กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เผยถึงผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) โดยธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) มีมติเอกฉันท์ให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเป็น 1.25% จากเดิม 1.00% ซึ่งเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งที่สามนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2561 เป็นไปดังที่ตลาดคาดการณ์
คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยการท่องเที่ยวและการบริโภคภาคเอกชนจะเป็นแรงส่งสำคัญของเศรษฐกิจ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อในปี 2566 มีแนวโน้มสูงกว่าที่มีการคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ โดยในปี 2565 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ที่ 6.3% ผ่านจุดสูงสุดในไตรมาสที่ 3 สำหรับปี 2566 อัตราเงินเฟ้อมีแนวโน้มอยู่ที่ 3.0% เพิ่มขึ้นจากที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 2.6%
ค่าเงินบาทซื้อขายอยู่ในระดับแข็งค่ามากที่สุดในรอบกว่า 3 เดือน อยู่ที่ราว 35.25 บาทต่อดอลล่าร์สหรัฐ เงินบาท อ่อนค่าลงในปีนี้ 5.7% เนื่องจากบัญชีเดินสะพัดขาดดุล และการปรับดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ คณะกรรมการนโยบายการเงินได้ตั้งข้อสังเกตว่า เงินบาทเมื่อเทียบกับดอลล่าร์สหรัฐมีความผันผวนสูงมากท่ามกลางการคาดการณ์เกี่ยวกับนโยบายการเงินและเศรษฐกิจของประเทศเขตเศรษฐกิจหลักของโลก
การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในครั้งต่อไปจะเกิดขึ้นวันที่ 25 มกราคม 2566 โดยจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ความเสี่ยงที่มีผลต่อภาพรวมของเศรษฐกิจโลก การฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยว ความเสี่ยงในเรื่องของเงินเฟ้อ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความเป็นไปได้จากราคาพลังงานที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคณะกรรมการนโยบายการเงินย้ำว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยควรปรับเข้าสู่ระดับที่เหมาะสมสอดคล้องกับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวของเศรษฐกิจ สะท้อนให้เห็นว่าแม้มีการปรับตัวเลขประมาณการเงินเฟ้อ แต่เป็นแรงกดดันจากด้านต้นทุนมากกว่าด้านอุปสงค์ ทั้งนี้ กรุงศรียังคาดการณ์ว่าดอกเบี้ยนโยบายจะขึ้นไปอยู่ที่ 1.75% เมื่อสิ้นสุดไตรมาส 1/2566