บมจ. ซีลิค คอร์พ หรือ SELIC เผยครึ่งปีแรก 65 โกยรายได้แตะ 779 ลบ. เติบโต 4% ตามการเติบโตของทั้งสองธุรกิจ ทั้งธุรกิจกาวอุตสาหกรรมและธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว สอดคล้องกับผลงานโค้ง 2/65 โชว์กำไรขั้นต้นแตะ 86.66 ล้านบาท เติบโต 6.4% จากไตรมาสก่อน หลังบริหารต้นทุนส่งผลในเชิงบวก-จัดการต้นทุนภายในที่ดีขึ้น หนุนอัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายทยอยปรับตัวดีขึ้นในแต่ละไตรมาส
นางสาวยุวดี เอี่ยมสนธิทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซีลิค คอร์พ จำกัด (มหาชน) SELIC เปิดเผยว่า บริษัทฯ รายงานผลประกอบการรอบ 6 เดือน (1 ม.ค.-30 มิ.ย. 2565) มีรายได้รวมอยู่ที่ 779.06 ล้านบาท เติบโต 4% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว โดยมาจากการเติบโตของทั้งสองธุรกิจ คือ รายได้จากธุรกิจกาวอุตสาหกรรมเติบโต 7.9% และรายได้จากธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัวเติบโต 1.8% สอดคล้องกับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2565 บริษัทฯมีรายได้รวมอยู่ที่ 390.52 ล้านบาท คงตัวอยู่ในระดับเดียวกันกับไตรมาสก่อนและช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว รวมถึงมีกำไรขั้นต้นอยู่ที่ 86.66 ล้านบาท เติบโต 6.4% จากไตรมาสก่อน โดยเกิดจากการบริหารจัดการต้นทุนภายในที่ดีขึ้น ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายและบริการปรับตัวดีขึ้นในแต่ละไตรมาส ทั้งนี้ซีลิคสามารถบริหารจัดการต้นทุนภายในที่ดีขึ้น รวมถึงทยอยปรับราคาขายให้สอดคล้องกับการปรับขึ้นของต้นทุนวัตถุดิบ ทำให้ซีลิคสามารถทำกำไรขั้นต้นเติบโตขึ้น
"งวดครึ่งปีแรกบริษัททำรายได้เติบโต ท่ามกลางความท้าทายด้านต้นทุนวัตถุดิบ ส่วนกำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิชะลอตัว ตามต้นทุนวัตถุดิบและบรรจุภัณฑ์โดยรวมปรับตัวสูงขึ้น อีกทั้งค่าใช้จ่ายในการขายที่เพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะค่าระวางสินค้าในการส่งออก รวมถึงค่าใช้จ่ายในการบริหาร เพื่อเตรียมความพร้อมของการขยายธุรกิจในการผลิตและจำหน่ายเวชภัณฑ์ รวมถึงการนำบริษัทย่อยเข้าจดทะเบียนเพื่อซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เรามีการปรับราคาให้สอดคล้อง ทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่อรายได้จากการขายทยอยปรับตัวดีขึ้นในแต่ละไตรมาส" นางสาวยุวดี กล่าว
สำหรับด้านของต้นทุนนั้น บริษัทฯ ดำเนินการบริหารจัดการต้นทุนและค่าใช้จ่ายท่ามกลางแนวโน้มราคาวัตถุดิบที่ยังไม่อ่อนตัวลง ซึ่งคาดว่าความท้าทายนี้จะยังคงมีอยู่จากภาวะการปรับตัวของราคาสินค้าและวัตถุดิบที่สำคัญรวมถึงภาวะการเดินเรือที่ไม่แน่นอนและค่าระวางการส่งออกและการนำเข้าที่มีอัตราสูง อย่างไรก็ดี ซีลิคมีความมุ่งมั่น และพร้อมที่จะปรับตัวและสร้างวัฒนธรรมการปฏิบัติงานที่ก่อให้เกิดประสิทธิภาพประสิทธิผลด้านต้นทุน
ดังนั้นในปี 2565 แผนการปฏิบัติงานต่าง ๆ ภายในองค์กรจะเน้นแนวทางปฏิบัติเพื่อให้เกิดความคุ้มค่าต่อต้นทุนและค่าใช้จ่าย โดยอาศัยการทางานแบบ Agile ที่พร้อมเปลี่ยนแปลงอย่างคล่องตัวต่อภาวะต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้น นอกเหนือจากนั้นทีมงานวิจัยและพัฒนาจะมีบทบาทสำคัญในการต่อสู้กับความท้าทายนี้เช่นกัน
ทั้งนี้ ซีลิคมีรายได้จากการขายและบริการจากการดำเนินงานธุรกิจสองประเภท คือ ธุรกิจกาวอุตสาหกรรม และ ธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัว ซึ่งจำหน่ายทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยมีสัดส่วนการขายและบริการของธุรกิจกาวอุตสาหกรรมอยู่ที่ 45% และ ธุรกิจสติ๊กเกอร์หรือฉลากที่มีกาวในตัวอยู่ที่ 55% (ข้อมูล ณ ไตรมาส 2/2565)
ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit