โบรกเกอร์เคาะราคาเป้าหมาย TEGH สูงสุด 8 บาท คาดกำไรปกติ 3 ปีโตเฉลี่ยร้อยละ 18 แนวโน้มรายได้เป็นขาขึ้น ประเมินรูปแบบธุรกิจ ESG หนุนเติบโตระยะยาว

4 กูรูหุ้น บล.กสิกรไทย, บล.ทรีนีตี้, บล.หยวนต้า และบล.เอเซียพลัส ประเมินราคาเป้าหมายหุ้น TEGH อยู่ที่ระหว่าง 6.90 - 8 บาท บล.กสิกรไทยคาดกำไรปกติจะมี CAGR สูงถึงร้อยละ 18 ระหว่างปี 2562 - 2567 ทั้งนี้ ประเมินรายได้แนวโน้มเป็นขาขึ้น แตะระดับ 20,000 ล้านบาทในปี 2567 ขณะที่การดำเนินธุรกิจรูปแบบ ESG ช่วยหนุนการเติบโตระยะยาว ได้รับแรงหนุนจากผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่สนใจซื้อวัตถุดิบยั่งยืนมากขึ้น ระบุการเน้นผลิตสินค้าเป็นมิตรสิ่งแวดล้อมตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดี

โบรกเกอร์เคาะราคาเป้าหมาย TEGH สูงสุด 8 บาท คาดกำไรปกติ 3 ปีโตเฉลี่ยร้อยละ 18 แนวโน้มรายได้เป็นขาขึ้น ประเมินรูปแบบธุรกิจ ESG หนุนเติบโตระยะยาว

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ("บริษัทฯ") หรือ TEGH เป็น holding company ที่ดำเนินธุรกิจ 3 ประเภทหลัก ได้แก่ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ ธุรกิจผลิตและจำหน่ายน้ำมันปาล์มดิบ และธุรกิจพลังงานทดแทนและบริหารจัดการกากอินทรีย์ (OWM) กลุ่มบริษัทฯ เป็นซัพพลายเออร์ให้กับผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่ทั่วโลก และบริษัทฯ ตั้งเป้าเพิ่มทุนเพื่อสนับสนุนการขยายกำลังการผลิจและและปรับปรุงประสิทธิภาพในการดำเนินงานของกลุ่มบริษัทฯ ชำระคืนเงินกู้ยืมจากสถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน

ฝ่ายวิจัยของ บล.กสิกรไทย ได้ประเมินราคาเป้าหมายกลางปี 2566 อยู่ในกรอบ 7.2 - 8.0 บาท/หุ้น อิงจากวิธี PER และวิธี DCF โดยเชื่อว่าแนวโน้มอุตสาหกรรมยางพาราสดใส เชื่อว่าอุปสงค์ยางพาราจะเติบโตขึ้นตาม Real GDP ของโลกที่อยู่ที่ราว ร้อยละ 3.6 ในปี 2565 คาดว่าอุปสงค์จากจีนจะฟื้นตัวขึ้นหลังผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ ขณะที่คาดว่าการผลิตรถยนต์ทั่วโลกจะปรับเพิ่มขึ้นในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ จากห่วงโซ่อุปทานที่หยุดชะงักน้อยลง การเปลี่ยนถ่ายไปยัง EV คาดจะเกิดเร็วขึ้น จากราคาน้ำมันที่อยู่ระดับสูง และความพยายามของรัฐบาลทั่วโลกที่สนับสนุนพลังงานสะอาด ซึ่งจะส่งผลให้เกิดอุปสงค์เพิ่มเติมสำหรับยางธรรมชาติ รวมถึงปัญหาอุปทานขาดแคลนในอินโดนีเซียคาดจะส่งผลบวกต่อผู้ผลิตยางในประเทศไทยทั้งหมด

