หัวเว่ย จัดงานสัมมนาภายใต้หัวข้อ "การมาถึงของ 5.5G" ภายในงานมหกรรม Mobile World Congress (MWC) 2บาร์เซโลน่า23 ในเมืองบาร์เซโลน่า โดยหัวเว่ยได้เรียกร้องให้เหล่าพันธมิตรในอุตสาหกรรม ร่วมกันผลักดันมาตรฐานกลาง และพัฒนา 5.5G สำหรับการใช้งานในเชิงพาณิชย์อย่างจริงจัง เพื่อก้าวสู่โลกอัจฉริยะไปพร้อมกัน
นายหยาง เชาปิน รองประธานอาวุโสและประธานกลุ่มผลิตภัณฑ์และโซลูชันไอซีทีของหัวเว่ย ได้อธิบายถึงความจำเป็นในเรื่องนี้ว่า "การเติบโตอย่างรวดเร็วของ 5G นำไปสู่ความต้องการบริการในรูปแบบใหม่ ที่ไม่เพียงแตกต่างจากเดิมแต่ยังมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น ซึ่งจำเป็นต้องใช้ศักยภาพของ 5G ที่เหนือระดับขึ้นไปอีกขั้น ซึ่งเทคโนโลยี 5.5G ถือเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการพัฒนา 5G โดยอุตสาหกรรมเองก็มีความเห็นพ้องต้องกันในเรื่องนี้และกำลังดำเนินการไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบัน อุตสาหกรรมไอซีทีได้จัดทำแผนปฏิบัติการสำหรับมาตรฐาน 5G-Advanced (5.5G), F5G-Advanced (F5.5G), และ Net5.5G พร้อมทั้งกำหนดกลยุทธ์ในการใช้คลื่นความถี่อย่างชัดเจน มีการตรวจสอบเทคโนโลยีและแอปพลิเคชันหลักในการดำเนินการ ซึ่งการสร้างมาตรฐานเดียวกันให้เกิดขึ้นในอุตสาหกรรมเช่นนี้ได้นำไปสู่แนวปฏิบัติที่ดีที่สุด และด้วยการพัฒนาต่างๆ เหล่านี้เอง ที่เป็นตัวเร่งการเติบโตของ 5.5G ให้สามารถพัฒนาประสิทธิภาพของเครือข่ายได้มากขึ้นถึง 10 เท่าสำหรับภาคอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ต้องการยกระดับผลิตผลด้านดิจิทัลให้ดียิ่งขึ้น"
5.5G กลายเป็นเทรนด์ร่วมกันอย่างชัดเจนสำหรับอุตสาหกรรม
นายหยาง อธิบายเพิ่มเติมว่า ในขณะที่เทคโนโลยี 6G ยังอยู่ในช่วงต้นของการวิจัย 5.5G คือสิ่งจำเป็นและเป็นขั้นตอนต่อไปของการพัฒนา 5G ซึ่งอุตสาหกรรมในภาพรวมต่างก็เห็นด้วยและจริงจังกับแนวคิดนี้ ทั้งนี้ เขามองว่าอุตสาหกรรมจะต้องร่วมมือกันเพื่อสนับสนุนการพัฒนาของ 5.5G ใน 4 ด้านดังต่อไปนี้
เมื่อเทคโนโลยีหลักพัฒนาจนถึงขีดสุด และแอปพลิเคชันทั้งหมดได้รับการรับรอง ยุค 5.5G จึงอยู่ไม่ไกลเกินเอื้อม
นายหยางเปิดเผยว่าจากความพยายามร่วมกันของอุตสาหกรรม นำมาสู่การพัฒนานวัตกรรมของเทคโนโลยีสำคัญมากมาย โดยปัจจุบันมีผู้ให้บริการโครงข่ายหลายรายทั่วโลกที่ประสบความสำเร็จในการตรวจสอบรับรองเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Extremely Large Antenna Array (ELAA) และ Multi-band Serving Cell (MBSC) ส่งผลให้แนวคิดความเร็ว 10 Gbps เป็นไปได้จริงสำหรับ 5.5G
ทั้งนี้ การที่สหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU-T) ให้การยอมรับเทคโนโลยี 50G PON ว่าเป็นเครือข่ายเชิงแสงแบบพาสซีฟเจนเนอเรชันใหม่ และการพัฒนาขีดสุดของเทคโนโลยี เช่น ระบบสมมาตรสัญญาณ uplink และ downlink และระบบ multi-band in one ล้วนปูทางไปสู่วิวัฒนาการของ F5.5G เช่นกัน
นอกจากนี้ การพัฒนา 5.5G และ F5.5G ยังจะนำไปสู่การยกระดับนวัตกรรมแบบ IP-based ที่จะต่อยอดไปสู่ยุค Net5.5G และในยุคนี้เราจะได้เห็นการพัฒนาอย่างต่อเนื่องของ 800GE ultra-broadband, E2E IPv6+ ระบบอัจฉริยะ ด้านความปลอดภัย และในด้านค่าความหน่วง (latency) นำมาซึ่งศักยภาพ โอกาส และผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ ที่จะสร้างการเติบโตให้กับผู้ให้บริการโครงข่ายยิ่งขึ้น.
