สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ (NEA) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) อัปเดตเทรนด์การค้า ข้อมูลและกลยุทธ์แบบวิเคราะห์เจาะลึก 3 ตลาดการค้าระดับโลก "ออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์-แอฟริกา-รัสเซีย" ผ่านเสวนาออนไลน์ "NEA BizTalk : ก้าวทันการค้าโลก" พร้อมเดินหน้าต่ออีก 3 ตลาด "ยุโรปกลาง-ยุโรปตะวันตก/อังกฤษ-อเมริกาเหนือและเม็กซิโก" ในเดือนมีนาคม - เมษายน 2566 เพื่อยกระดับองค์ความรู้ เตรียมความพร้อมผู้ประกอบการไทยก้าวทันการค้าโลก ต่อยอดขยายโอกาสส่งออกในยุคการค้าใหม่
นางภาวินี รวยรื่น ผู้อำนวยสถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ หรือ สถาบัน NEA กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในปี 2566 สถาบัน NEA ได้ต่อยอดจัดงานเสวนาออนไลน์ "NEA BizTalk : ก้าวทันการค้าโลก" ภายใต้โครงการ "เจาะลึกตลาดต่างประเทศในยุคการค้าใหม่ ประจำปี 2566" ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 ตามนโยบายของท่านรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ท่านจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ที่มุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพ ยกระดับองค์ความรู้ และเตรียมความพร้อมให้กับผู้ประกอบการไทย เพื่อต่อยอดโอกาสทางการค้าไปยังเวทีการค้าในระดับสากล จำนวน 6 ตลาดการค้า ได้แก่ ตลาดออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ตลาดแอฟริกา ตลาดรัสเซีย ตลาดยุโรปกลาง ตลาดยุโรปตะวันตก/อังกฤษ และตลาดอเมริกาเหนือและเม็กซิโก ซึ่งเป็นตลาดที่การส่งออกมีอัตราขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยวิทยากรผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทรงคุณวุฒิทั้งจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนมาให้ข้อมูลแบบวิเคราะห์เจาะลึก ตั้งแต่เดือนมกราคม-เมษายน 2566 โดยในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา (ม.ค.-ก.พ.) สถาบัน NEA ได้จัดงานเสวนาออนไลน์ NEA BizTalk ไปแล้ว 3 ครั้ง 3 ตลาด ได้แก่ ตลาดออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ตลาดแอฟริกา และตลาดรัสเซีย ซึ่งได้กระแสตอบรับที่ดีจากผู้ประกอบการและผู้สนใจเป็นจำนวนมาก
โดยในส่วนของตลาดออสเตรเลีย/นิวซีแลนด์ ถือเป็นตลาดส่งออกสำคัญอันดับต้น ๆ ในภูมิภาคโอเชียเนียและเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ในปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) การส่งออกไทย-ออสเตรเลีย มีมูลค่า 10,224 ล้านเหรียญสหรัฐ ส่วนการส่งออกไทย-นิวซีแลนด์ มีมูลค่า 1,629 ล้านเหรียญสหรัฐ แม้ว่าทั้งสองประเทศจะมีจำนวนประชากรไม่มาก แต่เป็นประเทศที่ประชากรมีรายได้สูงและมีกำลังซื้อสูง ผู้บริโภคมีความต้องการสินค้าที่หลากหลาย อีกทั้งยังเป็นตลาดที่ยังมีโอกาสในการเจาะตลาดได้อีกมาก โดยเฉพาะสินค้าที่คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียน เน้นเรื่องการประหยัดพลังงาน สินค้าที่มีความแตกต่างและมีอัตลักษณ์ รวมถึงสินค้าอาหารที่ยังมีโอกาสในการเข้าไปเจาะตลาด ซึ่งสิ่งสำคัญคือ ผู้ประกอบการต้องศึกษากฎระเบียบทางการค้าและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ในขณะเดียวกันตลาดแอฟริกา ก็เป็นตลาดที่มีขนาดใหญ่ ประกอบด้วยประเทศที่น่าสนใจทางด้านเศรษฐกิจ อาทิ แอฟริกาใต้ ไนจีเรีย และเคนยา โดยที่ผ่านมาการค้าระหว่างไทยและแอฟริกามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง และประเทศไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ามาโดยตลอด ในปี 2565 (ม.ค.-พ.ย.) ไทยส่งออกไปตลาดแอฟริกา มูลค่า 6,062 ล้านเหรียญสหรัฐ แอฟริกา เป็นทวีปที่มีประชากรอาศัยอยู่กว่า 1,200 ล้านคน มากเป็นอันดับ 2 รองจากทวีปเอเชีย และมีพื้นที่เศรษฐกิจที่สำคัญ ผู้บริโภคยังมีความต้องการสินค้าที่มากขึ้นและหลากหลาย โดยเฉพาะสินค้าทางด้านเกษตร สินค้าอุปโภคบริโภคต่าง ๆ ซึ่งถือเป็นโอกาสสำคัญของผู้ประกอบการไทยที่ไม่ควรมองข้าม นอกจากนี้ รัฐบาลของประเทศในทวีปแอฟริกายังมีนโยบายสนับสนุนให้นักลงทุนต่างชาติเข้าไปร่วมลงทุนอีกด้วย
ด้านตลาดรัสเซีย เป็นตลาดขนาดใหญ่ และยังมีความชื่นชอบและเชื่อมั่นในสินค้าไทย สินค้าส่งออกหลัก ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องจักรกล เม็ดพลาสติก ผลไม้กระป๋องและแปรรูป ส่วนสินค้าศักยภาพใหม่ ได้แก่ อาหารสัตว์เลี้ยงพรีเมียม รองเท้า/เสื้อผ้ากีฬา และคอนเทนต์บันเทิง ชาวรัสเซียมีความเชื่อมั่นและนิยมใช้สินค้าไทยเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ดังนั้นสิ่งสำคัญในการเข้าสู่ตลาดรัสเซียคือ ผู้ประกอบการไทยต้องทราบถึงสถานการณ์การตลาดและศึกษาข้อมูลอย่างละเอียด เพื่อสร้างโอกาสทางการตลาดใหม่ ๆ
สำหรับผู้สนใจสามารถเข้าชมงานเสวนาออนไลน์ "NEA BizTalk : ก้าวทันการค้าโลก" ภายใต้โครงการ "เจาะลึกตลาดต่างประเทศในยุคการค้าใหม่ ประจำปี 2566" ครั้งที่ 4 ตลาดยุโรปกลาง ที่จัดวันที่ 3 มีนาคม 2566 ย้อนหลังได้ที่ Facebook : สถาบันพัฒนาผู้ประกอบการการค้ายุคใหม่ และ Youtube : NEA DITP
พร้อมลงทะเบียนล่วงหน้า เพื่อเข้าร่วมงานเสวนา ครั้งที่ 5 ตลาดยุโรปตะวันตก/อังกฤษ วันที่ 17 มีนาคม 2566 และ ครั้งที่ 6 ตลาดอเมริกาเหนือและเม็กซิโก วันที่ 5 เมษายน 2566 โดยผู้สนใจสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมงานผ่านระบบ Zoom ฟรี! ได้ที่ https://drive.ditp.go.th/ หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม โทร. 095-923-0638
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit