูกค้า เช่น e-commerce, Omnichannel หรือการเพิ่มช่องทางขายโดยเชื่อมโยงข้อดีของออนไลน์กับออฟไลน์ไว้ด้วยกัน, โฮมเซอร์วิส, การให้คำปรึกษาทางไกล และช่องทางการชำระเงินที่หลากหลาย

ในส่วนของการตลาดดิจิทัล แม้ปัจจุบันงบประมาณในการโฆษณาอาจลดน้อยลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสื่อสิ่งพิมพ์ เนื่องจากการขยายตัวของสื่อออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งข้อดีของสื่อออนไลน์คือ แบรนด์สามารถสร้างประสบการณ์ได้แบบไร้รอยต่อและยังเข้าถึงลูกค้าได้ง่ายขึ้นผ่านคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดียของ KOLหรืออินฟลูเอนเซอร์ รวมทั้งการยิงโฆษณาและทำ SEO

4. ความยั่งยืนต้องมาพร้อมความรับผิดชอบต่อทุกคนและโลก

ความยั่งยืนไม่ใช่แค่เรื่องของสิ่งแวดล้อม หรือทรัพยากรทางธรรมชาติเพียงอย่างเดียว แต่ต้องสร้างคุณค่าและมีความรับผิดชอบต่อทั้งโลก สวัสดิภาพสัตว์ (Animal Welfare) ความเท่าเทียมในสังคม รวมทั้งคุณภาพชีวิตของทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องในอุตสาหกรรมตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ เพราะธุรกิจของนักออกแบบทุกคนในทุกสาขา ล้วนสร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทั้งการใช้สารเคมีและการใช้ทรัพยากรธรรมชาติจากสัตว์และสิ่งแวดล้อม

อยากพาแบรนด์ไปตลาดโลก องค์ประกอบพื้นฐานต้องแข็งแรง

การสร้างแบรนด์สู่ตลาดโลก จำเป็นต้องมีพื้นฐานและแนวทางที่ชัดเจนแข็งแรง ซึ่งเกิดจากองค์ประกอบ ดังนี้

1. รู้จักแบรนด์และตัวเองอย่างลึกซึ้งทุกมิติ การสร้างแบรนด์ต้องมีเป้าหมายและจุดยืนที่ชัดเจนเพื่อนำไปสร้างเป็น Brand Personality ที่มีคาแรคเตอร์แตกต่างเป็นของตัวเอง รวมทั้งสามารถนำไปประเมินแนวทางหรือวิธีการดำเนินงานที่เหมาะสมกับตัวเอง นอกจากนี้ การมีองค์ประกอบพื้นฐานของแบรนด์ที่แข็งแรงทั้ง Brand Essences, Brand Personality, Brand Identity, Brand Perception และ Brand Storytelling ยังสามารถนำไปต่อยอดเป็นความร่วมมือระหว่างแบรนด์ หรือ Co-Branding เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างประสบการณ์ที่แปลกใหม่

2. รู้ว่าลูกค้าคือใครและชอบอะไร การทำความรู้จักกลุ่มลูกค้าอาจทำได้โดยการสำรวจหรือแบบประเมินความพึงพอใจ สำหรับเก็บเป็นข้อมูลทางด้านประชากรศาสตร์ (Demography) และทางด้านจิตวิทยา (Psychology) เพื่อนำไปออกแบบการบริการและผลงานให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้า

3. เรียนรู้จากคู่แข่ง ทั้งจากความสำเร็จและสิ่งที่ผิดพลาด เพื่อเป็นตัวอย่างให้แบรนด์สามารถนำไปปรับใช้ โดยสามารถวิเคราะห์คู่แข่งผ่าน SWOT Analysis

นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก คุณธเธียร อนุจรพันธ์ Head of Thailand Business Development & Strategic Partnerships Amazon.com มาเสริมทัพความรู้ให้กับนักออกแบบรุ่นใหม่เกี่ยวกับช่องทางการค้าในรูปแบบ E-Commerce และข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศโดยผู้แทนจากหน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ ในหัวข้อต่างๆ เช่น ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญาสำหรับแบรนด์นักออกแบบรุ่นใหม่, กิจกรรมและงานแสดงสินค้าของสำนักส่งเสริมการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์, โครงการ SMEs Pro-active โอกาสสู่ตลาดโลก, แนะนำสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่และหลักสูตรการเรียนรู้เพื่อพัฒนาธุรกิจสู่สากล และกิจกรรมส่งเสริมการค้าในรูปแบบออนไลน์จาก Thaitrade.com เป็นต้น โดยวิทยากรชั้นนำจากกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศมาร่วมให้ความรู้ พร้อมแนะนำกิจกรรมและโครงการดีๆ เพื่อนักออกแบบรุ่นใหม่อย่างคับคั่ง

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถติดตามและสอบถามข้อมูลของโครงการเพิ่มเติมได้ที่ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ www.ditp.go.th สายด่วนการค้าระหว่างประเทศ โทร 1169 หรือผ่านทาง Facebook page : Talent Thai & Designers' Room


ข่าวกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ+การค้าระหว่างประเทศวันนี้

DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที "THAIFEX - ANUGA ASIA 2025"

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย และโคโลญเมสเซ่ เยอรมนี จัดประชุมผู้ประกอบการที่เข้าร่วมจัดแสดงสินค้าในงาน THAIFEX ANUGA ASIA 2025 โดยเป็นการชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวกับภาพรวมการจัดงาน การเข้าร่วมงาน การก่อสร้าง การตกแต่งคูหา การจราจร ระเบียบข้อบังคับการเข้าร่วมงาน รวมถึงมาตรการรับมือภัยพิบัติ เพื่อให้เกิดความเรียบร้อยในช่วงระหว่างการ เตรียมงานและพร้อมต้อนรับการเข้าชมงานในปีนี้ งาน THAIFEX ANUGA ASIA 2025 เป็นงานแสดงสินค้าอาหารและเครื่องดื่มที่ยิ่งใหญ่ ครบวงจร

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัด... "พาณิชย์" จัดงาน Thai Night ส่งเสริมภาพยนตร์-บันเทิงไทยสู่สายตาชาวโลก — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) จัดงาน Hong Kong Thai Night 2025 งานสร้างเคร...

สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่... สสว. จัดงาน "ปลดล็อคความสำเร็จ SME" ปี 2568 — สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) จะจัดงานเผยแพร่นโยบาย/โครงการ ภายใต้แผนปฏิบัติการส่ง...