ปัจจุบัน 5G ได้เติบโตอย่างรวดเร็วหลังจากมีการนำมาใช้งานในเชิงพาณิชย์ได้ 3 ปี ในช่วงสิ้นปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา มียอดผู้ใช้งาน 5G ทั่วโลกเกิน 1,000 ล้านคน ขณะที่ผู้ใช้งานบอร์ดแบนด์ระดับกิกะบิตทะลุ 100 ล้านคน และมีการใช้งานแอปพลิเคชัน 5G ในภาคอุตสาหกรรมต่าง ๆ มากกว่า 20,000 แอปพลิเคชัน บริการแบบ immersive รูปแบบใหม่ ๆ เช่น XR และโฮโลกราฟิกกำลังเติบโตอย่างเต็มที่ และประสบการณ์การเชื่อมต่อกำลังพัฒนาจากระดับ 1 กิกะบิตเป็น 10 กิกะบิต เทรนด์การเติบโตของแอปพลิเคชัน IoT เป็นไปอย่างรวดเร็วจนเห็นได้ชัด ตัวอย่างเช่น ในปี พ.ศ. 2565 ที่ผ่านมา การเชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ในประเทศจีนมีจำนวนมากกว่าประชากรในประเทศแล้ว การเปลี่ยนผ่านสู่เทคโนโลยีดิจิทัลยังขยายไปสู่ระบบการผลิตหลัก นำมาซึ่งความต้องการใช้งานที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ตัวอย่างเช่น สัญญาณ uplink แบบ 1 กิกะบิตมีความจำเป็นอย่างมาก ต่อการรองรับการพัฒนาระบบตรวจสอบระยะไกลด้วย AI ที่มีความแม่นยำสูงในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ ระบบขับขี่อัตโนมัติ และบริการอื่น ๆ ที่ต้องบูรณาการ 5G คลาวด์ และ AI ร่วมกันในการดำเนินงาน
งานมหกรรม MWC Barcelona 2023 จัดขึ้นระหว่างวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ถึง 2 มีนาคม พ.ศ. 2566 ในเมืองบาร์เซโลน่า ประเทศสเปน โดยหัวเว่ยเข้าร่วมจัดแสดงผลิตภัณฑ์และโซลูชันต่าง ๆ ในบูท 1H50 ในอาคาร Fira Gran Via Hall 1 ภายในงานหัวเว่ยยังได้จัดปาฐกถาร่วมกับผู้ประกอบการโครงข่ายชั้นนำของโลก ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรม และผู้นำทางความคิด ในหัวข้อต่าง ๆ อาทิ ความสำเร็จของธุรกิจ 5G โอกาสในการผลักดัน 5.5G การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การเปลี่ยนผ่านทางดิจิทัล และวิสัยทัศน์ของหัวเว่ยในการขับเคลื่อนต้นแบบทางธุรกิจ GUIDE เพื่อวางรากฐานให้กับ 5.5G และการต่อยอดความสำเร็จของ 5G ที่ดียิ่งขึ้น
สามารถอ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ https://carrier.huawei.com/en/events/mwc2023
อาร์เอ็กซ์ เทรดเด็กซ์ เตรียมจัดสัมมนาเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลัก ได้แก่ พลาสติก-AI-โรงงาน เพื่ออัปเดตเทรนด์สำคัญท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วของภาคอุตสาหกรรม ผ่าน 3 เวทีสัมมนาที่เน้นเนื้อหาเข้มข้น ครอบคลุมประเด็นสำคัญที่ผู้ประกอบการต้องรู้ วันที่ 29 เมษายน 2568 เวลา 13.30-16.30 น. ณ ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค โดยคาดว่าจะเป็นเวทีสำคัญในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และแนวโน้มการพัฒนาอุตสาหกรรมในอนาคต Plastic Forum "พลิกเกมพลาสติก พลิกธุรกิจสู่ความยั่งยืน"
ดีป้า เผยดัชนีความเชื่อมั่นอุตสาหกรรมดิจิทัล Q1/68 ฟื้นสู่ระดับ 'เชื่อมั่น' หลังได้รับอานิสงส์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ และปัจจัยบวกอื่น
—
ดีป้า เผยผลสำรว...
SUBCON Thailand 2025 เปิดเวทีงานแสดงชิ้นส่วนอุตสาหกรรมและจับคู่ธุรกิจ โดย BOI พร้อมพันธมิตรครบทุกภาพส่วน เสริมแกร่งภาคอุตสาหกรรมการผลิต
—
บีโอไอ ผนึกกำลัง...
กลุ่มบริษัทบางจากยืนยันความพร้อม การดำเนินงานผลิตน้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานยั่งยืน (SAF)
—
กลุ่มบริษัทบางจากยืนยันความพร้อมในการดำเนินงานโครงการผลิตน้ำมันเช...
SVI ประเมิน 'ทรัมป์' ขึ้นกำแพงภาษีคู่ค้ากระทบบริษัทฯ ไม่มาก
—
SVI ประเมิน 'ทรัมป์' ขึ้นกำแพงภาษีคู่ค้ากระทบบริษัทฯ ไม่มาก หลังตั้งฐานผลิตแห่งใหม่ที่สหรัฐอ...
TCMA ร่วม Thailand CCUS สู่เป้าหมาย Net Zero 2050
—
นายนภดล รมยะรูป อุปนายกสมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (Thai Cement Manufacturers Association: TCMA) ร...
PSP ปิดดีลทุ่ม 409.5 ลบ. ถือหุ้นใน รีไซเคิล เอ็นจิเนียริ่ง (RE) ปักหมุดธุรกิจสู่ศูนย์กลางรีไซเคิลสารเคมีแห่งภูมิภาค พลิกเกมอุตสาหกรรม
—
บริษัท พี.เอส.พี. ...
AIT จับมือ กรมประมง วิจัยและพัฒนาการเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำควบคู่กับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
—
สถาบันเทคโนโลยีแห่งเอเชีย (AIT) ร่วมกับ กรมประมง สังกั...
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค จับมือ ยูนิเวอร์แซล ยูทีลิตี้ส์ ร่วมพัฒนาขีดความสามารถการบริหารจัดการน้ำ
—
ชไนเดอร์ อิเล็คทริค ผู้นำด้านดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่นในการจั...