ผถห. DMT อนุมัติปันผล 0.32 บ./หุ้น ร้อยละ 93.5 ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 พร้อมจ่าย 26 พ.ค.นี้

27 Apr 2022

ผู้ถือหุ้น บมจ.ทางยกระดับดอนเมือง (DMT) อนุมัติเป็นเอกฉันท์จ่ายเงินปันผลอัตรา 0.32 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่าย 26 พ.ค.65 ด้าน "ธานินทร์ พานิชชีวะ" กรรมการผู้จัดการ ประเมินปีนี้รายได้และปริมาณการจราจรเติบโตตามสภาวะเศรษฐกิจที่เริ่มฟื้นตัว พร้อมเดินหน้าลุยประมูลโครงการภาครัฐ 4-5 โครงการ เพื่อสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน

ผถห. DMT อนุมัติปันผล 0.32 บ./หุ้น  ร้อยละ 93.5 ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 พร้อมจ่าย 26 พ.ค.นี้

นายธานินทร์ พานิชชีวะ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ทางยกระดับดอนเมือง จำกัด (มหาชน) (DMT) เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2565 ในวันที่ 26 เมษายน 2565 ได้มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลสำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.32 บาท หรือเป็นยอดเงินปันผลรวมจำนวนทั้งสิ้น 377,994,496 บาท คิดเป็น 93.5% ของกำไรสุทธิประจำปี 2564 ซึ่งบริษัทฯได้จ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 ในอัตราหุ้นละ 0.07 บาท ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและรับชำระแล้วจำนวน 1,181,232,800 หุ้น หรือเป็นยอดเงินปันผลรวมจำนวน 82,686,296 บาท ดังนั้น บริษัทฯ จะจ่ายเงินปันผลส่วนที่เหลืออีกหุ้นละ 0.25 บาท สำหรับผลการดำเนินงานประจำปี 2564 ของจำนวนหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและรับชำระแล้วจำนวน 1,181,232,800 หุ้นหรือเป็นยอดเงินปันผลรวมจำนวน 295,308,200 บาท โดยบริษัทฯ กำหนดวันจ่ายเงินปันผลในวันที่ 26 พฤษภาคม 2565

นอกจากนี้ ยังมีมติอนุมัติการจัดสรรกำไรเป็นทุนสำรองตามกฎหมายในอัตราร้อยละ 5 ของกำไรสำหรับปี 2564 เป็นจำนวนเงิน 20,215,055.45 บาท

ขณะเดียวกันยังมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ จำนวน 4 ท่าน แทนกรรมการที่ต้องออกตามวาระดังนี้ 1.นายเรวัต ฉ่ำเฉลิม 2.นายอานนท์ เหลืองบริบรูณ์ 3.ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย 4.พลเอกสืบสันต์ ทรรทรานนท์

ดร.ศักดิ์ดา พรรณไวย รองกรรมการผู้จัดการสายงานธุรกิจและการเงิน DMT กล่าวเสริมว่า แนวโน้มรายได้และปริมาณจราจรในปี 2565 มีปัจจัยที่ส่งเสริมให้ปริมาณจราจรฟื้นตัวอย่างรวดเร็วตามระดับของมาตรการผ่อนคลายกิจกรรมของภาครัฐต่อเนื่อง การเร่งกระจายการฉีดวัคซีน การเปิดภาคเรียนแบบ Onsite และแผนการเปิดประเทศที่ภาครัฐเปิดรับนักท่องเที่ยวเข้าประเทศ โดยไม่ต้องกักตัว ซึ่งจะสนับสนุนการเดินทางและปริมาณจราจรบนทางยกระดับให้เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากลักษณะธุรกิจของบริษัทฯ เป็นสาธารณูปโภคพื้นฐานประเภททางด่วนที่เกี่ยวข้องกับการเดินทาง ดังนั้นจึงคาดว่าธุรกิจในอุตสาหกรรมนี้จะฟื้นตัวเร็วกว่าอุตสาหกรรมอื่นๆ เพราะทุกภาคส่วนยังจำเป็นต้องมีการเดินทาง และเมื่อพิจารณารูปแบบการเดินทางเปรียบเทียบ รถยนต์ส่วนบุคคล รถโดยสารสาธารณะ และรถไฟฟ้า จะเห็นว่าการเดินทางโดยรถยนต์ส่วนบุคคลสามารถบริหารจัดการเรื่อง Social Distancing ได้ดีกว่า รวมถึงโครงการพัฒนาพื้นที่โดยรอบทางยกระดับดอนเมืองและการขยายตัวของชุมชน ยังคงมีแนวโน้มเติบโตอย่างต่อเนื่อง

สำหรับแผนธุรกิจในปีนี้ บริษัทฯมีความพร้อมเข้าร่วมประมูลโครงการที่ภาครัฐเปิดให้เอกชนเข้าร่วมลงทุน ทั้งในธุรกิจทางด่วนและทางพิเศษ (Toll Road Business) อาทิ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองส่วนต่อขยายทางยกระดับอุตราภิมุข ช่วงรังสิต-บางปะอิน (M5), โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมือง สายบางขุนเทียน-บ้านแพ้ว (M82), โครงการทางพิเศษสายกะทู้-ป่าตอง และธุรกิจอื่นนอกเหนือจากธุรกิจทางด่วนและทางพิเศษ (Non-Toll Road Business) อาทิ โครงการพัฒนาจุดพักรถริมทางหลวง (Rest Area) และ โครงข่ายระบบขนส่งสาธารณะระบบรอง (Feeder) เชื่อมต่อโครงการรถไฟฟ้าชานเมืองสายสีแดง

HTML::image(
ฝากข่าวประชาสัมพันธ์?

ติดต่อเราได้ที่ facebook.com/newswit