ฝ่ายวิจัย ของ บล.กสิกรไทย คาดว่ายอดขายยางของกลุ่มบริษัทฯ จะมีอัตราเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ ร้อยละ 16 ระหว่างปี 2565 - 2567 หนุนจากอุปสงค์ยางพาราไทยที่เพิ่มขึ้น และการขยายกำลังการผลิต คาดว่าราคายางพาราจะปรับเพิ่มขึ้นจากอุปสงค์ที่ฟื้นตัวขึ้นและอุปทานที่ลดลง นอกจากนี้ ยังคาดว่าเงินบาทที่อ่อนแอจะส่งผลบวกต่อกลุ่มบริษัทฯ เนื่องจากครึ่งหนึ่งของยอดขายมาจากการส่งออก จึงคาดว่ากำไรปกติจะมี CAGR ที่ ร้อยละ 18 ระหว่างปี 2565 - 2567 หนุนจากรายได้ที่มีแนวโน้มขาขึ้นซึ่งคาดว่าจะไปถึง 2 หมื่นล้านบาท ในปี 2567 ส่วนต่างราคาระหว่างยางธรรมชาติและวัตถุดิบคาดว่าจะยังอยู่ในระดับสูง ขณะที่คาดความประหยัดต่อขนาดจะดีขึ้นจากต้นทุนคงที่ที่คาดเพิ่มขึ้นในอัตราที่ช้าลง และคาดว่าอัตราส่วนสภาพคล่องจะเพิ่มขึ้นจาก 1.0 เท่า ในปี 2564 มาอยู่ที่ 1.3 เท่า ในปี 2565 ขณะที่คาดว่าสัดส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (D/E ratio) จะลดลงจาก 2.1 เท่า ในปี 2564 มาอยู่ที่ 1.1 เท่า ในปี 2565 หลังได้รับเงินทุนจาก IPO

ตลอดจนการดำเนินธุรกิจแบบ ESG จะมุ่งเน้นไปยังการเพิ่มการเติบโตในระยะยาว เชื่อว่ากลยุทธ์ของบริษัทฯ สอดคล้องกับแนวโน้มที่มุ่งเน้นด้านสิ่งแวดล้อมของโลก หนุนจากการที่บริษัทได้รับ FSC และ GOLS ซึ่งเป็นมาตรฐานที่ได้รับการยอมรับในวงกว้าง ผู้ผลิตยางรถยนต์รายใหญ่มีแนวโน้มที่จะซื้อวัตถุดิบยั่งยืนมากขึ้น และสินค้าของบริษัทฯ เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ซึ่งเราเชื่อว่าจะช่วยหนุนการเติบโตในระยะยาวให้แข็งแกร่งจากปัจจัยเสี่ยงที่น้อย

สำหรับบทวิเคราะห์ของบล.ทรีนีตี้ คาดว่ากำไรปี 2566 - 2567 ของบริษัทฯ จะเติบโตได้ตามเป้าที่ตั้งไว้ที่ร้อยละ 12 และ ร้อยละ 6 ตามลำดับ โดยราคายางและน้ำมันปาล์มดิบที่อยู่ในระดับสูงในปี 2564 - 2565 อาจชะลอตัวลงจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของหลายประเทศเพื่อชะลอเงินเฟ้อ ซึ่งอาจส่งผลให้เกิดการลดการผลิตและการบริโภคทั่วโลก อย่างไรก็ตามคาดว่ากลุ่มบริษัทฯ จะยังได้ผลบวกจากการขยายกำลังการผลิตและการปรับปรุงประสิทธิภาพภายใน โดยประเมินราคาเป้าหมายปี 2566 ของบริษัทฯ ที่ 6.9 บาท โดยอิง PER 9.1 เท่า (เทียบเคียง PER ย้อนหลังของธุรกิจผู้ผลิตยางแท่งในตลาด)

