ผลจากความสำเร็จในการอบรมพื้นฐานทางการเงินให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าตลอด 6 ปี ผ่านโครงการ ตังค์โต Know-how ปีนี้ มูลนิธิไทยเครดิต ร่วมกับ คณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ต่อยอดพัฒนาหลักสูตรความรู้และทักษะทางการเงินเชิงลึกสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย "เตรียมตัวธุรกิจและการเงิน สำหรับผู้ประกอบการรายย่อย" หนุนธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน พร้อมทั้งหลักสูตร "ความรู้ทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน" สร้างเส้นทางวางแผนการเงินส่วนบุคคลสู่ความมั่นคงในวัยเกษียณ
มร. รอยย์ ออกุสตินัส กุนารา รองประธานมูลนิธิไทยเครดิต เปิดเผยว่า ทั้งสองหลักสูตรใหม่นี้ได้ผ่านการรับรองมาตรฐานจากคณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งมูลนิธิฯ ได้สร้างสรรค์หลักสูตรทางการเงินขั้นสูงต่อยอดจากขั้นพื้นฐาน ให้เป็นหลักสูตรเชิงลึกที่มีเนื้อหาเข้มข้น ครอบคลุมทุกความต้องการของผู้ประกอบการ และมีเครื่องมือที่สามารถนำไปปรับใช้ในการเพิ่มศักยภาพของธุรกิจให้เติบโตได้อย่างมั่นคง ทั้งนี้ มูลนิธิไทยเครดิต มุ่งเน้นกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่เคยผ่านการอบรมในหลักสูตรตังค์โต Know-how ขั้นพื้นฐานมาแล้ว รวมถึงกลุ่มผู้ประกอบการรายย่อยที่มีความพร้อม และมีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนในอนาคต โดยจะจัดอบรมกลุ่มนำร่องจำนวน 500 คน ในรูปแบบการลงพื้นที่
สำหรับหลักสูตร "ความรู้ทางการเงินสำหรับมนุษย์เงินเดือน" ถูกออกแบบเพื่อเสริมสร้างความมั่นคงทางการเงินไปจนถึงหลังเกษียณ ซึ่งจะเปิดกว้างให้กับทุกกลุ่มเป้าหมายของมนุษย์เงินเดือน หรือผู้มีรายได้ประจำ ทั้งในภาครัฐและภาคเอกชน โดยหลักสูตรจะกำหนดเส้นทางการวางแผนการเงินส่วนบุคคล ได้แก่ การสำรวจเป้าหมายทางการเงิน ข้อมูลฐานะการเงินทั้งทรัพย์สินและหนี้สิน การบริหารค่าใช้จ่าย การจัดการหนี้ การออม การคำนวณภาษี และการจัดการความเสี่ยงทางการเงิน
มร. รอยย์ กล่าวอีกว่า นอกจากบุคคลแล้ว องค์กรที่เล็งเห็นความสำคัญในการให้ความรู้และทักษะทางการเงินแก่บุคลากรขององค์กร สามารถติดต่อมายัง ศูนย์ลูกค้าสัมพันธ์ โทร. 02-697-5454 ซึ่งมูลนิธิฯ จะลงพื้นที่จัดฝึกอบรม ณ หน่วยงานที่แจ้งความประสงค์ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น นอกจากนี้ มูลนิธิฯ ยังจัดให้มีการฝึกอบรมผ่านเฟซบุ๊ค "ตังค์โต Know-how" ในรูปแบบไลฟ์สดเดือนละ 2 ครั้ง ทุกวันพฤหัสบดี ที่ 2 และ 4 ของทุกเดือน ซึ่งผู้เข้าอบรมสามารถพูดคุยกับวิทยากรได้แบบเรียลไทม์
ด้านผู้ช่วยศาสตราจารย์ลินดา พัฒนวิทยากุล อาจารย์ประจำคณะบัญชี มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ในฐานะประธานที่ปรึกษาโครงการรับรองมาตรฐานหลักสูตรความรู้ทางการเงินในโครงการ "ตังค์โต Know-how" กล่าวเพิ่มเติมว่า หลักสูตรความรู้และทักษะทางการเงินสำหรับผู้ประกอบการรายย่อยขั้นสูง จะเน้นเรื่องทำธุรกิจอย่างไรให้ประสบความสำเร็จ โดยมุ่งเน้นติดอาวุธสำคัญ 4 ด้าน คือ
ด้านการตลาด ชี้ให้เห็นถึงจุดอ่อนจุดแข็ง อุปสรรคและโอกาสทางธุรกิจ ช่องทางการขายที่จะทำให้มีรายได้เพิ่ม การพัฒนาคุณภาพผลิตภัณฑ์ เพิ่มความหลากหลายของผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มยอดขายและมีกำไรสูงขึ้น
ด้านการเงิน สอนการคำนวณต้นทุนธุรกิจ และบริหารเงินทุนหมุนเวียน ซึ่งพ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่มักจะลืมคิดค่าแรงของตัวเองซึ่งเป็นต้นทุนแฝง ทำให้ไม่สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง ส่งผลต่อการกำหนดจุดคุ้นทุนและกำไรไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ยังเป็นการสอนให้เตรียมตัวที่จะเติบโตต่อไปในอนาคต เรียนรู้การวางแผนขยายธุรกิจ และแนวทางการขอสินเชื่อเพื่อการลงทุนเพิ่มขึ้น
