อาร์ ซี แอล เผยกลยุทธ์เร่งเครื่องลุยครึ่งปีหลัง เดินหน้าเสริมทัพกองเรือลำใหม่ส่งสัญญาณความพร้อมรับเทรนด์ High Demand อย่างต่อเนื่อง

บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) ผู้ให้บริการสายการเดินเรือระหว่างประเทศในระบบคอนเทนเนอร์สัญชาติไทย มุ่งเป้าเดินตามแผนครึ่งปีหลังด้วยกลยุทธ์ส่งเสริมการส่งออก พร้อมเสริมแกร่งด้วยการซื้อเรือพร้อมใช้เพิ่มอย่างต่อเนื่องตลอดปี ที่ผ่านมา564 มาแล้ว 5 ลำ ขนาด 6,ระหว่างประเทศระหว่างประเทศระหว่างประเทศTEUs ที่ผ่านมา ลำ 3,ระหว่างประเทศระหว่างประเทศระหว่างประเทศTEUs ที่ผ่านมา ลำ อาร์ ซี แอล,5ระหว่างประเทศระหว่างประเทศTEUs อาร์ ซี แอล ลำ ล่าสุดเซ็นสัญญาสั่งต่อเรือใหม่อีก ที่ผ่านมา ลำ เมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยเป็นเรือขนาด อาร์ ซี แอลที่ผ่านมา,ระหว่างประเทศระหว่างประเทศระหว่างประเทศ TEUs เพื่อเตรียมรองรับขาขึ้นของธุรกิจเดินเรือใน อาร์ ซี แอล-ที่ผ่านมา ปีนี้ ทั้งนี้ทาง RCL ได้ให้การสนับสนุน Sea Group ในการขนส่งถังออกซิเจน จำนวน อาร์ ซี แอล,5ระหว่างประเทศระหว่างประเทศ ถังจากประเทศจีน เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิดในประเทศไทย ซึ่งเป็น ส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมอีกทางหนึ่ง

อาร์ ซี แอล เผยกลยุทธ์เร่งเครื่องลุยครึ่งปีหลัง เดินหน้าเสริมทัพกองเรือลำใหม่ส่งสัญญาณความพร้อมรับเทรนด์  High Demand อย่างต่อเนื่อง

นายทวินโชค ตันธุวนิตย์ ผู้อำนวยการอาวุโสหัวหน้าภูมิภาค ปฏิบัติการและธุรกิจ บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) เปิดเผยว่า "จากผลประกอบการไตรมาส 2 ของปี ที่บริษัทฯ มีกำไร 3,200 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 14 เท่าของผลประกอบการในไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ทั้งนี้ธุรกิจการขนส่งสินค้าทางเรือมีแนวโน้มเติบโตมากขึ้นจากความต้องการขนส่งสินค้าประเภท สินค้าอุปโภค, เวชภัณฑ์ และสินค้าจากอีคอมเมิร์ซที่เพิ่มสูงขึ้นในสถานการณ์โควิด-19 อีกทั้งคาดว่าจะยังคงสูงต่อเนื่องในช่วงไตรมาส 3 และ 4 ของปีนี้ ประกอบกับการที่หลายท่าเรือสำคัญในต่างประเทศ ติดขัด หนาแน่นทำให้การหมุนเวียนช้าลง จึงทำให้ขาดแคลนจำนวนตู้คอนเทนเนอร์และเรือ ทำให้แนวโน้มค่าระวางจะสูงขึ้น อาร์ ซี แอล เผยกลยุทธ์เร่งเครื่องลุยครึ่งปีหลัง เดินหน้าเสริมทัพกองเรือลำใหม่ส่งสัญญาณความพร้อมรับเทรนด์  High Demand อย่างต่อเนื่อง

ทางบริษัทฯได้เล็งเห็นถึงอัตราการเจริญเติบโตของปริมาณสินค้าในถูมิภาคเอเชียที่จะเติบโตสูงสุดในโลกในเวลาอันใกล้ โดยจะมีสามเสาหลัก จีน อาเซียน และ อินเดีย ดังนั้นทางบริษัทจึงให้ความสนใจในการลงทุนกองเรือที่จะมาให้บริการในภูมิภาคนี้มากขึ้น

นอกจากธุรกิจขนส่งสินค้าทางทะเลแล้ว บริษัทฯ ในกลุ่ม ยังดำเนินธุรกิจแบบครบวงจร ได้แก่ บริหารท่าเรือ คลังสินค้า ลานตู้คอนเทนเนอร์ ขนส่งทางบกและทางน้ำในประเทศ และยังขยายการให้บริการโลจิสติกส์ ในประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคเอเชีย เช่น จีน และ อินเดีย อีกด้วย

