โอสถสภาตอกย้ำการเป็นพลังสนับสนุนคนพิการด้วยสองรางวัลแห่งความภาคภูมิใจ ได้แก่ รางวัล "องค์กรต้นแบบความยั่งยืนในตลาดทุนไทยด้านสนับสนุนคนพิการปี 2565" (ประเภทดีเด่น) โดยสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ร่วมกับกระทรวงแรงงาน กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมการจัดหางาน กรมส่งเสริมและพัฒนาชีวิตคนพิการ สมาคมบริษัทจดทะเบียนไทย และสมาคมสภาคนพิการทุกประเภทแห่งประเทศไทย ซึ่งจัดขึ้นเป็นปีแรก และรางวัล "องค์กรที่สนับสนุนงานด้านคนพิการ ระดับดีเด่น ประจำปี 2565" โดยกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 จากการเป็นพลังสนับสนุนช่วยเหลือคนพิการตามแนวคิด "ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา" เน้นการส่งเสริมอาชีพ เพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้แก่คนพิการ ภายใต้โครงการ "พลังเพื่อก้าวต่อไป" หรือ "Life must go on"
โอสถสภาได้ริเริ่มโครงการ "พลังเพื่อก้าวต่อไป" หรือ "Life must go on" ขึ้นเพื่อสนับสนุนช่วยเหลือคนพิการ ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ มาตรา 35 เน้นการส่งเสริมอาชีพเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน หรือแนวคิด "ให้เบ็ดดีกว่าให้ปลา" โดยเป็นพลังให้แก่คนพิการ โดยเฉพาะหัวหน้าครอบครัวที่เคยเป็นเสาหลักของครอบครัวแต่ประสบอุบัติเหตุหรือเจ็บป่วยจนพิการ ให้สามารถกลับมาประกอบอาชีพเพื่อดูแลตนเองและครอบครัวได้อีกครั้ง ด้วยการเสริมสร้างพลังกาย ฟื้นฟูร่างกายและพัฒนาศักยภาพ เสริมสร้างพลังใจ โดยการปรับสภาพบ้านให้คนพิการสามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ด้วยตนเอง ไม่เป็นภาระของคนในครอบครัว ทำให้มีความมั่นใจอีกครั้ง และเสริมสร้างพลังชีวิต ส่งเสริมอาชีพที่เหมาะสม หรือจัดหาอุปกรณ์ประกอบอาชีพให้ผู้ที่มีทักษะแต่ขาดทุนทรัพย์ เช่น อาชีพปลูกถั่วงอก เพาะเห็ด สานกระเป๋า ขายอาหาร ตัดผม ซ่อมเครื่องใช้ไฟฟ้า เพื่อเป็นพลังให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่ย่อท้อ
ตลอดระยะเวลาที่ดำเนินโครงการฯ โอสถสภาได้สั่งสมองค์ความรู้ ซึ่งนำไปสู่การสร้างเครือข่ายความร่วมมือร่วมกับองค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน อาทิ กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กรมการจัดหางาน หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่น และกรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ รวมถึงได้ต่อยอดพัฒนาเสริมสร้างโมเดลใหม่ๆ ซึ่งสร้างความแข็งแกร่งให้แก่คนพิการ ทั้งการรวมกลุ่ม พึ่งพากันและกัน การแลกเปลี่ยนความรู้และช่องทางการจำหน่ายสินค้า ให้คำแนะนำเกี่ยวกับแนวทางการทำการตลาด ส่งเสริมการขาย และช่วยสร้างแบรนด์ให้แก่สินค้าของคนพิการในโครงการฯ ได้แก่ สินค้าเกษตรปลอดภัยใช้ชื่อแบรนด์ 'กินดี' ส่วนงานจักสานใช้ชื่อแบรนด์ว่า 'แฮนดี้' และเฟอร์นิเจอร์งานไม้ใช้ชื่อแบรนด์ 'อยู่ดี' นอกจากนี้ ยังได้สร้างเพจกินดีอยู่ดีแฮนดี้ เพื่อขยายช่องทางการทำตลาดออนไลน์ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น ที่สำคัญยังได้สนับสนุนให้คนพิการในโครงการเปลี่ยนจากผู้รับเป็นผู้ให้ แบ่งปันโอกาสที่ตนเคยได้รับให้แก่คนอื่นๆ รวมถึงได้จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้โดยคนพิการเพื่อคนพิการ เพื่อถ่ายทอดความรู้และทักษะให้แก่สมาชิกใหม่และผู้ที่สนใจ
การได้รับรางวัลทั้งสองในปีนี้ นับเป็นความภาคภูมิใจและยังแสดงให้เห็นถึงจุดยืนของโอสถสภาที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจ ควบคู่ไปกับการพัฒนาและดูแลสังคม เพื่อเติบโตอย่างยั่งยืนเคียงข้างสังคมไทย