ด้านบัญชี ต้องมีการทำบัญชีรายวัน จัดเก็บเอกสารหลักฐานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เห็นข้อมูลรายรับ-รายจ่าย ได้อย่างชัดเจน เพราะไม่ใช่แค่เรื่องกำไรขาดทุน แต่จะทำให้ผู้ประกอบการตรวจสอบได้ว่า มีค่าใช้จ่ายส่วนไหนที่มากเกินไปหรือไม่ จะสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายอะไรได้อีก และจะใช้วิธีไหนเพื่อช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น
ด้านภาษี จะสอนการคำนวณภาษีสำหรับผู้ประกอบการ รวมถึงให้ความรู้ที่จะทำให้ได้สิทธิประโยชน์ทางภาษี ทั้งภาษีมูลค่าเพิ่ม และภาษีบุคคลธรรมดา
ส่วนหลักสูตรสำหรับมนุษย์เงินเดือน จะช่วยวางแผนการเงินตั้งแต่เริ่มทำงานใหม่ๆ ไปจนถึงเกษียณ เช่น การตั้งเป้าหมายทางการเงินให้เพียงพอไปตลอดชีวิต การออมซึ่งรวมถึงเงินสำรองฉุกเฉินเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นได้ การทำงบรายรับรายจ่ายล่วงหน้า และการประเมินความเสี่ยงทางการเงิน เป็นต้น
โดยทั้งสองหลักสูตรได้ผ่านการพิจารณาและกลั่นกรองเป็นอย่างดีจากคณะทำงานที่ประกอบด้วยคณาจารย์จากคณะบัญชี เศรษฐศาสตร์ บริหารธุรกิจ โลจิสติกและโซ่อุปทานแบบลีน รวมถึงผู้เชี่ยวชาญด้านภาษี TaxBugnoms จึงมั่นใจได้ว่าเป็นหลักสูตรที่มีประสิทธิภาพในทุกมิติ
"ภายใต้ปรัชญา Everyone Matters ทุกคนคือคนสำคัญ มูลนิธิฯ จึงมุ่งมั่นที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต และ EMpower เสริมสร้างพลังแกร่ง ให้แก่ผู้ประกอบการรายย่อย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ผู้ที่ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งความรู้ทางการเงินให้มีภูมิต้านทานทางการเงิน เพื่อนำพาธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน" มร. รอยย์ กล่าวปิดท้าย
EV Station PluZ ฉลองเปิดบริการครบ 1,000 แห่ง พร้อมเปิดตัว Ultra Fast Charge นวัตกรรมการชาร์จเร็ว ด้วยกำลังไฟแรงสูงสุด 480 kW และรองรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้พร้อมกันถึง 6 คัน โดยมี คุณพิมาน พูลศรี รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านธุรกิจค้าปลีกน้ำมัน บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) (OR) และพันธมิตร ร่วมเปิดให้บริการสถานีชาร์จ ณ พีทีที สเตชั่น สาขาวิภาวดี (สวัสดิการ ร.1 รอ. ตรงข้ามมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย) คุณพิมาน เปิดเผยว่า EV Station PluZ มุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายสถานีชาร์จ
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย แถลงผลสำรวจการใช้จ่ายช่วงเทศกาลสงกรานต์ปี 2568
—
ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ ม.หอการค้าไทย เผยผลสำร...
ม.หอการค้าไทย ร่วมลงนามความร่วมมือกับ สถาบันอุดมศึกษาตามแนวทาง CWIE+EEC Model Type A
—
รองศาสตราจารย์ ดร.ธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ...
ยูบิลลี่ ไดมอนด์ คว้ารางวัลใหญ่ 'Thailand Top Company Awards 2025' ตอกย้ำความเป็นผู้นำด้าน Customer Focus
—
บริษัท ยูบิลลี่ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) น...
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัดปฐมนิเทศหลักสูตรผู้บริหารระดับสูงด้านการค้าและการพาณิชย์ รุ่นที่ 17 หรือ TEPCoT 17
—
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดย ศูนย์บริการวิชาก...
กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จับมือสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ร่วมลงนาม MOU โครงการ Family Business Thailand
—
4 เสาหลักอง...
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ลงนามความร่วมมือกับ บริษัท โตโยต้า ออโต้ บอดี้ ประเทศไทย จำกัด
—
มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย โดยบัณฑิตวิทยาลัย จัดพิธีลงนามบันทึกข้อตกลง...
สถาบันวิทยาการเศรษฐกิจหมุนเวียนเพื่อผู้ประกอบการและผู้บริโภค มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย จัด CFO Workshop การประเมินคาร์บอนฟุตพรินต์องค์กร
—
รองศาสตราจารย์ ดร....
5.0 Empowering Business Through Ai by Ai UTCC งาน Ai แห่งปีที่ไม่ควรพลาด! 13 มีนาคมนี้
—
ประกาศความเป็นผู้นำด้าน Ai กับ Opening Speech โดย รศ. ดร. ธนวรรธน...