นอกเหนือจากการสร้างความเติบโตในธุรกิจแล้ว ทางบริษัทมีนโยบายในการสนับสนุนการบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ได้สนับสนุนSea Group (Garena, Shopee, SeaMoney) ในการขนส่ง ถังออกซิเจน จำนวน 1,500 ถัง จากประเทศจีน ด้วยเรือ METHI BHUM เพื่อช่วยเหลือผู้ป่วยโควิด ในประเทศไทย โดยบริษัทฯ เป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการขนส่งทางเรือ, ดำเนินพิธีการขาเข้าและมีแผนจะสนับสนุนค่าใช้จ่ายรวมถึงการขนส่งเพื่อกระจายถังออกซิเจนไปยังโรงพยาบาลที่มีความต้องการความช่วยเหลือภายในเดือนกันยายน เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือสังคมในครั้งนี้ด้วย

"เพื่อการบริหารที่แม่นยำและฉับไวต่อสถานการณ์การแข่งขันของธุรกิจ มันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งยวด ที่จะนำระบบ IT ต่างๆ มาใช้ บริษัทฯ ได้พัฒนาระบบไม่ว่าจะเป็นระบบศูนย์กลางที่สร้างโปรแกรมใหม่ของ RCL ขึ้นเอง รวมถึงระบบที่นำจากภายนอกมาใช้ เช่น ระบบหุ่นยนต์ สำหรับทำงานซ้ำซาก ให้รวดเร็วขึ้น และ Business Intelligence ให้เป็นจุดรวมศูนย์และการแสดงข้อมูลของการปฏิบัติงานจากส่วนต่างๆ เพื่อการบริหารและเข้าถึงการแก้ปัญหาให้ครอบคลุมและรวดเร็ว และแม่นยำมากยิ่งขึ้น" นายทวินโชค กล่าวปิดท้าย

เกี่ยวกับ RCL
บมจ.อาร์ ซี แอล (RCL) ก่อตั้งขึ้นในปี 2522 เป็นสายการเดินเรือตู้คอนเทนเนอร์ของไทย โดยบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ไทยตั้งแต่ปี พ.ศ. 2531 ธุรกิจหลัก คือ บริการ Shipper-Owned-Container หรือ (SOC) และ บริการ Carrier-Owned-Container (COC) ที่มีเครือข่ายครอบคลุมอยู่ทั่วเอเชีย ปัจจุบัน RCL เป็นเจ้าของและดำเนินการกองเรือ 48 ลำซึ่งมีขนาดตั้งแต่ 200 TEU ถึง 6621 TEU นอกจากนี้ยังมีกองเรือจำนวน 122,422 TEU เพื่อรองรับการขนส่ง COC ของตัวเองเช่นกัน นอกจากนั้น RCL ยังได้มีการสร้างเครือข่ายด้านโลจิสติกส์กับลูกค้าบริษัทและเอเยนซี่สำคัญๆ ในต่างประเทศ จำนวน 69 แห่ง ในวันนี้ RCL ได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการบริการ SOC และ เป็นผู้บริหารท่าเรือจำนวน 2 ท่าในภูมิภาคเอเชีย


ข่าวระหว่างประเทศ+อาร์ ซี แอลวันนี้

อลิอันซ์ เปิดบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ทุกประเทศยังคงเผชิญแรงสั่นสะเทือน คาดไทยได้รับผลกระทบปานกลาง

กลุ่มอลิอันซ์ เปิดเผยบทวิเคราะห์เศรษฐกิจโลกหลังนโยบายทรัมป์ ชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจโลกกำลังเผชิญกับแรงกดดันที่เข้มข้นขึ้น หลังจากสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในวาระที่สอง ประกาศใช้มาตรการภาษีแบบตอบโต้ (reciprocal tariffs) โดยตั้งเป้าเพิ่มภาษีนำเข้าสินค้าจากจีนสูงสุดถึง 130% ซึ่งถือเป็นระดับที่ไม่เคยมีมาก่อนนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษ 1890 ความเคลื่อนไหวดังกล่าวส่งผลให้ต้นทุนการค้าระหว่างประเทศพุ่งสูงขึ้นทันที โดยเฉพาะในภาคยานยนต์ อุตสาหกรรมการผลิต และอิเล็กทรอนิกส์ ทั้งนี้ สหรัฐฯ

กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระ... DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที "THAIFEX - ANUGA ASIA 2025" — กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ร่วมกับหอการค้าไทย แ...

เดินทางกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในราคาสุดคุ้ม ... 'บินไทยเวียตเจ็ท โปรฯ ดีไม่มีพัก' เดินทางสุดคุ้ม ตั๋วเริ่มต้นเพียง 0 บาท — เดินทางกับเวียตเจ็ทไทยแลนด์ในราคาสุดคุ้ม ด้วยโปรโมชั่น "บินไทยเวียตเจ็ท โปรฯ ดี...

เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษ... JPARK คว้าประกาศนียบัตร Climate Action Leaders Recognition — เมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568 ที่ผ่านมา บริษัท เจนก้องไกล จำกัด (มหาชน) หรือ JPARK ผู้ให้บริการท...

อัปเดทโมเดล เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐา... Alibaba Cloud นำนวัตกรรมเสริมขีดความสามารถด้าน AI พร้อมให้บริการแก่ลูกค้านานาประเทศ — อัปเดทโมเดล เครื่องมือ และโครงสร้างพื้นฐาน ประสิทธิภาพล้ำหน้า อาลีบา...