บทวิเคราะห์บล.หยวนต้า ระบุว่าอุตสาหกรรมยางพาราซึ่งเป็นธุรกิจหลักที่สร้างกำไรให้กลุ่มบริษัทฯ นั้นอยู่ในช่วงเริ่มต้นของวัฏจักรขาขึ้นรอบใหญ่ เนื่องจากอุปสงค์เร่งตัวขึ้นหลัง COVID-19 คลี่คลายแม้จะยังมีปัญหาด้านการผลิตรถยนต์จากการขาดแคลนชิพก็ตาม และมีปัจจัยหนุนจากการเปลี่ยนผ่านสู่อุตสาหกรรมรถยนต์ไฟฟ้า (EV Car) ซึ่งจะหนุนการเติบโตของยอดขายรถยนต์ให้สูงขึ้นหลังจากนี้ ขณะที่อุปทานลดลงจากอุตสาหกรรมถุงมือยางที่เติบโตและมีการเพิ่มกำลังการผลิตใหม่มากขึ้น แย่งน้ำยาง ส่วนพื้นที่ปลูกในโลกลดลงจากปัญหาด้านโรคระบาดและภัยแล้ง และการปลูกใหม่ต้องใช้เวลาทำให้มองว่าราคายางมีแนวโน้มสูงขึ้นต่อเนื่องอย่างมีเสถียรภาพในช่วง 5 ปีข้างหน้าได้ ทั้งนี้ บทวิเคราะห์บล.หยวนต้า เริ่มต้นให้มูลค่าเหมาะสม ณ สิ้นปี 2566 ที่ 7.40 บาท โดยประเมินมูลค่าพื้นฐานด้วยวิธี SOTP และใช้คะแนนจากการประเมินปัจจัยด้าน ESG ในการปรับเพิ่ม Premium ของ PER ขึ้นที่ ร้อยละ 2 ได้มูลค่าเหมาะสมสิ้น 2566 ของบริษัทฯ ที่ 7.40 บาทต่อหุ้น (จากธุรกิจ ยางธรรมชาติ ที่ 7.19 บาท และธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบ ที่ 0.21 บาท) เทียบเท่ากับ PER65 ที่ 10.1 เท่า

นอกจากนี้ บทวิเคราะห์บล.เอเซียพลัส ระบุว่า คาดการณ์แนวโน้มกำไรสุทธิปี 2565 - 2566 ของกลุ่มบริษัทฯ จะเติบโต ร้อยละ 45 จาก และ ร้อยละ 15 จากช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน จากแนวโน้มปริมาณขายยางพาราและน้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้น และราคาขายยางพาราปรับเพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก และการขยายกำลังการผลิตของกลุ่มบริษัทฯ โดยกำหนด Fair value ปี 2565 เท่ากับ 6 บาท และ Fair value ปี 2566 เท่ากับ 6.90 บาท อิง PER 8 เท่า และสามารถคาดหวังอัตราเงินปันผลตอบแทนได้ราว ร้อยละ 3 - 4 ต่อปี


ข่าวไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์+ดำเนินธุรกิจวันนี้

TEGH ประกาศแปรสภาพ "TEBP" ขึ้นแท่น บ.มหาชน เดินหน้าเข้าตลาด mai เสริมทัพธุรกิจสร้างการเติบโต

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ ประกาศแปรสภาพบริษัทย่อย คือ บริษัท "ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์" หรือ "TEBP" เป็นบริษัท "มหาชน" เรียบร้อยแล้ว เตรียมความพร้อมเข้าตลาด mai เสริมทัพสร้างความแข็งแกร่งทางการเงิน และผลักดันการเติบโตในอนาคต นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH ผู้ผลิตและจำหน่ายยางธรรมชาติ และน้ำมันปาล์มดิบรายใหญ่ในภาคตะวันออก และผู้นำด้านการผลิตพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์แบบครบวงจรรายใหญ่ในพื้นที่ EEC เปิด

คุณภากร ปีตธวัชชัย (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมกา... TEGH คว้ารางวัล Outstanding Innovative Company Awards ในงาน SET Awards 2023 — คุณภากร ปีตธวัชชัย (ที่ 2 จากซ้าย) กรรมการและผู้จัดการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเ...

บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ส... TEGH ส่งซิก Q4/66 สดใส มั่นใจปริมาณขายยางแท่งปีนี้เข้าเป้า 2 แสนตัน — บมจ.ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ (TEGH) ส่งซิกแนวโน้มผลงานไตรมาส 4/2566 สดใส ขยายฐาน...

บริษัทในเครือของบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป... TEGH ปลื้ม 4 บริษัทย่อย คว้ารางวัล CSR-DIW Continuous Award 2023 — บริษัทในเครือของบริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH จำนวน 4 บริ...